ตำรวจปัตตานีแกะ รอยวงจรปิดได้ภาพมือวางคาร์บอมบ์สนั่นยะหริ่งชัดเจน เผยเก๋งแอคคอร์ดที่ใช้ก่อเหตุมีชื่อคนกรุงเทพฯ เป็นเจ้าของ แต่โอนลอยขายต่อมาแล้วหลายทอด พบเชื่อมโยงเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อเดือนส.ค. โดยใช้เป็นรถรับส่งมือระเบิด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รวบ 2 วัยรุ่นโยงเหตุปาระเบิดวัดตุยง หนองจิก คุมตัวเค้นสอบที่ค่ายอิงคยุทธ ทพ.ปิดล้อมหนองจิกค้นบ้านต้องสงสัยพบอาก้าใส่ถังฝังดิน 2 กระบอก

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์หน้าตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญข้างสำนักงานบริหารราชการตำบลปิยามุมัง และสหกรณ์รวมพลังหมู่บ้าน บริเวณวัดปิยามุมัง ม.3 ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ทหารพราน 1 นาย และชาวบ้านอีก 4 รายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 พ.ย. นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี รุดเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุ โดยผู้บาดเจ็บ 5 ราย ทั้งหมดอาการปลอดภัย ถูกนำส่งรักษาต่อที่ ร.พ.ปัตตานี 2 ราย คือนายยุทธกานต์ ชูเนตร อายุ 41 ปี และน.ส.สุชาดา พรหมภักดี อายุ 33 ปี ส่วนอีก 2 คนรักษาตัวที่ ร.พ.ยะหริ่ง ประกอบด้วย นางอมรมาศ จันทรดี อายุ 40 ปี และนายสันติ หวังนุรักษ์ อายุ 31 ปี ส่วนอส.ทพ.วรรณพล รุ่งสุวรรณ อายุ 27 ปี สังกัด ร้อย.ทพ.4212 รักษาตัวที่ร.พ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบชิ้นส่วนตัวตั้งเวลาถอยหลังจุดชนวนระเบิดที่ใช้ก่อเหตุ และชิ้นส่วนถังแก๊สกระจายทั่วบริเวณ ขณะที่ความเสียหายจากแรงระเบิด พบว่าปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญเกิดเพลิงลุกไหม้ลามไปยังอาคารปูนสองชั้นของสำนักงานราชการตำบลปิยามุมังวอดเสียหายทั้งหลัง เช่นเดียวกับร้านสหกรณ์เสียหายจากแรงระเบิด กำแพงและอาคารเรียนห้องครัวของโรงเรียนชุมชนวัดปิยารามซึ่งอยู่ตรงข้ามได้รับความเสียหายไปด้วย

พ.ต.อ.มนตรีเผยว่า สำหรับรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุพบว่า เป็นรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน วฐ 1563 กรุงเทพมหานคร มีชื่อคนกรุงเทพฯ เป็นเจ้าของเดิม แต่ขายต่อและโอนลอยมาแล้วหลายทอด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อครอบครองเป็นรายสุดท้าย นอกจากนั้นยังพบว่ารถคันดังกล่าว คนร้ายใช้ร่วมในการก่อเหตุลอบวางระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดยทำหน้าที่ขนส่งคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 10-13 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงยังแจ้งเตือนให้ เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าคนร้าย น่าจะนำมาประกอบระเบิดก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้

พ.ต.อ.มนตรีกล่าวว่า ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบภาพคนร้ายขับรถคาร์บอมบ์มาจากด้านหลังของวัด โดยมีคนร้ายอีกหนึ่งคนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง จากนั้นคนร้ายจึงนำรถคาร์บอมบ์มาจอดไว้ด้านข้างสำนักงานบริหารราชการตำบลทำทีว่าจะเติมน้ำมันหยอดเหรียญ ก่อนที่คนร้ายอีกคนเข้าไปภายในสหกรณ์ทำทีว่าจะเข้าไปซื้อของ แต่นำระเบิดแสวงเครื่องหนัก 5 กิโลกรัมมาซุกไว้ริมถนนอีกหนึ่งลูกเพื่อต้องการทำร้ายเจ้าหน้าที่ จากนั้นคนร้ายทั้งสองคนได้วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากนั้นประมาณ 5 นาที เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ขึ้น ส่วนระเบิดอีกหนึ่งลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่สามารถกู้ไว้ได้ทัน

ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ไมตรี สันตยากุล รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมพ.ต.อ.มนตรีเรียกชุดสืบสวนสอบสวนและพนักงานสอบสวน มาสรุปสถานการณ์ ล่าสุดแกะรอยจากภาพวงจรปิดทั้ง 8 จุด พบพฤติกรรมของคนร้ายค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากไม่ปกปิดใบหน้า ขณะขับรถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางที่กล้องสามารถจับภาพได้ ช่วงที่มารับคนร้ายที่ขับรถคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่นำภาพไปขยายด้วยเครื่องมือพิเศษเพื่อที่จะได้มาเปรียบเทียบกับแฟ้มภาพประวัติผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นกลุ่มนายอับดุลหาดี ดาหาเล็ง และนายซอบรี เจ๊ะหะ สองผู้ต้องหาคดีความมั่นคงและยังเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าหลายจุดเมื่อ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา

ด้านพ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี รรท.ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งลงพื้นที่หาพยานหลักฐานจากหลายๆ จุดไม่ว่าภาพวงจรปิด วัตถุพยานและพยานบุคคล ขณะนี้มีความคืบหน้าพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องการให้คดีมีความชัดเจนเพื่อที่จะเร่งออกหมายจับผู้ที่ก่อเหตุให้ได้ อยากให้ทุกฝ่ายและประชาชนอดทน เพราะกำชับให้เร่งสืบสวนเร่งด่วนที่สุดเพราะการก่อเหตุครั้งนี้ถือว่าโหดร้ายกับผู้บริสุทธิ์ พร้อมให้เจ้าหน้าที่วางกำลังคุมเข้มทุกพื้นที่ และขอความร่วมมือประชาชนช่วยในการปกป้องพื้นที่ของตนเองด้วย หากพบสิ่งต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทันที

ด้านพ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า เจ้าหน้าที่ยังคงวางระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมาตรการเดิม แต่เพิ่มรอบการออกลาดตระเวนตรงจุดเสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณที่ปรากฏออกมาเป็นภาพข่าว หลังมีเหตุการณ์ความไม่สงบที่ จ.ปัตตานี 2 จุด ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย โดยพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 กำชับให้เร่งติดตามความเคลื่อนไหว ข้อมูลการข่าวด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง พร้อมบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ รวมถึงดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนทั่วไป

พ.อ.ยุทธนามกล่าวถึงเหตุคนร้ายที่ก่อเหตุขว้างระเบิดที่วัดตุยง อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน เบื้องต้นนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ค่าย อิงคยุทธบริหาร ปัตตานี รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

วันเดียวกัน พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กกล.ทพ.จชต. พร้อมพ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ทพ.43 ใช้กฎอัยการศึกนำกำลังร่วม 3 ฝ่าย ปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ม.1 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับเบาะแสจากผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกจับกุมให้ข้อมูลว่า นายมะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ แกนนำระดับปฏิบัติการกลุ่มก่อความไม่สงบเข้ามาเคลื่อน ไหวในพื้นที่หลบซ่อนตัวอยู่

ปรากฏว่าไม่พบตัวเป้าหมาย มีเพียงนาย อีรอเฮง ซาลีลาเต๊ะ อยู่ภายในบ้านตามลำพัง จึงเชิญตัวไปสอบสวนขยายผล เบื้องต้นนายอีรอเฮงให้การว่าเป็นเพียงผู้ดูแลบ้านให้กับนายมะยะโก๊ะเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตรวจค้นบริเวณรอบตัวบ้าน ปรากฏว่าพบสภาพดินที่คล้ายถูกกลบเมื่อขุดขึ้นมาพบถังพลาสติกขนาดใหญ่ถูกฝังไว้ ภายในซุกซ่อนอาวุธปืนสงคราม อาก้า 2 กระบอก จึงยึดไว้ตรวจสอบว่าเคยนำไปก่อเหตุที่ไหนมาบ้าง

วันเดียวกัน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจกำลังพลและรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ของหน่วยเฉพาะกิจทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ ฉก.สงขลา ฉก.ปัตตานี ฉก.นราธิวาส ฉก.ยะลา ฉก.นาวิกโยธิน ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.นี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมระดับผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานขึ้นไป นอกจากนั้นยังเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี และเยี่ยมพ.จ.อ.ธีรพงค์ มากเรน ทหารชุดรักษาความปลอดภัยครู สังกัดหน่วยฉก.นย.32 กองทัพเรือ ที่บาดเจ็บจากเหตุระเบิดบนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ในวันเดียวกัน โดยรักษาตัวที่ร.พ.สงขลา นครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

วันเดียวกันเวลา 15.00 น. ร.ต.อ.สมภพ เกสรมาศ รองสว. (สอบสวน) สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนประจำที่ว่าการ อ.แว้ง บนถนนในหมู่บ้านซือแด ม.7 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี อส.ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.รัฐบวร บำรุงรส รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุอยู่โคนต้นไม้ใหญ่ริมถนนข้างเสาไฟฟ้า มีหลุมระเบิดลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายมูฮำหมัด มะยูโซ๊ะ อายุ 32 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวที่บริเวณศีรษะด้านซ้ายเป็นรอยช้ำ

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุอส.ประจำที่ว่าการ อ.แว้ง รวม 11 นาย เสร็จสิ้นการฝึกทบทวนจากพื้นที่ จ.ยะลา โดยสารรถยนต์หุ้มเกราะเพื่อกลับที่ตั้ง อ.แว้ง เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ที่บริเวณโคนต้นไม้ใหญ่ริมถนนแต่รัศมีทำลายล้างได้หักเหขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำให้รถยนต์ของอส.เสียหายเล็กน้อย อส.ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 1 นาย คาดเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ ครั้งที่ 1/2559 โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานผู้แทนพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือครม.ส่วนหน้า และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

พล.อ.ประวิตรกล่าวภายหลังการประชุมว่า ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ที่ตนได้ประชุมร่วมกับทางมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการดูแลความสงบในพื้นที่ตามแนวชายแดน ว่าจะใช้เวลาปฏิบัติเท่าไหร่และทำอย่างไรจึงจะเกิดเป็นรูปธรรม ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ซึ่งเป็นการลงลึกในรายละเอียดและกำหนดการปฏิบัติให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องปัญหาคน 2 สัญชาติ ที่ไทยได้ส่งรายชื่อไปให้มาเลเซียตรวจสอบ และเสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันกับทางมาเลเซียเพื่อพูดคุยกัน ร่วมทั้งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และรั้วชายแดนที่ทั้งสองประเทศจะตั้งคณะกรรมการมาคุยกันเรื่องแบบก่อสร้างและงบประมาณ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน