ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์วิถีใหม่ อุ่นใจ ปลอดภัย กับ กอ.รมน. ด้วยจุดบริการ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกพื้นที่ตลอดห้วงเทศกาล

พ.อ.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส รองโฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวันทำให้มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวเดินทางสัญจรไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละจังหวัดได้มีการจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทยวิถีใหม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดห้วงวันหยุดยาวนี้

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. มีความห่วงใยต่อประชาชนในห้วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงมีดำริให้ทุกหน่วยงาน รวมทั้ง กอ.รมน. เตรียมพร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ รอง ผอ.รมน. จึงได้มอบหมายให้ พลเอก สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เลขาธิการ กอ.รมน. เน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ร่วมกับทุกภาคส่วนในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการคมนาคมสัญจร, การป้องปรามการก่ออาชญกรรม ตลอดจนการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเทศกาล

สำหรับการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนนั้น กอ.รมน. ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นำโดยหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายมวลชนในพื้นที่ เตรียมพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนในการเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา โดยได้บูรณาการร่วมกับกองทัพบก ในการจัดตั้งจุดบริการประชาชนทั่วประเทศ 94 จุด เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถแวะพัก หรือสอบถามเส้นทางได้ตลอด 24 ชม. ขณะเดียวกันได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ กวดขันวินัยจราจรกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงให้บริการช่วยเหลือประชาชนในกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที

ส่วนการป้องปรามการก่ออาชญากรรม กอ.รมน. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถสายตรวจระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารออกปฏิบัติงานตรวจตราในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดล่อแหลม รวมทั้งจัดตั้งจุดตรวจตามพื้นที่สำคัญในพื้นที่ กทม. และจังหวัดต่างๆ เพื่อป้องปรามการก่ออาชญกรรมและการกระทำผิดกฎหมาย สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยประชาชนสามารถร่วมแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนความมั่นคง 1374 ได้ตลอด 24 ชม.

ในขณะเดียวกันได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และสหวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข ลงตรวจสถานที่ร้านอาหาร ลานจัดกิจกรรมสงกรานต์ ในพื้นที่ต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรการที่ ศบค. และมาตรการที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมรณรงค์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่นโดยยึดหลักการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) เว้นระยะห่าง1-2 เมตร, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา, หมั่นล้างมือ, ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอยู่เสมอ

สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้บูรณาการกับส่วนราชการ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร, ผู้นำศาสนา ตลอดจนพลังมวลชนในพื้นที่จัดกิจกรรม “รอมฎอนสันติสุข” เพื่อแสดงออกถึงความต้องการสันติสุขและปฏิเสธความรุนแรงของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนสันติสุขอย่างแท้จริงในช่วงการปฏิบัติศาสนกิจการถือศีลอด ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับงานด้านการข่าวด้วยความไม่ประมาท และเพิ่มความเข้มงวดต่อมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงที่ พร้อมจัดตั้งจุดตรวจจุดบริการประชาชนในย่านคมนาคมสำคัญทั่วทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอดห้วงเทศกาล

ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทย 2565 นี้ กอ.รมน. ขอให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย เคารพกฎหมายจราจร เมาไม่ขับ เพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย พร้อมสืบสานวัฒนธรรมไทยสงกรานต์วิถีใหม่ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์

กอ.รมน. ขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตนตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ให้สังเกตอาการตนเอง 7-10 วันหลังกลับจากการร่วมกิจกรรม ยึดหลักป้องกันตนเองและผู้อื่น เมื่อมีอาการไม่สบายคล้ายเป็นหวัด, มีความเสี่ยงในการสัมผัสผู้ป่วยให้คัดกรองตนเองด้วย ATK หากผลเป็นลบให้ตรวจซ้ำเมื่อครบ 7 วัน หรือเมื่อมีอาการ

และหากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที หากผลเป็นบวกให้แจ้งสายด่วน สปสช.1330 เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาให้เร็วที่สุด โดยช่วงที่อยู่ระหว่างสังเกตอาการหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนโดยไม่จำเป็น และควรสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา เพื่อร่วมกันควบคุมและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วยกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน