ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องให้ความสนใจ สิ่งหนึ่งที่สร้างผลกระทบอย่างหนัก คือ “ขยะ” ที่เพิ่มขึ้นจนเรียกว่าแทบจะล้นโลก หากไม่หาทางจัดการอย่างถูกวิธี การปนเปื้อนขยะก็จะกลับมาทำร้ายโลก ทำร้ายสุขภาพ
การแก้ปัญหาขยะสามารถเริ่มต้นได้ที่เราทุกคนช่วยกัน เริ่มจากลดขยะในชีวิตประจำวันด้วยวิธีง่ายๆ มีอะไรบ้าง นำไปทำได้เลย
1. Refuse ปฏิเสธถุงพลาสติกและโฟม
จากรายงานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ระบุว่า ประเทศไทยมีปริมาณขยะประเภทพลาสติกและโฟมมากถึง 2.7 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 7,000 ตันต่อวัน ในจำนวนนี้ ไม่สามารถกำจัดด้วยวิธีฝังกลบได้ทั้งหมด เพราะพลาสติกจะใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปี!
ขยะประเภทนี้เผาทำลายก็ก่อมลพิษ เพราะมีส่วนประกอบของเม็ดปิโตรเลียม การเผาจะทำให้สารเคมีระเหยไปในบรรยากาศจะสร้างสารปนเปื้อนในดินและน้ำ
ทางที่ดี คือเลือกปฏิเสธพลาสติก หันมาใช้ถุงผ้า กล่องข้าวที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ไปจนถึงภาชนะใช้ซ้ำต่างๆ อย่างหลอด ขวดน้ำ ช้อนส้อม ตะเกียบ นอกจากลดขยะ ลดพลาสติก ไปจนถึงโฟมได้แล้ว เรายังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ด้วย!
2. Recycle แยกขยะให้เป็นนิสัย
การแยกขยะ จะช่วยเรื่องการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในกระบวนการกำจัดขยะอีกด้วย จากสถิติพบว่า การเก็บขยะวันละมากกว่า 9,000 ตัน จะใช้งบมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นค่าจ้างฝังกลบขยะตันละมากกว่า 100 บาท
การแยกขยะ ต้องแยกทิ้งให้ถูกตามประเภท แยกเศษอาหาร กากผลไม้ ผัก แก้ว อลูมิเนียม พลาสติก ออกจากกัน ขยะแต่ละประเภท มีวิธีการทำลาย หรือ รีไซเคิลได้แตกต่างกัน หากแยกอย่างถูกวิธี นอกจากลดค่าใช้จ่ายในการทำลายขยะ ยังรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Reuse หรือ การใช้ซ้ำ ใช้อย่างคุ้มค่า
เริ่มจากสิ่งรอบๆ ตัว เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า กระดาษ ปากกา การใช้ซ้ำ ถือเป็นการใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด แต่ละปีมีเสื้อผ้า ที่กลายเป็นขยะจำนวนมหาศาล รายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 ระบุว่า ทั่วโลกผลิตเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวระหว่างปี 2000 ถึงปี 2014 อุตสาหกรรมนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเสีย 20 เปอร์เซ็นต์
ยกตัวอย่างจากการผลิตกางเกงยีนส์ตัวหนึ่งต้องใช้น้ำถึง 7,500 ลิตร หรือเทียบเท่ากับน้ำขวดใหญ่จำนวน 5,000 ขวด กระบวนการผลิตสินค้า Fast Fashion จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างน่ากังวล
4. Refill เติมได้ ต้องเติม ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์
เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ การใช้สินค้าแบบ refill นับเป็นทางเลือกในการลดขยะบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯลฯ มาเป็นแบบ Refill หรือลดการซื้อของในบรรจุภัณฑ์ใหม่ ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในบ้านลงได้มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
5. Repair ใช้อย่างทะนุถนอม ซ่อมแซมเท่าที่ทำได้
เคยลองสังเกตสิ่งของรอบตัวดูบ้างไหม ว่ากำลังมีอะไรที่เราใช้มันผิดวิธี หรือกำลังทำให้มันพังก่อนถึงเวลารึเปล่า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น การเปิดแอร์ร้อนกว่าอุณหภูมิห้อง หรือการใช้ไมโครเวฟกำลังแรงอุ่นอาหารเป็นเวลานานๆ หรือใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าวันละแปดชั่วโมง
สิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำให้เราต้องจ่ายค่าไฟมากขึ้นแล้ว ยังทำให้อุปกรณ์ต่างๆ พังเร็วขึ้นด้วย แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ลองฝึกซ่อมอุปกรณ์ด้วยตัวเองดูบ้าง อย่างการเปลี่ยนอะไหล่ หรือต่อ เติม ปะ สิ่งต่างๆ แทนการซื้อใหม่ เพียงเท่านี้ ก็ช่วยลดปริมาณขยะได้เยอะแล้วล่ะ!
6. Reduce ลดการใช้สิ่งต่างๆ
วิธีลดการบริโภค หรือใช้สิ่งต่างๆ ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เพียงช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับปริมาณขยะเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวคิด หรือวิถีการใช้ชีวิตที่นำไปสู่ความสมดุลอีกด้วย ลองเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขนาดใหญ่ ใช้ได้นาน แทนการซื้อสินค้าที่มีขนาดเล็ก หรือมีปริมาณน้อยหลายๆ ชิ้นดู
7. Return หมุนเวียนมาใช้ใหม่
หลายคนอาจไม่รู้ว่า การคืนขวดน้ำอัดลม หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ กลับไปสู่ผู้ผลิตนั้น นอกจากจะผ่านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แล้ว กระบวนการดังกล่าว ยังมีส่วนช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเลด้วย เนื่องจากขวดแก้ว หรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นแก้ว ต้องใช้ทรายแก้วเป็นวัตถุดิบหลัก
โดยทั้งหมดจะถูกขุดขึ้นมาจากบริเวณรอบๆ ชายฝั่งทะเล การใช้ทรายแก้วจำนวนมาก จึงทำให้แนวดินดอนชายฝั่งทะเลถูกทำลาย และสูญเสียรูปทรงดั้งเดิม อีกทั้งถูกกัดเซาะสูงขึ้นจนเกิดเป็นปัญหาภูมิทัศน์ทางทะเลตามมา เราจึงควรแยกขวดแก้วออกจากขยะอื่นๆ และส่งคืน เพื่อกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ และรักษาชายหาดที่สวยงามไปพร้อมกัน!
วิธีทั้งหมดนี้ สามารถเริ่มได้เลยที่ตัวเรา