หลังวิกฤตใหญ่อย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กินระยะเวลายาวนานร่วม 3 ปี นำมาสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนทั้งโลกแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ หนึ่งในนั้นคือรูปแบบการทำงานที่หลายบริษัทต่างปรับเปลี่ยนเป็นแบบไฮบริดมากขึ้น โดยให้พนักงานเข้าออฟฟิศสลับกับ work from home หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้

แม้จะมีอิสระมากกว่าเดิม ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ แต่หลายครั้งการทำงานก็ทำให้เราเหนื่อยล้าและหมดไฟได้ ทางเลือกยอดฮิตของใครหลายๆ คน คือการออกเดินทางหาสถานที่ใหม่ๆ ในการทำงาน นอกจากจะได้ไอเดียใหม่ต่อยอดงานที่มีคุณภาพแล้ว ยังได้พักผ่อนเติมพลังชีวิต เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวบทใหม่ให้ตัวเอง

ซึ่งหลายคนมีข้อจำกัดด้านเวลา จึงเลือกเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ และช่วงหน้าฝนแบบนี้ตัวเลือกแรกที่ขึ้นมาในหัวคงหนีไม่พ้น ‘จังหวัดนครนายก’ เมืองรองที่ไม่ใช่แค่จังหวัดทางผ่าน แต่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแสนสวยงาม ตามคำขวัญที่ว่า “เมืองในฝันที่ใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ” นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย วัฒนธรรมท้องถิ่น มีดอกไม้-ต้นไม้นานาชนิดให้เลือกชอป รวมทั้งวัดสวยชื่อดัง รอให้สายบุญไปไหว้พระ เสริมสิริมงคลอีกด้วย เรียกว่ามาจังหวัดนี้ ครบจบในที่เดียว !

วันนี้ขออาสาพาทุกคน ขับรถหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ประมาณสองชั่วโมง ไปสูดกลิ่นอายธรรมชาติให้เต็มปอด ทดลองใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ 2 วัน 1 คืน กับหลากหลายที่เที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงาม ที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสได้ตลอด 365 วัน

เขื่อนขุนด่านปราการชล

เริ่มต้นทริปกันด้วย แลนมาร์กสำคัญที่ใครก็ต้องมาเยือน ‘เขื่อนขุนด่านปราการชล’ ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในไทยและในโลก ! ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้ง และดินเปรี้ยว








Advertisement

ชมวิวริมสันเขื่อน

เขื่อนขุนด่านปราการชล ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครนายก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่และแชะภาพวิวสุดอลังบนสันเขื่อน ที่ด้านหนึ่งเผยให้เห็นอ่างเก็บน้ำที่โอบล้อมด้วยภูเขา และอีกด้านฉายวิวตัวเมืองแบบพาโนรามา รวมทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ไม่เก็บค่าเข้า !

ล่องเรือไปหา ‘เขาช่องลม’

มานครนายกทั้งที ไฮไลต์เด็ดอีกแห่งที่พลาดไม่ได้คือ ‘เขาช่องลม’ ที่ใครๆ ต่างก็ขนานนามกันว่าเป็น ‘กรีนแลนด์เมืองไทย’ สถานที่เที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าฝน ตั้งอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยนักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือเข้าไป ลักษณะเป็นช่องแคบระหว่างขุนเขา เขียวขจีไปด้วยป่าทุ่งหญ้าไต่ไล่ระดับตามเนินขึ้นไปสู่ผืนป่าเขียวครึ้มข้างบน

ค่าเรือเหมา 1,500 บาท / ไม่เกิน 7 คน

8 คนขึ้นไป หรือนั่งรวมกับคนอื่น ตกคนละ 200 บาท

กรีนแลนด์เมืองไทย

บรรยากาศของ ‘เขาช่องลม’ จะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน น้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชลจะลดระดับลง บวกกับฝนที่ตกลงมา ทำให้ทุ่งหญ้ากลับมาเขียวขจี และจุดอื่นๆ ในเขื่อน ทั้งลำธาร โขดหิน จะเผยความงามที่ซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำออกมา บอกเลยว่าสวยงามสบายตามากๆ

สายลุยถูกใจสิ่งนี้ !

ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ ชอบปีนป่ายออกแรงต้องปักหมุดไว้ เพราะเส้นทางบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ต้องปีนข้ามโขดหิน ฝ่าทางเดินที่ยากพอสมควร จึงควรเลือกชุดที่ทะมัดทะแมง รองเท้าที่พร้อมลุย ที่สำคัญระวังลื่น เหนื่อยหน่อยแต่เห็นวิวแล้วคุ้มแน่นอน !

น้ำตกเขาช่องลม

ในบริเวณเขาช่องลมมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ ! ทั้งทุ่งหญ้า ป่าไม้ สายน้ำ ลำธาร โขดหิน โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่กลางน้ำ เป็นมุมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่าประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบกับ ‘น้ำตกเขาช่องลม’ ไหลชุ่มฉ่ำอยู่ท่ามกลางผืนป่าใหญ่ เดินมาเหนื่อยๆ ก็ต้องลงแช่น้ำเย็นให้สบายตัวสักหน่อยแล้ว

จุดต้นน้ำ

‘ต้นน้ำ’ อีกจุดแวะสำคัญที่เมื่อล่องเรือเข้ามาแล้วไม่ควรพลาด ลักษณะเป็นช่องเขาตามธรรมชาติ ยามน้ำลดระดับจะเผยความสวยงามของวิวทิวทัศน์ทุ่งหญ้าบนเนินเขากว้างไกลในสองฟากฝั่ง มีลำธารที่ไหลมาจากป่าต้นน้ำไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนขุนด่านฯ บริเวณต้นน้ำมีทางเดินเลาะริมลำธาร และแยกขึ้นไปยังเนินเขา เมื่อเดินลึกเข้าไปจะมีเวิ้งลำธารน้ำเป็นรูปตัว S บรรยากาศให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ ฟินสุดๆ

ตามล่าหาน้องสุขใจ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน พร้อมกิจกรรมสุดว้าว ชวนนักท่องเที่ยวออกตามหา ‘น้องสุขใจ’ Mascot สีขาวสุดน่ารัก ซึ่งตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด

ใครผ่านไปผ่านมาที่เขื่อนขุนด่านฯ จังหวัดนครนายกแห่งนี้ อย่าลืม ! ตามหาน้องสุขใจ เพื่อสแกน QR Code ที่อยู่บนเสื้อน้องสุขใจ ลุ้นรับของรางวัล สิทธิพิเศษ หรือข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์มากมาย !

ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า

หลังจากปีนป่ายออกแรงช่วงเช้า ก่อนออกเดินทางต่อต้องแวะเติมของอร่อยลงท้องกันสักหน่อย ที่ ‘ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า’ จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่การเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวมาในกะลามะพร้าว รสชาติกลมกล่อม ไม่ต้องปรุงเยอะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ทอดมัน ปอเปี๊ยะทอด ฯลฯ สายกินห้ามพลาด !

พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์

ช่วงบ่ายถึงเวลาเก็บแต้มบุญ แวะไหว้พระเสริมสิริมงคลที่ ‘พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์’ สถานที่จำลองการแสดงโอวาทปาติโมกข์ครั้งแรกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะได้เห็นพระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่หน้าตัก 9 เมตร สูง 13 เมตร รายล้อมด้วยรูปปั้นพระอรหันต์สาวก 1,250 องค์ และที่นี่ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิของพุทธศาสนิกชนอีกด้วย

วังหิน ริเวอร์แคมป์ปิ้ง

เที่ยวมาทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น แวะเข้าที่พักกางเต็นท์ริมน้ำสุดชิลล์ ที่ ‘วังหิน ริเวอร์แคมป์ปิ้ง’ อาบน้ำให้ผ่อนคลายอีกหน่อย สูดหายใจเข้าลึกๆ ซึมซับบรรยากาศให้สมองปลอดโปร่ง คืนนี้พร้อมทำงานต่อได้ยาวๆ

ตื่นเช้าสูดอากาศธรรมชาติ

หลังจากนอนเต็มอิ่ม ถึงเวลาตื่นเช้ารับวันใหม่ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อม ฟังเสียงสายลม สายน้ำ รับแสงแดดอ่อนๆ นั่งจิบกาแฟดริป ปล่อยใจสบายๆ พร้อมออกเดินทางต่อ !

ชุมชนไทยพวน จ.นครนายก

‘ไทยพวน’ เป็นชื่อเรียกคนพวนที่อพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศลาว ที่มาตั้งถิ่นฐานตามจังหวัดต่างๆ ในไทย เช่น ลพบุรี สุพรรณบุรี และสุโขทัย ฯลฯ

สำหรับจังหวัดนครนายก ชาวไทยพวนอาศัยอยู่กันมากบริเวณตำบลหนองแสง ตำบลเกาะโพธิ์ ตำบลท่าเรือ และที่ตำบลเกาะหวายแห่งนี้

ชาวไทยพวนปัจจุบันยังมีวิถีชีวิตแบบเกษตรกรรม ผลิตข้าวของเครื่องใช้และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากธรรมชาติที่หาง่ายในพื้นที่ จากภูมิปัญญาของตัวเอง และยังคงรักษาภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอย่างเหนียวแน่น ทั้งภาษา อาหาร และการทอผ้า

การเปิดหมู่บ้านให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน ทำให้ได้เห็นถึงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของที่นี่ ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากส่งเสริมอาชีพคนในชุมชนแล้ว ยังมีส่วนร่วมช่วยกันดูแลและอนุรักษ์สืบสานสิ่งดีงามเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป

ชิมขนมพื้นถิ่น ‘ข้าวกระยาคู’

มาชุมชนไทยพวนทั้งที ต้องห้ามพลาดขนมไทยโบราณหาทานยากอย่าง ‘ข้าวกระยาคู’ หรือ ‘ข้าวยาคู’ ข้าวกระยาคู เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งที่นำข้าวอ่อนมาตำให้เม็ดแหลก แล้วกรองเอาส่วนที่เป็นน้ำมาต้มกับน้ำตาล ทำให้มีลักษณะคล้ายแป้งเปียกสีเขียวอ่อน รสนุ่มละมุนลิ้น หอมกลิ่นยอดข้าวอ่อน โดยก่อนทานอาจราดด้วยน้ำกะทิเล็กน้อยหรือใส่น้ำมะพร้าวอ่อน เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมหอมมัน

เที่ยว ‘วัดมณีวงศ์’ ชมถ้ำพญานาค

เก็บแต้มบุญก่อนกลับ แวะวัดมณีวงศ์ ไหว้พระ ขอพรและบูชา ‘พญานาค’ ตื่นตาตื่นใจไปกับความอลังการของ ‘วังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช’ ถ้ำพญานาคที่เสมือนหลุดเข้าไปในเมืองบาดาลจริงๆ ภายในกว้างขวาง ประกอบด้วยประติมากรรมปูนปั้นเหล่าพญานาคและบริวารพญานาคนับพันตัว จัดแสงสีสวยงามตระการตาทุกมุม

เซลฟี่อุโมงค์ป่าไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม

บริเวณด้านหน้าวัดจุฬาภรณ์วนาราม มีซุ้มไผ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเอียงเข้าหากันระหว่างทางเดินที่ทอดยาวหลายเมตร จนกลายเป็นอุโมงค์ไผ่เขียวขจีแสนสวยงาม อีกหนึ่งจุดเช็กอินยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะแชะภาพ พร้อมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ

แวะชอปก่อนกลับที่ ‘หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15’

ก่อนกลับบ้าน แวะซื้อต้นไม้ที่ ‘หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15’ สถานที่จำหน่ายพรรณไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สองฝั่งถนนเรียงรายไปด้วยร้านต้นไม้ ดอกไม้ มีตั้งแต่ไม้ประดับขนาดเล็ก ไปจนถึงต้นไม้ขนาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ ถึงกับเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว แถมยังได้เติมความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์กับผู้รู้จริงอีกด้วย

365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน

นอกจากจังหวัดนครนายกแล้ว ยังมีอีกหลายภูมิภาคในเมืองไทย ที่รอให้เราเดินทางออกไปสัมผัสได้ตลอด 365 วัน ซึ่งเป็นโครงการที่ ททท. ทำเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

หัวใจของ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน คือ การเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ที่สดใส อเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม เพราะตลอดทั้ง 365 วัน มีหลายฤดู หลากเทศกาล ล้านวิถีชีวิต ทุกการเดินทางล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ททท. จึงอยากชวนคนไทยออกมาเที่ยวเมืองไทย สร้างตำนานการเดินทางท่องเที่ยวบทใหม่ที่น่าประทับใจและบอกต่อได้


📍Locations

– เขื่อนขุนด่านปราการชล
– เขาช่องลม
– น้ำตกช่องลม
– จุดต้นน้ำเขาช่องลม
– ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า
– พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี
– วังหิน ริเวอร์แคมป์ปิ้ง
– ชุมชนไทยพวนบ้านเกาะหวาย
– วัดมณีวงศ์
– ซุ้มต้นไผ่ วัดจุฬาภรณ์วนาราม
– หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15

#AmazingThiland #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม #ปีท่องเที่ยวไทย2566 #เที่ยวนครนายก #นครนายก #365วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน #ททท. #workfromeverywhere #NewNormal

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน