ไทยถามจีนตอบ : แบรนด์สินค้าใดของคนไทยขายดีที่สุดใน Alibaba?

การซื้อและขายของผ่านเว็บไซต์ หรือ online shopping กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย เห็นได้การขยายตัวของบริษัท online shopping อย่าง ลาซาด้า (Lazada) และ ช็อปปี (Shopee) จนเป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง

และผู้เขียนเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายคนคงได้เห็นโฆษณามหกรรมลดราคาของ online shopping ในวันที่ 11 พ.ย. ที่จะถึงนี้แล้วด้วย ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายว่า ที่มาของวันที่ 11 พ.ย. นี้คืออะไร

ที่น่าสนใจคือ ทั้ง Lazada และ Shopee เป็นบริษัทต่างชาติ ที่รุกเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย บ่งบอกถึงการเติบโตของธุรกิจตลาดออนไลน์ของประเทศไทย จนได้รับความสนใจจากนานาชาติ

โดย Lazada เป็นบริษัทลูกของอาลีบาบา (Alibaba) บริษัทตลาดขายส่งออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ส่วน Shopee มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์

ในวันนี้ จะขอพูดถึงทางด้าน Alibaba เพราะเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสไปเยือนสำนักงานของ Alibaba ณ กรุงปักกิ่ง ตามโครงการศึกษาดูงานซึ่งจัดโดยสำนักข่าว China Report ASEAN ภาคภาษาไทย (สามารถอ่านรายละเอียดตอนที่แล้วได้ คลิกที่ลิงก์นี้)

ไทยถามจีนตอบ

หน้าจอแสดงข้่อมูล ณ สำนักงาน Alibaba ประจำกรุงปักกิ่ง

หลังจากต้อนรับและทำความรู้จักกันแล้ว คุณ Violet เจ้าหน้าที่ของ Alibaba พาทีมสื่อมวลชนเข้าห้องประชุมเพื่อชมข้อมูลที่น่าสนใจของบริษัท โดยฉายยิงขึ้นจอด้านหลังแบบ “เรียลไทม์” วินาทีต่อวินาทีอย่างละเอียดยิบ เช่น ในวันนี้ Alibaba ขายของได้กี่ออเดอร์แล้ว มีกี่ประเทศบ้างที่สั่งของ ลูกค้าแต่ละประเทศสั่งของใดมากที่สุด ฯลฯ

ซึ่งตรงนี้ ทาง Alibaba ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ผู้เขียนจดโน้ตบางส่วนมาเล่าสู่กันฟังได้

คุณ Violet เริ่มด้วยการสรุปตัวเลขหลักๆให้ดูก่อนว่า Alibaba มีผู้ใช้เป็นประจำในแต่ละเดือนประมาณ 634 ล้านคน จำนวนนี้เยอะแค่ไหน ขอเปรียบเทียบว่า Amazon บริการตลาดออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐฯ มีผู้ใช้ประมาณ 200 ล้านคน ส่วน eBay มีประมาณ 177 ล้านคนต่อเดือน

หมายความว่า เอาทั้งสองยักษ์ใหญ่ E-Commerce ของโลกตะวันตกมารวมกัน ก็ยังไม่ใหญ่เท่ากับ Alibaba

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ่ายภาพร่วมกับ แจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัท Alibaba ณ ทำเนียบรัฐบาล

ในปัจจุบัน Alibaba เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ข้อมูลระบุว่า ประเทศที่ซื้อของจาก Alibaba มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร แคนาดา และรัสเซีย ซึ่งล้วนแต่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก

สำหรับในประเทศไทย เว็บไซต์ Alibaba คงยังเข้าไม่ถึงคนทั่วไปมากนัก และคนไทยจะคุ้นกับ Lazada ซึ่งเป็นบริษัทลูกสำหรับขายปลีกของ Alibaba มากกว่า

แต่มีสินค้าจากประเทศไทย ส่งไปขายให้คนจีนผ่าน Alibaba จำนวนมาก โดยข้อมูลระบุว่า ในบรรดาผู้ใช้ชาวจีนทั้งหมดของ Alibaba ที่ซื้อสินค้าขายส่งจากประเทศไทยนั้น เป็นผู้หญิงมากถึงร้อยละ 81 เป็นผู้ชายเพียงร้อยละ 19 และร้อยละ 79 ของลูกค้าทั้งหมดเหล่านี้ อายุต่ำกว่า 35 ปี

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ เมื่อตัวเลขต่อมาชี้ว่า สินค้ายอดนิยมที่คนจีนซื้อจากประเทศไทย หนีไม่พ้นเครื่องสำอางและอุปกรณ์ใช้ในบ้าน โดยประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า, ที่นอน, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, หมอน, มาสก์หน้า, รองพื้น, มาสคาร่า, โลชั่น และ แป้งตลับ

นอกจากนี้ Alibaba ยังรวบรวมข้อมูลไว้ด้วยว่า แบรนด์สินค้าไทยที่คนจีนนิยมซื้อมากที่สุดผ่าน Alibaba ประกอบด้วย มิสทีน (Mistine) ตามมาด้วย เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP), บิวตี้ บุฟเฟต์ (Beauty Buffet), ดอกบัวคู่ (Twin Lotus), แอนนาเบลล่า (Annabella), เถ้าแก่น้อย (Tao Kae Noi) และ พาราเทกซ์ (Paratex)

ใครคิดจะค้าขายกับคนจีน ข้อมูลข้างต้นคงจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง

วันคนโสด

อย่างที่พูดในตอนต้นมาแล้วว่า Alibaba และบริษัทลูก Lazada จะมีมหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ในวันอาทิตย์ 11 พ.ย. ที่จะถึงนี้

วันดังกล่าว มีที่มาจากความเชื่อของจีนจำนวนหนึ่งที่ถือเอา วันที่ 11 พ.ย. เป็น “วันคนโสด” เนื่องจากตัวเลข 11/11 ซึ่งสะท้อนการอยู่คนเดียว

ในเวลาต่อมา ร้านค้าและเว็บไซต์ขายของจำนวนมาก เริ่มเอาวันที่ 11/11 เป็นวันลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้คนช็อปปิ้ง (ประมาณว่า ไม่ต้องมีแฟน ช็อปแหลกดีกว่า ฮา) คล้ายๆกับการลดราคาในวัน Black Friday ในตะวันตก

กิจกรรมวันที่ 11 พ.ย. ของ Alibaba เป็นที่รู้จักทั่วโลก เนื่องจากมีมูลค่าการขายรวมทุบสถิติโลก ด้วยเม็ดเงินกว่า 8 แสนล้านบาทภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง สะท้อนวิสัยทัศน์ของ “หม่า หยุน” หรือ Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba ที่ต้องการให้บริษัทของตนไปถึงเวทีโลก

“เขาเชื่อว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้” Violet กล่าวผ่านล่าม “เขาไม่ได้จะให้ขายของเฉพาะในประเทศ แต่จะขายให้ทั่วโลก”

Alibaba กับประเทศไทย

หากใครจำกันได้ แจ๊ค หม่า เองก็เคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยแล้วเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และได้ลงนามร่วมลงทุนกับรัฐบาลไทย ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า Alibaba จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในไทยในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน

คุณ Rico Ngai ผู้อำนายการฝ่ายสื่อสารสัมพันธ์ของ Alibaba ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะร่วมมือในระยะยาวกับประเทศไทย หลังจากที่ความร่วมมือจำนวนหนึ่งได้สัมฤทธิ์ผลมาแล้ว

เช่น การลงนามกับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสร้าง digital hub กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค และ ลงนามส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย

นอกจากนี้ Alibaba ยังเคยเอาทุเรียนไทยไปขายได้ถึง 130,000 ลูกภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงอีกด้วย

“เรากำลังเน้นที่แผนการระยะยาว เป็นความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ด้วยกัน” คุณ Rico กล่าว “ในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา พวกเราก็ทำไปเยอะแล้ว … ความร่วมมือระหว่างพวกเรา จะไม่ใช่แค่ one big thing [เรื่องใหญ่ๆเพียงเรื่องเดียว] แต่จะเป็นความร่วมมือต่อเนื่องในระยะยาว”

เขียนโดย ธีรนัย จารุวัสตร์

คุณ Rico และคุณ Violet สองตัวแทนจาก Alibaba

 

หน้าจอแสดงข้อมูลบางส่วน ณ สำนักงาน Alibaba ประจำกรุงปักกิ่ง

หน้าจอแสดงข้อมูลบางส่วน ณ สำนักงาน Alibaba ประจำกรุงปักกิ่ง

ผู้เขียน (ขวาสุด) ถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหาร Alibaba และล่าม

 

คอลัมน์ “ไทยถาม จีนตอบ” มีเป้าหมายนำเสนอข่าวสารและเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับประเทศจีน โดยผู้อ่านสามารถส่งคำถามที่อยากทราบเกี่ยวกับประเทศจีนมาให้ผู้เขียนได้ที่ ได้ที่อีเมลล์ [email protected] หรือส่งข้อความหลังไมค์มายังเพจ Facebook ของข่าวสด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน