อาร์สเทคนิกา (arstechnica) เว็บไซต์ข่าวไอทีชื่อดังในสหรัฐอเมริกา รายงานความคืบหน้ากรณีที่บริษัท แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาไอโฟน ประเทศสหรัฐ ออกมาชี้แจงยอมรับว่าได้ดำเนินมาตรการที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของไอโฟน 6 ไอโฟน 6เอส ไอโฟน เอสอี และไอโฟน 7 ลดลงจริง โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องหยุดทำงานกระทันหันจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้ใช้ไอโฟนทั่วโลกที่โจมตีแอปเปิ้ลว่า ดำเนินมาตรการดังกล่าวเพื่อบีบให้ผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่าหันไปซื้อไอโฟนรุ่นใหม่แทน และเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญแวดวงไอทีว่าเหตุใดแอปเปิ้ลจึงไม่แจ้งเรื่องการดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2559 ที่แอปเปิ้ลระบุว่าเพิ่งนำมาตรการนี้มาใช้ เพราะถือเป็นความไม่โปร่งใส

ล่าสุด มีผู้ใช้ไอโฟนชาวอเมริกันยื่นฟ้องร้องบริษัทแอปเปิ้ลแล้วหลายคนในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ รัฐอินเดียนา รัฐโอไฮโอ และรัฐนอร์ท แคโรไลนา โดยเอกสารผู้ยื่นฟ้องมีใจความสำคัญคล้ายกันว่า แอปเปิ้ลจงใจปิดบังข้อเท็จจริงจากผู้บริโภค ที่ว่าไอโฟนบางเครื่องเมื่อใช้งานผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจะมีประสิทธิภาพต่ำลง และเมื่อผู้ใช้เดินทางไปยังแอปเปิ้ลสโตร์เพื่อขอคำปรึกษาแก้ไขกลับได้รับคำแนะนำส่งเสริมให้ซื้อไอโฟนรุ่นใหม่แทน

“หากเจ้าหน้าที่ของแอปเปิ้ลแจ้งเรื่องนี้กับผู้บริโภคตั้งแต่แรก ผู้บริโภคน่าจะเลือกที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่มากกว่า เพราะจะทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพกลับมาเหมือนเดิมได้ แทนที่จะต้องไปเสียเงินซื้อเครื่องใหม่” เอกสารผู้ฟ้องระบุ

ด้านเอกสารผู้ฟ้องอีกคนหนึ่งในนครลอสแองเจลิส และนครซานฟรานซิสโก กล่าวหาว่าการกระทำดังกล่าวของแอปเปิ้ลถือว่าฝ่าฝืนข้อตกลงซื้อขาย และเป็นการล่วงละเมิดทรัพย์สินส่วนบุคคล ในกรณีนี้คือไอโฟนที่ผู้ใช้ซื้อไปแล้ว เพราะถูกทำให้มีประสิทธิภาพต่ำลงโดยเจตนา
ขณะที่แอปเปิ้ลยังไม่มีการตอบสนองต่อการขอสัมภาษณ์จากอาร์สเทคนิกา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน