การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ด้วยประสิทธิภาพของการรักษาที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นและยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กลัวเข็ม สำหรับคนที่ยังไม่เคยเข้าวงการฉีดฟิลเลอร์หรือกำลังเกิดความสนใจ และยังไม่รู้ว่าควรเริ่มศึกษาจากจุดไหนก่อน ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาดเพราะเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์พร้อมคำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่กำลังเข้าวงการความงามชนิดนี้ให้ได้ทราบไปพร้อม ๆ กันค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ?

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์ก็คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid เข้าไปที่ชั้นใต้ผิวหนังตรงบริเวณที่ผิวเริ่มเสื่อมสภาพหรือบริเวณที่ผิดเกิดการยุบตัวลงจนเห็นร่องลึก โดยตัวฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยเติมเต็มให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึงและดูอ่อนวัย สามารถปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องง้อวิธีการผ่าตัดเลยแม้แต่น้อย ฉีดเสร็จแล้วก็ยังกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยไม่ต้องพักฟื้น สำหรับหัตถการนี้สามารถนำมาเติมเต็มได้ทั้งบริเวณใต้ตา ปรับรูปทรงปาก เติมเต็มร่องต่าง ๆ ปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนที่ต้องการโดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ฟิลเลอร์สามารถนำมาเติมเต็ม ฟื้นฟูบริเวณไหนได้บ้าง

ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่โดยส่วนมากจะถูกนำมาฉีดในบริเวณที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือบริเวณที่ต้องการเติมเต็มให้ผิวดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้นสามารถนำมารักษาได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ รวมไปถึงมือ และตำแหน่งที่ได้รับความนิยมก็คือ

  • บริเวณใต้ตา – เป็นการ แก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา แก้ใต้ตาคล้ำ
  • บริเวณริมปาก – จะเป็นการช่วยปรับรูปทรงต่างๆให้ดูอวบอิ่ม เป็นกระจับสุขภาพดี
  • บริเวณคาง – ช่วยเสริมให้ได้รูปหน้าดูเรียวขึ้น
  • บริเวณร่องแก้ม – เติมเต็มให้ร่องลึกดูตื้นขึ้น
  • บริเวณขมับ – จะเป็นการเสริมช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วนไม่แข็งกระด้างจนเกินไป
  • บริเวณหน้าผาก – แก้ไขริ้วรอยแห่งวัย ปรับโหงวเฮ้งให้รูปหน้าดูมีมิติ

นอกจากนี้ก็ยังมีบริเวณอื่นๆที่สามารถทำได้เช่น ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์จมูก ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะทำจุดใดก็ตามต้องควบคู่ไปกับการวินิจฉัยการรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าใบหน้าของเราเหมาะสมที่จะใช้สารเติมเต็มบริเวณจุดไหนจึงจะได้ผลลัพธ์รูปหน้าที่ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้นค่ะ

ใบหน้าของเราเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ไหม








Advertisement

ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่หลายคนให้ความสนใจ ส่วนมากก็จะเป็นการฉีดเพื่อปรับรูปทรงปาก หรือเติมเต็มรูปทางให้ได้สมมาตรกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์มากนักก็มักจะมีคำถามว่าแล้วใบหน้าอย่างเราควรฉีดฟิลเลอร์รึเปล่า ? แล้วฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้างมาดูกันเลยค่ะ

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวให้ดูแน่นขึ้น หรือผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เช่น การเติมเต็มบริเวณคาง ขมับ
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ มีริ้วรอย ถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปาก ให้ปากได้รูปสวยสุขภาพดี
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียว กรอบหน้าชัด เพิ่มมิติให้ใบหน้า

ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

กลุ่มคนที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ก็คือผู้ที่มีอาการโรคผิวหนังอักเสบ มีผื่นคันหรือเป็นลมพิษ ซึ่งหากว่ากำลังป่วยอยู่แนะนำว่าให้รักษาอาการเหล่านั้นให้หายดีเสียก่อนแล้วค่อยมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรักษาต่อไปค่ะ นอกจากนี้ผู้ที่ยังไม่เหมาะสำหรับฉีดฟิลเลอร์ก็คือผู้ที่มีกำลังตั้งครรภ์/ให้นมบุตร มีภาวะเลือดไหลไม่หยุดหรือมีอาการป่วยเกี่ยวกับหลอดเลือด รวมไปถึงอาการแพ้คอลลาเจน หรือมีประวัติการแพ้อื่น ๆ ที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด

ข้อดี-ข้อด้อยของการฉีดฟิลเลอร์ที่เราควรรู้ !

ข้อดี

  • หลังทำสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • มีการดูแลรักษาง่ายกว่าการผ่าตัดศัลยกรรม
  • ให้ความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารเติมเต็มที่สกัดมาจากธรรมชาติสามารถย่อยสลายเองได้
  • สามารถแก้ไข ปรับรูปทรงได้ง่าย เพียงแค่ฉีดสลายฟิลเลอร์
  • หลังทำเราไม่ต้องพักฟื้น เป็นหัตถการที่ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต

ข้อด้อย

  • ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวร เมื่อเวลาผ่านไหมมันจะย่อยสลายไปเอง
  • ต้องกลับมาทำซ้ำหากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ในสภาพเดิม

ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานมีกี่ยี่ห้อ

ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานผ่านอย.จะต้องเป็นยี่ห้อที่ใช้สารเติมเต็มชนิด Hyaluronic Acid เท่านั้น ซึ่งยี่ห้อที่ได้มาตรฐานถูกนำเข้ามาในประเทศอย่างถูกกฎหมายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการความงาม ได้แก่

  • Restylane นำเข้าจากประเทศสวีเดน
  • Juvederm นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
  • Belotero นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
  • Definisse นำเข้าจากประเทศอิตาลี
  • Yvoire นำเข้าจากประเทศเกาหลี
  • Neuramis นำเข้าจากประเทศเกาหลี
  • Flore นำเข้าจากประเทศเกาหลี
  • Hyabell นำเข้าจากประเทศเยอรมัน

ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นแยกออกไปอีก โดยคุณสมบัติของแต่ละรุ่นก็จะถูกนำมาใช้ในการเติมเต็มตามจุดที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นเหมาะสำหรับการปรับรูปทรง บางรุ่นเหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก

ถ้าฟิลเลอร์สลายไปแล้วสามารถเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ได้ไหม

บางคนอาจมีความรู้สึกว่าฉีดยี่ห้อนี้ไปแล้วเกิดอยากลองเปลี่ยนไปฉีดยี่ห้ออื่นบ้าง แต่กลัวจะมีผลกระทบต่อผลลัพธ์ จริง ๆ แล้ว หากฟิลเลอร์สลายไปแล้วหมดแล้วเราสามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้เลยค่ะไม่จำเป็นต้องกลับมาฉีดยี่ห้อเดิม แต่ให้ดูภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยนะคะ

ถ้าฟิลเลอร์สลายหน้าจะดูแก่กว่าเดิมไหม ?

เป็นคำถามที่ทำให้หลาย ๆ คนกลัวการฉีดฟิลเลอร์และอาจมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าเมื่อฉีดไปแล้วฟิลเลอร์สลายจะทำให้หน้าเหี่ยวหรือแก่ลง แต่ในความเป็นจริงแล้วการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ทำให้หน้าเหี่ยวลง แถมยังช่วยชะลอให้ผิวของเราแก่ช้าลงไปอีกด้วย เพราะมันมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น คอลลาเจนและอีลาสตินก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อฟิลเลอร์สลายไปแล้วแต่คอลลาเจนและอีลาสตินก็ยังคงทำงานอยู่ใต้ชั้นผิวอาจทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นกว่าตอนก่อนฉีดอีกด้วยค่ะ

ก่อนใช้บริการเราควรมีการเตรียมตัวอย่างไร

1 อาทิตย์ก่อนทำหัตถการ – หลังจากที่เราศึกษาข้อมูลมาแล้วเบื้องต้นเกี่ยวกับการเลือกคลินิกหรือฟิลเลอร์ การเตรียมตัวก่อนใช้บริการควรงดการรับประทานอาหารเสริมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนในการผลัดเซลล์ผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ผิดเกิดความระคายเคืองและไม่ให้ผิวบอบบางลง

24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ – ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายประเภท Cardio หรือการอาบแดด และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน (8-10 แก้ว) เพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น เมื่อถึงวันนัดหมายควรพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับความต้องการ ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่ต้องรับประทานในทุก ๆ วันให้แพทย์ได้ทราบด้วยนะคะ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

  1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้แพทย์ช่วยประเมินใบหน้า
  2. แพทย์จะแนะนำรุ่นของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่รักษาและตรงกับปัญหาของผิวหน้า
  3. เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการทำความสะอาดใบหน้าในบริเวณที่ฉีด
  4. แปะยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที
  5. คลินิกที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ แพทย์จะแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า เพื่อให้เราได้ตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ได้รับเป็นของแท้
  6. เมื่อฉีดเสร็จแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้สารเติมเต็มเข้าที่เร็วและอยู่ได้นาน

การดูแลตัวเองหลังใช้บริการ

หลังทำหัตถการ 48 ชั่วโมง – แนะนำให้อยู่ในที่ที่มีอาการเย็น ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เป็นให้ฟิลเลอร์ฟื้นตัวได้เร็วและดีขึ้น งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่แนะนำให้สัมผัส เกาหรือแกะเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ผิว และป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หมั่นบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มีส่วนผสมอ่อนโยน ถนอมผิว

หลังทำหัตถการ 14 วัน – แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นเป็นพวกผักใบเขียว ผลไม้ที่ช่วยให้เกิดการสมานแผล ไม่แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีความร้อนมากจนเกินไป หรือมีรสชาติจัดจ้าน ของหมักดอง เพราะส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้จะเข้ามาทำปฏิกิริยาต่อผิวทำให้ฟื้นตัวช้าหรือเกิดอาการบวมได้

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าบวม อันตรายไหม กี่วันหาย

หน้าบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ไม่เป็นอันตรายค่ะ มันจะหายได้เองซึ่งจะใช้ระยะเวลา 7-14 วัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ระหว่างที่มีอาการบวมสามารถประคบเย็น รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อบรรเทาอาการได้เลยค่ะ โดยภายหลัง 2 สัปดาห์เราก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปลอดภัย หายห่วงค่า

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้งอยู่ได้นานหรือเปล่า

โดยเฉลี่ยแล้วผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 6-12 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าเรามีสภาพผิวแบบไหน มีการดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อประคับประคองผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ๆ หรือเราได้รับสารเติมเต็มฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร เพราะแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกันค่ะ

วิธีการเช็กฟิลเลอร์แท้ ดูยังไง ?

อย่างที่ทราบกันดีว่าฟิลเลอร์ถูกผลิตขึ้นมาแล้วหลายยี่ห้อที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย.ไทยรวมไปถึงมีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็ยังมีของปลอมที่แฝงตัวอยู่เกลื่อนตลาดตามคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในหลุมพรางของปลอมเรามีจุดสังเกตง่าย ๆ มาฝากค่ะ

  • ของแท้จะต้องมีเลข lot. ที่กล่อง หลอดและสติกเกอร์ด้านในที่ตรงกัน
  • ของแท้จะต้องมีฉลากภาษาไทย มีระบุวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุที่ตรงกันทุกจุด
  • กล่องถูกปิดสนิท ไม่มีรอยแกะและแพทย์จะต้องทำการแกะกล่องใหม่ต่อหน้าทุกครั้ง
  • บางยี่ห้อสามารถสแกน QR Code ที่กล่องเพื่อเช็กของแท้ได้ (ยี่ห้อ Restylane, Neuramis, Hyabell, Flore)

ทุกท่านสามารถนำจุดสังเกตเหล่านี้ไปเช็กได้เองตามคลินิกที่เลือกใช้บริการได้เลยค่ะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามซื้อฟิลเลอร์เองตามอินเทอร์เน็ตเด็ดขาด! เพราะฟิลเลอร์ตามตลาดออนไลน์ไม่ได้เป็นตัวการันตีความปลอดภัยได้ ทางที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้กับคลินิกที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุดค่ะ

ถ้าได้รับฟิลเลอร์ปลอมจะเกิดอะไรขึ้น

มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่หลงกลตกเป็นเหยื่อของสารเติมเต็มที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งในช่วงระยะแรก ๆ หลังฉีดจะยังไม่แสดงอาการใด ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสารที่ฉีดเข้าไปจะเริ่มเกาะตัวกันเป็นก้อนแข็ง ๆ ผิวไม่เรียบเนียน ดูขรุขระ มีความหย่อนคล้อยจนนำไปสู่อาการอักเสบและการติดเชื้อตามมา ถ้าหากว่าท่านรู้ตัวแล้วว่าเราได้รับสารที่ไม่ได้มาตรฐาน แนะนำว่าให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยด่วนค่ะ แพทย์จะทำการผ่าตัดและขูดนำสารเหล่านั้นออกมา แต่ทว่ามันก็ไม่สามารถขูดออกมาได้ทั้งหมดเพราะมันค่อนข้างมีความเสี่ยงต่อระบบเส้นประสาทบริเวณใบหน้า ซึ่งแพทย์จะต้องมีการประเมินและวางแผนการรักษาอย่างละเอียด

สรุปแล้วฟิลเลอร์อันตรายหรือเปล่า

เป็นคำถามที่ทำให้หลายคนคาใจว่าจริง ๆ แล้วมันอันตรายหรือเปล่า ? ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองแล้วว่ามีความปลอดภัยค่ะ แต่ต้องเป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เท่านั้น เนื่องจากมันถูกผลิตขึ้นจากสารที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ และยังมีกระบวนการผลิตและถูกจัดเก็บแบบพิเศษที่มีความปลอดภัยอย่างหนาแน่น อีกทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพจากวงการแพทย์ทั่วโลก หลังฉีดไปแล้วยังสามารถสลายได้ทั้งหมดโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยแต่เราก็ควรเลือกใช้บริการฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยควบคู่กันค่ะ

อยากฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกใช้บริการที่ไหนถึงจะปลอดภัย

ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไม่ใช่เพียงแค่ทำออกมาแล้วดูดีแต่ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยด้วย เชื่อว่าหลายคนก่อนจะตัดสินใจเลือกทำที่ไหนก็คงจะคิดหนักไม่น้อย แถมคลินิกเสริมความงามในปัจจุบันก็มีเยอะแยะมากมายที่อาจจะมีทั้งได้มาตรฐานและไม่ได้มาตรฐานอยู่ปะปนกันไป คลินิกที่ได้มาตรฐานเราสามารถสังเกตได้จาก

1. การเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

คลินิกที่ได้มาตรฐานอย่างแรกคือต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีใบประกอบกิจการและเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักติดไว้อย่างชัดเจน และต้องตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาลและผู้อนุญาตเปิดสถานพยาบาล รวมไปถึงความชัดเจนในการเปิดคลินิกที่จะต้องมีช่องทางที่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทาง

2. การให้บริการด้วยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

แพทย์ที่อยู่ประจำคลินิกต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ สามารถวินิจฉัยปัญหาได้อย่างตรงจุด และต้องเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์รวมไปถึงปริมาณได้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาผิวของผู้มาใช้บริการ ผลลัพธ์ที่ได้ต้องดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ไม่โป๊ะ

3. รักษาโดยผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพและเป็นของแท้

ทุก ๆ ก่อนการรักษาแพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ใหม่ต่อหน้าผู้มาใช้บริการ และสามารถให้กล่องมาตรวจสอบของแท้ได้ทุกเคส เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราได้รับสารเติมเต็มแท้ที่ได้มาตรฐานผ่านอย.ไทยจริง เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติไม่เกิดผลกระทบตามมา

4. สถานที่ทั้งภายนอกภายในสะอาด

ความสะอาดทั้งภายนอกและภายในของคลินิกก็เป็นตัวบ่งชี้ความน่าเชื่อถือได้เลยว่าคลินิกเหล่านั้นมีคุณภาพหรือไม่ คลินิกเสริมความงามควรมีการจัดวางที่เป็นระเบียบ สะอาด ไม่เหม็นอับและมีกลิ่นหอม

5. ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการ

เชื่อว่าหลายคนตัดสินใจเลือกใช้บริการจากรีวิวของผู้ที่เคยเข้ามาทำ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการสังเกตที่ดี เพราะมันจะเป็นข้อยืนยันประสิทธิภาพในการรักษาของทีมแพทย์รวมไปถึงคุณภาพของคลินิกนั้น ๆ ว่าทำไปแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริงไหม มีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ และทางคลินิกที่การให้บริการหรือรับมือกับปัญหาอย่างไร แนะนำว่าให้ดูรีวิวหลาย ๆ แบบทั้งรูปภาพ วิดีโอ และการไลฟ์สดจะทำให้เราเห็นผลลัพธ์โดยไม่ผ่านการตกแต่งจากแอปพลิเคชัน

เมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ก็ไม่พลาดที่จะแนะนำ Home of Filler อย่าง Doctor Mek Clinic ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้มาใช้บริการตลอดจนดาราเซเลบริตี้ในวงการบันเทิงจนได้ครองฉายาว่าเป็น ‘หมอของดารา’ เพราะที่นี่ให้การรักษาโดยคุณหมอเมฆ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง และยังเป็นอาจารย์แพทย์สอนเทคนิคการฉีด Filler ให้กับหลายบริษัทชั้นนำของไทย มีประสบการณ์ด้านการรักษาสามารถวิเคราะห์ ประเมินและออกแบบการรักษาได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของผู้มาใช้บริการ วินิจฉัยกันแบบ case by case พร้อมใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะของคลินิก Triple Layers Lift ที่เป็นการเติมเต็มชั้นผิวหลายระดับ มีการวางรากฐานจนถึงชั้นกระดูก แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ผลลัพธ์ที่ความเป็นธรรมชาติ และให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกต้องการรายละเอียด ข้อมูลการรักษาเพิ่มเติมหรือให้แพทย์ช่วยประเมินการรักษาสามารถทักเข้ามาได้ตามช่องทางการติดต่อของดอกเตอร์เมฆ คลินิกได้เลยค่ะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน