สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี หลังผลตรวจทางนิติเวชระบุยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวจากสารไซบูทรามีนในอาหารเสริมลดน้ำหนัก ยี่ห้อลีน (LYN) ตามปรากฎเป็นข่าว
ล่าสุด วันนี้ (17 พ.ค.) เวลา 09.30 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม นายวุฒิกร หมอนอิง อายุ 30 ปี น้องชายของ น.ส.พิมลวรรณ ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พูลสวัสดิ์ ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน ขอให้ช่วยดำเนินคดีและจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมายจากผลิภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าว
นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมา บก.ปคบ. เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อ ลีน เนื่องจากเป็นคดีซับซ้อนเพราะต้องมีผลตรวจทางการแพทย์มายืนยันด้วย โดยผลตรวจจาก กลุ่มนิติเวชวิทยา รพ.ราชบุรี ระบุสาเหตุ หัวใจล้มเหลวจากผลแทรกซ้อนของยาไซบูทรามีน อีกทั้ง จะเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้รื้อคดีที่มีผู้เสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีน ทั่วประเทศทุกราย
ด้าน นายวุฒิกร กล่าวว่า พี่สาวตนมีลูกชาย 1 คน ปัจจุบันอายุ 9 ขวบ รูปร่างอวบได้เห็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียจึงซื้อมาทดลองบริโภคได้ประมาณ 10 วัน น้ำหนักลดลง 2 กิโลกรัมแต่ก็มาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ซึ่งพี่สาวไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด หลังจากนั้น มารดาเสียใจมากและร่างกายทรุดลง จนเสียชีวิตในวันที่ 3 เม.ย. เป็นความสะเทือนใจของคนในครอบครัวที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โดยตนได้มอบหลักฐานทั้งหมดให้ สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้วแต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปคดีได้
“ทั้งนี้ มีตัวแทนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลีนโทรศัพท์มาเคลียร์ปัญหา ตั้งแต่แม่ยังไม่เสียชีวิต พร้อมยื่นข้อเสนอเป็นเงินเยียวยา 1 ล้านบาท แต่ผมไม่กล้าไปพบเพราะกลัวอันตราย นอกจากนี้ เงินจำนวนดังกล่าวไม่สามารถชดเชยกับชีวิตพี่สาวได้ จึงเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ปคบ. เพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องและไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ลีนอีก”
ส่วนทาง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ เผยว่า ขณะนี้สำนวนคดียังอยู่ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี หากมีความซับซ้อนมากอาจเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาโอนสำนวนคดีมายัง บก.ปคบ. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดโรงงานผลิตและยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทั้งหมดมาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
