จากกรณีเกิดเหตุสลด 4 หนูน้อยพี่น้องลูกครึ่งไทยสวิตเซอร์แลนด์ ประกอบด้วย ด.ญ.ดีมา พาเมลา โบเรล อายุ 11 ขวบ ด.ช.ลูก้า ฟรองชัว โบเรล อายุ 10 ขวบ ด.ญ.ชนิดา เดล โบเรล อายุ 7 ขวบ และ ด.ช.คนัธชา ริคกี้ โบเรล อายุ 5 ขวบ พลัดตกจากระเบียงชั้น 4 หอพักเกศรี อาคารซี ซอยรามคำแหง 34 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อกลางดึกวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ด.ช.คนัธชา เสียชีวิต
ส่วนพี่คนโต ด.ญ.อายุ 11 ขวบ มีบวมช้ำเบ้าตาซ้ายแตก สมองตรงท้ายทอยบวม ปอดช้ำ และกระดูกขาหัก คนรอง ด.ช.วัย 10 ขวบ ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว อาการดีขึ้น และคนที่ 3 ดานี่ ด.ญ.อายุ 7 ขวบ สมองยังบวม อาการน่าเป็นห่วงที่สุด ต้องรอปาฏิหาริย์
ล่าสุด แม่ขอความช่วยเหลือไม่มีเงินรักษาลูกอีก 3 ส่วนศพลูกเล็ก 5 ขวบก็ยังไม่ได้ไปรับที่ร.พ.ตำรวจ เผยลูกมีสิทธิ์รักษาแค่บัตรทอง 30 บาท กลัวค่ารักษาด้านอื่นๆ ไม่พอ อีกทั้งยังต้องเฝ้าลูกอีก 2 คนที่สมองบวมยังโคม่า ขณะที่ตำรวจระบุ สอบยายเด็กรวมทั้งพยานแวดล้อมแล้ว เป็นไปได้ยากที่เด็กจะถูกทำร้าย แต่อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดพร้อมสอบสวนอย่างรอบด้าน
โดย น.ส.รัตติกาล ประกายแก้ว อายุ 36 ปี แม่ของเด็ก ขอบคุณความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินมาให้ เพราะทางบ้านยากจน ไม่มีเงินรักษาลูกที่เจ็บและทำศพลูกที่เสียชีวิต พร้อมตอบโต้ฝ่ายพ่อของเด็กที่เป็นชาวสวิส ที่อาศัยอยู่ในไทยว่าไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ เพราะถ้าได้เงินมาตามที่อ้างจริง ตนคงไม่ต้องออกไปงานร้านนวด 2 กะ ทั้งกลางวันกลางคืน และลูกๆ คงไม่ต้องไปเป็นนักแสดงตัวประกอบช่วยหาเงินเข้าบ้าน ยันพ่อไม่มีสิทธิในตัวเด็ก และลูกทุกคนก็กลัวพ่อ ไม่มีใครแฮปปี้เมื่อต้องเจอพ่อ
น.ส.รัตนา สุดกลั้นน้ำตาขณะเล่าถึงลูกชายคนเล็กที่เสียชีวิต ได้ร่ำไห้อีกพร้อมบอกว่า “เค้าเป็นเทวดาตัวน้อย เค้าชอบช่วยทุกคน เค้าเคยเล่าให้ฟังว่า พ่อเคยตีพี่ผู้หญิง เค้าก็จะไปบังหน้า ทั้งที่เค้าเป็นน้องชาย หรืออย่างเราดุพี่ดานี่ เค้าก็จะเข้ามาบอก อย่าดุพี่ดานี่นะ เค้าจะคอยปกป้องพี่สาว”
ขณะที่ทางพ่อของเด็กชี้แจงว่า การขอจัดการศพลูกคนเล็ก อยากรับศพด้วยตัวเอง แต่ทางแม่เด็กกีดกัน ทำให้ได้แค่เยี่ยมลูกสาวคนโตเพียงคนเดียว ยันที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายหรือตีลูกๆ แต่เป็นทางภรรยาต่างหากที่ชอบตีลูก พยายามฟ้องร้องเพื่อขอสิทธิในการเลี้ยงดูลูก ศาลนัดหลายครั้งแต่ทางแม่เด็กก็ไม่ยอมไปสักครั้ง ยืนยันว่าถ้าตนไม่อยากเลี้ยงลูก ก็คงไม่เสียเงินจ้างทนายเพื่อต่อสู้ ที่ผ่านมาไปเช่าบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่ๆ เพื่อรอให้ลูกมาอยู่ด้วย และเคยช่วยเหลือเงินเดือนละหมื่นกว่าบาท แต่เมื่อมีเรื่องฟ้องร้องทางยายก็ปฏิเสธรับเงิน
ด้านตาจี๊ด ตาของเด็ก บอกว่า กราบแทบเท้าขอบคุณคนที่บริจาคช่วยเหลือ ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ หลานตนจะไปได้ดีไปได้สวย เจอแบบนี้ตนใจเสีย เราเห็นหลานทุกวัน เจอตาหลานทุกคนก็จะไหว้ เป็นเด็กดี ตนมีอาชีพขี่ จยย.รับจ้าง ได้เงินวันละประมาณ 700 บาท ตนรักหลานยิ่งชีวิต งานการหาได้ เอาเท่าไหร่ก็ให้ ส่วนแม่ของเด็กทำงานหนักมาก เพื่อเลี้ยงลูก 4 คน เพราะทางพ่อเด็กไม่เคยส่งเสียลูกเลยตลอด 10 ปี แล้วยังจะฟ้องร้องแย่งลูก ยืนยันอนุญาตให้มาเยี่ยมลูกเท่านั้น แต่ห้ามมาวุ่นวายกับครอบครัวตนอีก
cr.ช่อง3 , แม่จอย
