โรงพยาบาลกรุงเทพเปิดตัวบริการใหม่ “คลินิก be YOURSELF services” ดูแลสุขภาพกลุ่มเพศหลากหลาย ในแบบฉบับความเป็นคุณ

โรงพยาบาลกรุงเทพให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIA+ ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเพศที่แสดงออกแบบไหนก็ได้ (Gender Fluidity) ซึ่งมีความต้องการที่หลากหลายและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขในทุกวัน จึงได้เปิดตัวบริการใหม่ “คลินิก be YOURSELF services” ทุกตัวตนของคุณเราพร้อมดูแล โดยมีทีมแพทย์ที่มีความชำนาญและมากด้วยประสบการณ์ในสหสาขามาให้คำปรึกษา วางแผนการดูแลสุขภาพ ตรวจสุขภาพเชิงลึกตามวัย ตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ด้วยห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับสากล ดูแลการใช้ยา การรับประทานยาและอาหารเสริมที่เหมาะกับร่างกาย อีกทั้งสะดวกสบายกับ B At Home Services พร้อมดูแลสุขภาพของคุณถึงที่บ้านในเวลาที่คุณต้องการ ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของเพศที่แสดงออกแบบไหนก็ได้ครบทุกความต้องการในที่เดียว

นพ.วิสุทธิ์ ศรีจันทราพันธุ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงการดูแลสุขภาพของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIA+ ที่การปรับเปลี่ยนตัวเองอาจทำให้พบปัญหาด้านร่างกายและจิตใจไม่มากก็น้อย เพราะการข้ามเพศต้องอาศัยการใช้ฮอร์โมนไปจนถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รพ.กรุงเทพจึงเปิดบริการใหม่กับคลินิก be YOURSELF services เพื่อดูแลสุขภาพของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะ ซึ่งมีแพทย์ที่มีความชำนาญและมากด้วยประสบการณ์ในสาขาต่าง ๆ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ระบบการดูแลรักษาที่ได้มาตรฐานระดับสากล ตลอดจนบุคลากรทุกระดับที่พร้อมให้บริการที่เป็นเลิศอย่างแท้จริง

การเปิดตัวคลินิก be YOURSELF services ในครั้งนี้ นพ.วิสุทธิ์ ศรีจันทราพันธุ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “โรงพยาบาลกรุงเทพเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะให้การดูแลสุขภาพได้ตรงตามความต้องการที่แท้จริงของทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้กับเรา คลินิก be YOURSELF services นอกจากคำนึงถึงความปลอดภัย (Safety) ของผู้รับบริการแล้ว เรายังให้บริการครบวงจรแบบ Personalized Care มุ่งเน้นการดูแลทุกตัวตนในทุกมิติของเพศที่แสดงออกแบบไหนก็ได้ (Gender Fluidity) พร้อมให้บริการในทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ฮอร์โมนข้ามเพศ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต การดูแลด้านความงามของผิวพรรณและใบหน้า การรักษาและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง การฉีดวัคซีน HPV การเก็บรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ได้แก่ การแช่แข็งอสุจิและการแช่แข็งไข่ ไปจนถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเสียงในผู้หญิงข้ามเพศ และการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ด้วยบริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และได้มาตรฐาน”

พญ.นิดา เสรีฉันทฤกษ์ อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงการวางแผนเทคฮอร์โมนที่สำคัญมากสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ เนื่องจากฮอร์โมนเพศมีหลายชนิด มีรูปแบบการใช้ที่แตกต่างกัน เช่น แบบรับประทาน, แบบแผ่นแปะหรือเจล, แบบฉีด โดยแต่ละคนที่เทคฮอร์โมนจะตอบสนองต่อยาไม่เหมือนกัน “คลินิก be YOURSELF services มีบริการด้านฮอร์โมนสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ ตั้งแต่ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มเทคฮอร์โมน ให้คำแนะนำด้านการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่อาจเกิดขึ้นหลังได้รับฮอร์โมน การเลือกชนิดฮอร์โมนที่เหมาะสม การตรวจติดตามระดับฮอร์โมนเพศในเลือด รวมถึงผลข้างเคียง เพื่อปรับขนาดยาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่าเทคฮอร์โมนได้ถูกต้องและเหมาะกับตนเอง” จึงควรวางแผนร่วมกับแพทย์ตั้งแต่การเลือกชนิดฮอร์โมนให้เหมาะสมกับตนเอง เพื่อเช็กข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเพศและติดตามผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ซึ่งการซื้อฮอร์โมนเพศที่ขายตามร้านขายยามากินเอง หากเลือกชนิดที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ลิ่มเลือดอุดตัน ภาวะเลือดข้น ตับอักเสบ ไขมันในเลือดผิดปกติ เป็นต้น ในกลุ่มคนข้ามเพศที่มีการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว เช่น การตัดอัณฑะ การตัดรังไข่และมดลูก แนะนำให้ใช้ฮอร์โมนเพศต่อ เพื่อรักษาสรีระร่างกายให้เป็นไปตามเพศสภาพที่ต้องการ ซึ่งฮอร์โมนเพศช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนข้ามเพศ








Advertisement

นพ.อโณทัย สุ่นสวัสดิ์ จิตแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงความเข้าใจเรื่องเพศที่เป็นเรื่องใกล้ตัวและบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของคน ๆ นั้นได้อย่างแท้จริง โดยอัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) หมายถึงการรับรู้ว่าตนเองเป็นเพศอะไร รู้สึกข้างในอย่างไร เปรียบเหมือนการส่องกระจกแล้วเห็นสิ่งที่สะท้อนออกมาตามความรู้สึกของตนเอง ซึ่งปัจจุบันอัตลักษณ์ทางเพศมีความหลากหลายและได้รับการยอมรับจากสังคม สิ่งสำคัญคือการได้รับการสนับสนุนและอนุญาตให้คน ๆ นั้นเป็นตัวของตัวเองในแบบที่อยากเป็น เพื่อส่งเสริมความมั่นใจในตนเองและดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ความหลากหลายทางเพศไม่จัดว่าเป็นโรคหรือความป่วยไข้แต่อย่างใด สังคมได้ทำความรู้จักกับกลุ่มอัตลักษณ์ทางเพศที่มีความจำเพาะและสวยงามในแบบของตนตามตัวย่อ LGBTQIA+ ประกอบด้วย Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer, Intersex และ Asexual ซึ่งเครื่องหมาย + ที่ถูกใส่เข้ามายังแสดงถึงกลุ่มที่มีอัตลักษณ์อื่นที่แตกต่างออกไปจากที่กล่าวมา

ซึ่งนพ.อโณทัย สุ่นสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันการเหยียดเพศ (Gender Discrimination) เกิดขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างคาดไม่ถึง ทั้งการล้อเลียน การด่าทอ การทำร้ายร่างกาย ถือเป็นการทำร้ายกันอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา แต่การเหยียดเพศสามารถเกิดขึ้นในรูปแบบอื่น เช่น ถูกปฏิเสธการทำงานด้วยเหตุผลทางเพศสภาพ ถูกปฏิเสธการเข้าถึงการรักษาดูแลสุขภาพ หรือแม้แต่ถูกเพิกเฉยต่อสิทธิพื้นฐานบางอย่างในชีวิตที่ทำให้เท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในสังคม นอกจากการพยายามเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ การสร้างความรู้สึกมั่นใจ (Self – Confidence) และความมั่นคง (Security) เป็น

จุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้บุคคลนั้นเผชิญกับความไม่เข้าใจและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีความสุข ซึ่งคลินิก be YOURSELF services โรงพยาบาลกรุงเทพ มีทีมจิตแพทย์และนักจิตบำบัดที่มีความมุ่งมั่นในการช่วยสนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองอย่างมั่นใจและแข็งแรง มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน อยู่ร่วมกับครอบครัวและสังคมได้อย่างมีความสุข เพราะเราเชื่อในความหลากหลายและสิทธิที่ทุกคนสามารถออกแบบชีวิตของตนเองได้ ด้วยประสบการณ์ในการดูแลด้านสุขภาพจิต เทคนิควิธีการที่ทันสมัยและหลากหลาย พร้อมดูแลและสนับสนุนให้ทุกคน be YOURSELF ในแบบของคุณ”

ผศ.พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงเทคนิคการผ่าตัดเปลี่ยนเพศในปัจจุบันที่แบ่งเป็นการเปลี่ยนชายให้เป็นหญิง (Transwoman) จะใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนอวัยวะเพศชายให้มีลักษณะเหมือนอวัยวะเพศหญิง มีหลายเทคนิคที่น่าสนใจ ได้แก่ เทคนิคใช้ผิวหนังองคชาตม้วนกลับต่อกราฟ เทคนิคการต่อลำไส้ เทคนิคต่อเยื่อบุช่องท้อง และการเปลี่ยนหญิงให้เป็นชาย (Transman) ที่มีความซับซ้อนมากกว่า แนะนำให้ทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการผ่าตัดกับแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ประกอบไปด้วยการผ่าตัดหน้าอก การผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออก การผ่าตัดปิดช่องคลอด การผ่าตัดเปลี่ยนเพศหญิงเป็นชายแบบเมตตอยด์ และการผ่าตัดเปลี่ยนเพศหญิงเป็นชายแบบฟาโรห์ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ต้องทำการประเมินสภาพจิตใจ ทดลองใช้ชีวิตในแบบเพศตรงข้ามที่ต้องการอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป มีความรู้สึกของเพศที่ต้องการจะเป็นมานานแล้ว โดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนเพศได้ นอกจากนี้ต้องมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพ โรคประจำตัวรุนแรง หรือข้อห้ามในการดมยาสลบ

ทั้งนี้ ผศ.พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ กล่าวว่า “คลินิก be YOURSELF services พร้อมให้คำปรึกษาและศัลยกรรมความงามด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงการผ่าตัดด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้คุณมั่นใจยิ่งกว่าเดิม มีการวิเคราะห์สรีระร่างกายภายในและภายนอกอย่างละเอียด ดูแลเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ของร่างกายแบบองค์รวม ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการเพื่อให้คุณได้เป็นตัวคุณอย่างแท้จริง”

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณจะเพศไหน โรงพยาบาลกรุงเทพพร้อมดูแลทุกตัวตนของคุณในทุกมิติกับคลินิก be YOURSELF services บริการด้านสุขภาพที่เข้าใจและตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของคุณอย่างแท้จริงในที่เดียว ด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญและมากด้วยประสบการณ์ในหลากหลายสาขา พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจในแบบที่เข้าใจตัวตนของคุณ ติดตามข้อมูลที่และทำนัดหมายเพื่อปรึกษาได้ที่ https://www.bangkokhospital.com/campaign/be-yourself-services คลินิก be YOURSELF services ชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร. 02 310 3530, 099 975 2465 และ 1719 เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 17.00 – 20.00 น. และวันเสาร์ เวลา 08.00 – 20.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน