นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงาน “Kick Off มาตรการรับมือสถานการณ์ ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2568 ของกรมส่งเสริมการเกษตร” เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ถึงการปฏิบัติงานตามแนวทางขับเคลื่อนมาตรการรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง และการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย ว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในปัจจุบันยังคงเป็นปัญหาสำคัญในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และภาคเหนือของประเทศไทย ที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน และมีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงเกษตรฯ ได้ตระหนักถึงปัญหา และพร้อมรับนโยบายรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การเร่งรัดแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในพื้นที่การเกษตร โดยมุ่งเน้นการวางแนวทางให้ชัดเจน และร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพื้นที่การเกษตรเป็นเป้าหมายสำคัญในการบริหารจัดการ รวมถึงการเตรียมรองรับสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากพื้นที่เกษตรกรรมจะได้รับผลกระทบเป็นลำดับแรก และการบริหารจัดการในพื้นที่การเกษตรต้องคำนึงถึงการรองรับการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

“รัฐบาลต้องการให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจัง ในวันนี้จึงได้มอบนโยบายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ประชาสัมพันธ์ สร้างการตระหนักรู้ให้เกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มข้น อีกทั้ง ต้องไม่เป็นการบังคับเกษตรกร แต่ต้องสร้างแรงจูงใจแก่เกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตรแบบไม่เผา อาทิ ส่งเสริมการปลูกพืชมูลค่าสูง หรือสร้างช่องทางการจัดจําหน่ายให้ได้ราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป ดังนั้น จึงต้องร่วมกับหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นทุกปีให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ”

นางนฤมล ยังกล่าวถึงปัญหาหมอกควันที่มาจากต่างประเทศว่า ได้มีการเจรจาหารือกันในระดับรัฐบาล เพื่อขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านให้ลดการเผา รวมถึงให้คำแนะนำแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน นอกจากนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการเตรียมความพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5 โดยวันนี้ รมช.อิทธิ จะขึ้นบินสำรวจสภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมทั้งติดตามการนำเทคโนโลยีด้านต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 และจะนำไปขยายในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งกรุงเทพฯ ด้วย เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ใช้ข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) จาก GISTDA ในการติดตามตรวจสอบสถานการณ์การเผาในพื้นที่เกษตร ของประเทศไทยจากดาวเทียม TERRA และ AQUA ระบบ MODIS ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 พ.ค. 2567 พบจุดความร้อน (Hotspot) พื้นที่เกษตร ในประเทศไทยจำนวน 3,255 จุด จากเดิมปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวน 3,647 จุด พบว่าลดลง จำนวน 392 จุด คิดเป็น 10.75% สำหรับผลการดำเนินงานบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ปี 2567 รายพืช 5 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อ้อย มันสำปะหลัง และไม้ผล ไม้ยืนต้น ในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. 2567 มีปริมาณเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทั้งหมดประมาณ 48.6 ล้านตัน นำไปใช้แล้วประมาณ 33.54 ล้านตัน คิดเป็น 69% เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3.2 พันล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน