ในหลวง-พระราชินี ทรงมีพระราชปฏิสันถาร บ้านเมืองต้องการคนรักชาติ รักสถาบัน

เมื่อเวลา 21.21 น. วันที่ 15 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องรับรองที่ประทับ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้แกนนำคณะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ใน 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบด้วย จ.นครพนม จ.สกล จ.มุกดาหาร จ.กาฬสินธุ์ จ.อุดรธานี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

โดยแกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทั้งหมดเป็นอดีตสมาชิกคอมมิวนิสต์ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานความช่วยเหลือในด้านต่างๆ จนปัจจุบันอดีตสมาชิคทุกคนเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ใช้ชีวิตเรียบง่าย มีความหนักแน่น และน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต

ในการนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถาร กับแกนนำผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ความว่า “อยากจะพบ เพราะสมเด็จพระราชินี เล่าให้ฟังว่า ได้เจอสหายต่างๆ ที่มีความสามารถและเดี๋ยวนี้ก็เป็นกำลังของชาติ น่าซาบซึ้ง น่าปลื้มใจ ที่ท่านทั้งหลายเป็นกำลังของชาติ และท่านทั้งหลายรักชาติบ้านเมือง รักประชาชน รักสถาบัน ซึ่งขอพูดไว้ว่า แม้แต่ตอนท่านหนุ่มๆ สาวๆ กัน ท่านก็รักประเทศชาติ รักประชาชน และถือว่าได้แสดงความรักชาติ แต่ตอนนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นแบบนั้น เข้าใจว่าท่านก็ต้องเลือกทางในการรักชาติ ในการรักประชาชน รักชาวบ้าน”

“ตอนนี้ความรักประเทศชาติ ความรักชาวบ้าน รักบ้านเมือง ทำให้ท่านได้เข้าใจอะไรต่างๆ ตามที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านได้พระราชทานความรัก พระราชทานความห่วงใยกับประชาชนมาตลอด เพราะฉะนั้นเราก็ร่วมกันรักชาติ ร่วมกันรักประชาชน ทุกอย่างที่ท่านทำมาก็เป็นประสบการณ์ที่ดี”

“พูดกันตรงๆ ว่า ท่านได้ทำประโยชน์กับประเทศชาติ ตอนนี้ก็คงจะเข้าใจว่าบ้านเมืองต้องการคนรักชาติ ต้องการคนรักสถาบัน ประสบการณ์ใดๆ ที่ทำมา หรืองานที่ทำมาเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ สามารถสอนเด็กๆ รุ่นใหม่ ถึงประสบการณ์ที่ตนเองได้มีมา เป็นประโยชน์ย่างยิ่ง จริงๆ อยากพบ อยากเจอ อยากคุย อยากมีเวลามาก อยากเล่าให้ฟังว่าทำอะไรมาบ้าง จะได้รำลึกความหลังกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน