การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ผนึกกำลังปลุกพลัง SMEs ไทยให้พร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ในยุคเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เล็งยกระดับมาตรฐาน ให้ตอบโจทย์ตลาดโลก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. กล่าวแสดงความยินดีในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs ใน Supply Chain เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจด้านมาตรฐานสินค้าและข้อมูลผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจสีเขียว ระหว่าง กนอ. และ สสว. ว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ฉบับนี้ เกิดจากเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นของ กนอ. และ สสว. ในการเตรียมความพร้อมเพื่อส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในนิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่ใน Supply Chain ให้สามารถสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจได้ และสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว (Green Transformation) รวมทั้งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดยความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมและเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs ใน Supply Chain จะเป็นการเริ่มต้นและขยายผลไปสู่โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ในอนาคตและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในนิคมอุตสาหกรรมต่อไป
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการคณะกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนา SMEs ให้สามารถดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของเศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะในการเตรียมความพร้อมเพื่อเสริมสร้างให้ SMEs ไทย มีขีดความสามารถในการพัฒนาธุรกิจให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs ใน Supply Chain เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจด้านมาตรฐานสินค้าและข้อมูลผู้ให้บริการที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจสีเขียว ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. ในฐานะผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้อยู่อย่างเกื้อหนุนกันระหว่างภาคอุตสาหกรรม สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศเจตนารมณ์มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) (IEAT Carbon Neutrality 2050) เพื่อร่วมสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยในการขับเคลื่อนสู่ Carbon Neutrality 2050
ดังนั้น กนอ. ยินดีอย่างยิ่งในการส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบ SMEs ในนิคมอุตสาหกรรม ที่อยู่ใน Supply Chain ให้มีโอกาสได้เข้ารับบริการจากโครงการของ สสว. เช่น โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS (Business Development Service) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาหรือสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจให้กับ SMEs รวมทั้งส่งเสริมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว (Green Transformation) รวมถึงสนับสนุนและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ด้วย
น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่า สสว. เตรียมความพร้อมเพื่อเสริมสร้าง SMEs ไทย ให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันในการพัฒนาธุรกิจให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของเศรษฐกิจสีเขียว และให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการลงนามฯ ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีระหว่าง สสว. และ กนอ. ในการบูรณาการความร่วมมือกัน สอดคล้องกับภารกิจหลักของ สสว. ในการขับเคลื่อน SMEs ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากลและให้สามารถปรับตัวกับมาตรการและข้อกำหนดด้านการค้าระหว่างประเทศ และสามารถปรับตัวตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่ปรับเปลี่ยนไปให้ความสำคัญภายใต้ SDG (Sustainability Development Goal) รวมทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงของการค้าโลก
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ทั้งสองฝ่ายลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการพัฒนา SMEs ไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และเติบโตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุคใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม