จากกรณีมีการนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาของชายสองคน ซึ่งอ้างว่าคล้ายเสียงของนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน และนายปรีชา ที่คุยกันเรื่องหวย 30 ล้าน
ล่าสุดนายอัจฉริยะ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการคนชนข่าว ที่ออกอากาศทางช่อง True4U เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึงประเด็นนี้ว่า คลิปที่นำมาเผยแพร่นั้น ไม่เกี่ยวกับคลิปเสียง 4,500 คลิปที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่ได้ทำหายไป ซึ่งอย่าสร้างความสับสน โดยคลิปที่ตนนำมาเปิดเผยได้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ลงพื้นที่ไปที่ภาค7 โดยได้มาจากคนๆหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มของนายปรีชา เพราะในกลุ่มของนายปรีชาเขาก็มีการไม่ไว้วางใจกัน และมีความระแวงว่าจะมีการหักหลังกัน จึงได้บันทึกไฟล์เสียงต่างๆส่งมาให้กับตน
“เรือลำหนึ่งถ้ามันมีรูรั่ว ข้อมูลมันก็ต้องถูกเปิดออกมาได้ ผมบอกได้เลยว่า มีหนึ่งในกลุ่มของเขาวันนี้มีการยอมรับสารภาพอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าวันนี้มีใครบางคนไม่ถูกดำเนินคดี เป็นพยาน แต่เวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนคนละเรื่องเลย อยู่ฝั่งครูเต็มร้อย แต่เวลาอยู่กับเจ้าหน้าที่รัฐมันคนละมุม ผมพูดได้เลยว่ามีคนรับสารภาพแล้ว ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญและสามารถน็อกได้เลย และเป็นพยานปากสำคัญของฝ่ายนู้นด้วย” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ ตนจะมีการเปิดเผยคลิปเสียงอีก ซึ่งยังไม่ขอบอกว่ามีตัวละครเพิ่มอีกหรือไม่ แต่ถ้าได้ยินแล้วมีอึ้งแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนได้คลิปมาจากคนๆหนึ่งที่ตกกระไดพลอยโจน ซึ่งที่จริงแล้วคนนี้เป็นคนดีและเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ว่าเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งนี้ เท่าที่ตนได้พูดคุย เขาก็เป็นคนดีและไม่ได้รู้เห็นเป็นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาตกกระไดพลอยโจน แต่ก็ยินดีที่จะเอาหลักฐานให้กับเรา
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนปล่อยคลิปที่ 2 หรือ 3 อาจจะมีอะไรปรากฎชัดเจนแล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องของทางราชการที่จะมีการแถลงข่าว ก่อนจะถึงวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ที่ศาลจะมีการนัดไต่สวนคดีหวย 30 ล้าน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะมีคำตอบขึ้นเร็วๆนี้ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ส
“ทั้งนี้ ตนจะยื่นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้พักราชการนายปรีชา อีกทั้ง ขณะนี้นายปรีชาถูกออกหมายจับและเป็นผู้ต้องหาแล้ว ดังนั้น การที่ครูปรีชาบอกว่าจะสู้ในกระบวนการยุติธรรม ผมก็อยากให้ครูปรีชาพักราชการและเอาเวลาไปสู้ในกระบวนการยุติธรรมเต็มตัว ก็ไม่ควรจะมาสอนหนังสือแล้ว เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อครูทั่วประเทศและนักเรียน” นายอัจฉริยะ กล่าว
