ใครที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝุ่น มลภาวะ และความเครียดจากการทำงาน จนทำให้ริ้วรอย ความเหี่ยวย่น และร่องลึกบนผิวหนังปรากฏขึ้นเร็วกว่าปกติ รวมไปถึงปัจจัยของอายุที่เป็นสาเหตุให้ผิวหนังผลิตคอลลาเจนลดลง ผิวขาดความชุ่มชื้น ความตึงกระชับ และทำให้ใบหน้าดูแก่และมีอายุก่อนวัยจนส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจให้หลายคนไม่น้อย วันนี้เลยอยากให้ทุกคนลองตรวจสอบตัวเองดู ว่าในแต่ละวันมีพฤติกรรมทำร้ายผิวอย่างไรกันบ้าง รวมถึงแชร์วิธีลดเลือนริ้วรอยแบบง่ายๆ ที่จะช่วยโกงอายุผิวให้กลับมาอ่อนเยาว์กระจ่างใสอีกครั้ง

เช็กพฤติกรรมทำร้ายผิว สาเหตุของริ้วรอยไม่พึงประสงค์

ผิวหน้าสัมผัสแสงแดดโดยตรง

การที่ผิวหนังได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีจากดวงอาทิตย์เป็นเวลานานและไม่มีการป้องกัน สามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อผิวหนังได้ เพราะรังสียูวีจะสลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยเล็กๆ ขึ้นได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้เกิดจุดด่างดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกันอีกด้วย

การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย ทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดการไหลเวียนของเลือดและการส่งออกซิเจนไปยังผิวหนัง การสูบบุหรี่ยังปล่อยสารเคมีอันตรายที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำและหย่อนคล้อยได้

ทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

การรับประทานอาหารประเภทอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากเป็นประจำ จะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในร่างกาย ทำให้ผิวหนังปรากฏริ้วรอยและมีสิวขึ้นง่าย รวมถึงยังขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แร่ธาตุ วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟู แต่ยังเป็นอุปสรรคในการซ่อมแซมตัวเองและรักษาความยืดหยุ่นของผิวหนังอีกด้วย








Advertisement

ปล่อยให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น

ผิวที่ขาดน้ำมีแนวโน้มที่จะแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย เพราะไม่ได้รับความชุ้มชื้นมากพอ ผิวก็จะดูแห้ง หยาบกร้าน และไม่มีความอ่อนนุ่ม การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมจะสามารถให้ความชุ่มชื้น และช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิวหนังได้ดีและมีประสิทธิภาพ

ละเลยกิจวัตรการดูแลผิว

ด้วยเงื่อนไขและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตท่ามกลางความเร่งรีบในแต่ละวัน อาจทำให้ใครหลายคนเกิดความเหนื่อยล้าและเผลอละเลยการดูแลผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การให้ความชุ่มชื้นด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ และสารกันแดด จนส่งผลให้ผิวดูสุขภาพแย่ลง นำไปสู่การอุดตันของรูขุมขน สิวขึ้น และการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้มองเห็นริ้วรอยและร่องตื้นบริเวณผิวหน้าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

กดสูตรโกงอายุด้วย 5 วิธีดูแลตัวเอง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยให้หน้าเด็กลงได้

  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

รู้หรือไม่ การนอนดึก พักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ สามารถส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและผิวขาดน้ำได้ เพราะการนอนดึกจะไปรบกวนกระบวนการทำงานการซ่อมแซมและการฟื้นฟูผิว และเมื่อผิวขาดน้ำ ก็ทำให้ความตึงกระชับของผิวลดลง จนเกิดเป็นปัญหาริ้วรอยตีนกาต่างๆ บริเวณใบหน้าตามมานั่นเอง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้เกิดสิว เพราะฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนได้ด้วย ดังนั้นการเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และการพักผ่อนอย่างเพียง จึงช่วยให้ฮอร์โมนและกระบวนซ่อมแซมของผิวทำงานได้อย่างปกติ และลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยได้

  1. ใช้เซรั่มวิตามินซีและสกินแคร์บำรุงผิวเป็นประจำ

แม้ว่าจะมีการดูแลสุขภาพและร่างกายอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่างกายจะมีการผลิตคอลลาเจนน้อยลง ทำให้ผิวหนังขาดความตึงกระชับและเหี่ยวย่น การใช้เซรั่มวิตามินซีและหมั่นทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำก็เปรียบเสมือนการเติมอาหารให้กับผิวทางหนึ่ง ช่วยโอบอุ้มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาฉ่ำเด้งอีกครั้ง เพราะคุณสมบัติของเซรั่มวิตามินซีจะมีส่วนผสมประสิทธิภาพสูงที่ช่วยบำรุงลึกถึงเซลล์ผิว และครีมบำรุงแต่ละประเภทจะมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์และวิตามินซีที่มีส่วนช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ดี หากใช้เป็นประจำทุกวัน ผิวที่เคยขาดน้ำและแห้งกร้านจะกลับมาดูตึงกระชับสุขภาพดีขึ้น ทำให้ริ้วรอยและร่องลึกเกิดช้าลงอีกด้วย

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA

กรดเอเอชเอ (AHA: Alpha Hydroxy Acids) หรือกรดผลไม้ เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่นิยมนำมาเป็นส่วนผสมในครีมบำรุงและสกินแคร์ต่างๆ ซึ่งในทางการแพทย์ กรด AHA จะถูกนำมาใช้เพื่อรักษาสิว รอยด่างดำ และริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆ รวมถึงวิตามินซีก็ด้วยเช่นกัน เพราะกรดนี้จะออกฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ในขณะเดียวกันยังช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ และยังไปเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวใหม่ที่เกิดมาแทนที่เซลล์ผิวเดิมที่ถูกผลัดออกไปดูกระจ่างใส เรียบเนียน และดูตึงกระชับขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอยได้

  1. ฉีดโบท็อกซ์

เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง การฉีดโบท็อกซ์จึงเป็นการเติมโปรตีนเข้าสู่ผิว ซึ่งโปรตีนประเภทนี้สามารถช่วยลดการขยับและการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นมักเกิดจากการขยับกล้ามเนื้อจนเกิดเป็นรอยกดทับและเกิดเป็นริ้วรอยนั่นเอง ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์จึงไปช่วยลดการขยับและการกดทับของผิวหนังบริเวณนั้น ทำให้ผิวหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ดูตึงกระชับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดเลือนริ้วรอยจะเกิดตามมาได้อีกด้วย แต่ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน เท่านั้น หากต้องการให้ผิวบริเวณดังกล่าวดูตึงกระชับและดูเด็ก จึงจำเป็นต้องฉีดเป็นประจำ

  1. ทำ Ultherapy เพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า

การทำ Ultherapy เป็นหัตถการประเภทหนึ่ง ที่นำเทคโนโลยีที่มีความถี่สูงมาใช้ในการยกกระชับผิวหน้า โดยตัวเครื่องจะส่งความร้อนที่มีความแม่นยำสูงสู่ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนใหม่ ดังนั้นการทำหัตถการ Ultherapy จึงช่วยให้ผิวดูตึงกระชับ เรียบเนียน และดูเต่งตึงขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดจากผิวขาดคอลลาเจน ขาดความชุ่มชื้น ดูตื้นขึ้น นับเป็นหัตถการอีกประเภทที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณผิวหน้าได้อย่างเห็นผล อีกทั้งการทำ Ultherapy ยังใช้ระยะเพียง 30 นาที เท่านั้น ปลอดภัยและไม่ร้ายผิวจนเกิดเป็นบาดแผลด้วย

เพราะการมีผิวที่อิ่มฟูแข็งแรง เป็นด่านปราการชั้นแรกที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก ใครที่อยากมีผิวสวยสดใส ลดเลือนริ้วรอย ผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก อย่าลืมนำเคล็ดลับปรับพฤติกรรมที่เราแชร์มาไปลองใช้ดู ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิวต่างๆ ไปจนถึงวิธีการดูแลผิวหน้าที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย เช่น การพักผ่อน การใช้สกินแคร์โดยเฉพาะเซรั่มวิตามินซีบำรุงผิว หรือการเข้าคอร์สหัตถการเสริมสวยวิธีการต่างๆ เท่านี้ทุกคนก็สามารถมีผิวหน้าที่ดูดี กระจ่างใส ไร้ริ้่วรอยได้ง่ายๆ แล้ว


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน