จากกรณีผลิตภัณฑ์ บีเคิร์ฟ ของนางเอกดัง เบลล่า ราณี และ ดาราสาว มะปราง วิรากานต์ อย.ชี้เข้าข่ายโฆษณาเกินจริง เรื่อง “ชงผอม” โดย สาวมะปราง ยอมรับมีการกระทำความผิดโดยตัวแทนจำหน่าย แต่ได้แจ้งเตือนไปแล้ว พร้อมจ่ายค่าปรับ ยันปรึกษาสคบ.ทุกขั้นตอน ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่แน่
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 พ.ค. ที่ บก.ปคบ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจ ปคบ. แจ้งว่า นางเอกสาว เบลล่า ราณี แคมเปน หุ้นส่วนทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ Be Curve ร่วมกับ มะปราง วิรากานต์ เสณีตันติกุล ซึ่งมีรูปภาพประกอบโฆษณาสินค้ายี่ห้อดังกล่าว มีความประสงค์อยากจะเข้ามาชี้แจงเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ตำรวจยินดีรับฟังและจะให้ความยุติธรรมในเรื่องนี้นั้น
ล่าสุดแหล่งข่าว ปคบ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นางเอกสาว เบลล่า ได้ติดต่อมาทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในคดีนี้แล้ว โดยจะขอเข้ามาพบในวันศุกร์ที่ 11 พ.ค. นี้ แต่เนื่องจากทางพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ถูกระดมไปร่วมภารกิจคดีตลาดใหม่ดอนเมืองอยู่ ยังไม่สะดวกให้เข้ามาพบ จึงขอเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า วันที่ 15 หรือ 16 พ.ค. แทน ซึ่งจะได้ประสานนัดหมายวันเวลาที่ทั้งเบลล่า และ พนักงานสอบสวนสะดวกทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง
สำหรับกรณีของสาวมะปราง หุ้นส่วนผู้มีอำนาจของบริษัท “99newone CO.,LTD.” กับ “Be Curve Thailand” ที่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเอง เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำไว้สองประเด็น คือ แชร์ลูกโซ่ ซึ่งมะปรางชี้แจงว่ามีตัวแทนจำหน่ายจริง 18 ราย บริษัทฯ จดทะเบียนมีผู้ร่วมหุ้น 3 ราย ตัวมะปราง กับ 2 รายที่เป็นบุคคลทั่วไปไม่ได้มีชื่อเสียง
ส่วนกรณีของ เบลล่า ราณี นั้น มะปราง แจ้งว่าเป็นผู้ร่วมทุนในการทำธุรกิจด้วย แต่ไม่ได้โฆษณาสินค้า มีแค่ตัวแทนจำหน่ายบางราย ไปเอาภาพของเบลล่า จากในโซเชี่ยลฯ อาจจะเป็นภาพที่เอามาจากอินสตาแกรมของเบลล่ามาใช้ทำภาพประกอบ และคิดถ้อยคำบรรยายสรรพคุณสินค้าเอง เช่น คำว่า “ชงผอม” “จองก่อนรวย” เป็นต้น
จากนั้นตัวแทนจำหน่ายได้เอาไปโฆษณาเผยแพร่ ทางมะปรางเองบอกว่าได้ตรวจสอบ พบเห็นก็มีการตักเตือนตัวแทนจำหน่ายรายนั้นๆ ไปแล้ว แต่ก็จะขอรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งหมดแทน
สำหรับการโฆษณาสินค้าของ Be Cueve ที่เป็นประเด็นถูก อย. และ ตำรวจ ปคบ. ตรวจสอบเวลานี้ คือ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522
มาตรา 40 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือ สรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร
มาตรา 41 ผู้ใดประสงค์จะโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือ สรรพคุณของอาหารทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพ ภาพยนตร์ หรือทางหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่น หรือด้วยวิธีอื่นใด เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ต้องนำเสียง ภาพ ภาพยนตร์ หรือข้อความที่จะโฆษณาดังกล่าวนั้น ให้ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้
ซึ่ง ม.40 โฆษณาเกินจริง มีอัตราโทษ จำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ม.41 โฆษณาที่ต้องได้รับอนุญาต มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท แนวทางที่ผ่านมา คือ หากผิดครั้งแรก อย.จะปรับ 1,000 บาท ครั้งที่ 2 ปรับ 3,000 บาท ครั้งที่ 3 ปรับ 5,000 บาท
กรณีโฆษณาของ Be Cueve ม.41 นั้นทาง อย.กำลังพิจารณาอยู่น่าจะทราบผลในวันนี้พรุ่งนี้ จากนั้นจะแจ้งมาทาง ปคบ. ให้ทราบ เพื่อจะได้พามะปราง ไปพบเจ้าหน้าที่ อย. เพื่อทำการปรับต่อไป
พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สง่า เอี่ยมงาม รอง ผกก.4 บก.ปคบ.สอบถามไปยัง อย.ว่า กรณีของ Be Curve เข้าข่ายโฆษณาเกินจริงหรือไม่ น่าจะทราบผลในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนกรณี เบลล่า ตนยังไม่ทราบว่าจะมาวันไหนแน่นอน อย่างไรก็จะต้องมา เพราะมีรูปอยู่ในโฆษณาดังกล่าว โดยวันก่อนว่าจะมา แต่ติดงาน น่าจะมาพบในสัปดาห์หน้า
