ในหลวง-พระราชินี พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย 7 คัน ให้ สธ.ตรวจโควิดเชิงรุก และโปรดเกล้าฯ สร้างรถยนต์เอกซเรย์เคลื่อนที่อีก 2 คัน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 2564 ที่สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 7 คัน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดสร้างเพิ่มเติม สำหรับให้เจ้าหน้าที่นำไปปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย

สำหรับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่พระราชทานเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ในการปฏิบัติงานเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564 แล้ว จำนวน 3 คัน โดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยรุ่นใหม่นี้ มีการพัฒนาปรับปรุงจากรถพระราชทานต้นแบบให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยมีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพภายใน เพื่อระบุอัตลักษณ์บุคคล (face recognition) ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในการติดตาม (tracking) ผู้เข้ารับการตรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ

นอกจากนั้น ยังเพิ่มอุปกรณ์สำหรับการจัดเก็บและการให้บริการฉีดวัคซีน เพิ่มตู้จัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือในการจัดเก็บตัวอย่าง ทำให้สามารถเก็บรักษาวัคซีน และบริการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในอีกภารกิจหนึ่ง

ปัจจุบัน มีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 20 คัน ซึ่งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 26,916,131 บาท ในการจัดสร้าง และยังได้พระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ อีกจำนวน 1 คัน ที่มีบทบาทสำคัญในภารกิจตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ และสามารถเข้าไปทำงานในทุกพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างรถยนต์เอกซเรย์เคลื่อนที่ พร้อมติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล อีกจำนวน 2 คัน (ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดสร้าง) อันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย รวมทั้งแรงงานข้ามชาติ และบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานทุกคน ในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน