วันนี้ (8 กรกฎาคม 2565 ) เวลา 10.00 น. ณ เวทีกลาง งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 19 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จับมือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมการปลูกพืชสุขภาพและการแพทย์ โดยมี นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมลงนามในพิธี และมี นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผู้อำนวยการกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ นายณรงค์ ขันติวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นายผลึก อาจเทพ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาลูกค้าและชุมชน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ นายจิรศักดิ์ สุยาคำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนา SME และ Startup ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วมเป็นสักขีพยาน ในครั้งนี้

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของเกษตรกรผ่านการยกระดับชุมชนสู่ความยั่งยืนด้วยการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร ภายใต้หลักการตลาดนำการผลิต ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงความร่วมมือในการที่จะหาแนวทางหรือวิธีการเพื่อจะส่งเสริมให้เกษตร มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการปลูก การรวบรวม และการแปรรูปสมุนไพรให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ ลดการการพึ่งพิงการนำเข้าสมุนไพรจากต่างประเทศ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เริ่มให้ความสำคัญของเกษตรกรกลุ่มที่ปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพ จากเดิมการปลูกสมุนไพรแบบหัวไร่ปลายนา แต่ขณะนี้หากกล่าวถึงอุตสาหกรรมสมุนไพร ถ้าเกษตรกรไม่ปลูกสมุนไพรเป็นหลักไม่สามารถไปต่อได้ เพราะหากนำเข้าโรงงานวัตถุดิบต้องได้มาตรฐาน มีใบรับรอง ดังนั้นการพัฒนาของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่สนับสนุนเกษตรกร มีแนวคิดเปลี่ยนอาชีพปลูกสมุนไพร มีขีดความสามารถปลูกแปลงขนาดใหญ่หรือการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่บริเวณเดียวกันที่สามารถจัดการบริหารได้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เข้าไปช่วยดูแลรับรองคุณภาพในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น เกษตรกรที่ปลูกสมุนไพรเริ่มทำมาหากินจากสิ่งเหล่านี้ได้

สำหรับการร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) นับว่าเป็นแหล่งทุนใกล้ชิด กับเกษตรกร ทาง ธกส. มีแนวคิดการสนับสนุนความรู้ด้านการตลาดให้กับเกษตรกรที่ปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพ จึงเป็นที่มาของการร่วมมือต้องการทำให้การปลูกสมุนไพรเป็นอาชีพเลี้ยงดูชุมชนได้อย่างจริงจัง ลงพื้นที่เฟ้นหากลุ่มที่ทำเป็นอาชีพไปให้ความรู้ ให้ทุนเพื่อต่อยอดในอาชีพที่ทำอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้นการจะเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกร ต้องลงทุนปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยเข้าร่วมโครงการกับ ธกส.สามารถมีเงินทุนเพื่อขยายแปลง หรือพัฒนาด้านอื่นๆ ส่วนหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของเกษตรกรกลุ่มแรกประกอบด้วย 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก มหาสารคาม ศรีสะเกษ สระบุรี จันทบุรี นครปฐม สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา ซึ่งทาง ธกส.ต้องการข้อมูลเกษตรกรเป็นผู้ปลูกจริง ขายจริง แต่ต้องการพัฒนาศักยภาพ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ช่วยสนับสนุนช่วยเกษตรกรที่จะต่อยอดทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การแปรรูปหรือต้องการสมุนไพรที่ได้รับมาตรฐาน

ขอเชิญประชาชนที่สนใจสามารถร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม 256๕ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอล์ 11-12 พบกับกิจกรรมต่างๆ อาทิ โซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐาน การแจกต้นพันธุ์สมุนไพรหายาก ตลาดนัดความรู้ เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร. 0-2149-5649, Facebook Fanpage มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติหรือ Website: https://natherbexpo.dtam.moph.go.th

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน