หน่มเจ้าของร้านขายยา ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกจ้างสาวดับสยองคาร้าน ในซอยเสรีไทย 7 แยก 7 ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน แจ้งตร.ลาดพร้าวตรวจสอบ พบเจ้าตัวถือปืนเดินไปมาอยู่ พยายามเกลี้ยกล่อมร่วมครึ่งชั่วโมงไม่เป็นผล สุดท้ายใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายหนีความผิด เผย เจ้าตัวป่วยหลายโรค ร่วมทั้งมีอาการซึมเศร้า ลูกสาวเห็นศพถึงช็อก ด้านตร.ขอเวลาตรวจภาพจากวงจรปิด และสอบปากคำญาติ ก่อนสรุปปมเหตุสลด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ สุวรรณชัยรบ รองผกก.(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 1/1 ซอยเสรีไทย 7 แยก 7 ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบึงกุ่ม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ พ.ต.อ.บุญญฤทธิ์ รอดมา พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ชุดจู่โจม ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชฯ ร.พ.ตำรวจ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้นติดกันหลายคูหา จุดเกิดเหตุอยู่ที่บ้านเลขที่ 1/1 บริเวณชั้น 1 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายยา ชื่อร้าน เภสัชยา ภายในร้านพบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เป็นหญิง 2 ราย ชาย 1 ราย รายแรกเป็นหญิงชื่อน.ส.วนิดา วงศ์ชัย อายุ 30 ปี เป็นลูกจ้างของทางร้านขายยา ถูกอาวุธปืนยิงนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กลางร้าน ถัดไปบริเวณห้องพักผ่อน พบศพนายสมเดช สายจิตบริสุทธิ์ อายุ 60 ปี สภาพศพนอนหงาย ใส่เสื้อลายจุด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณศีรษะ ข้างตัวพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ตกอยู่ และใกล้กันพบศพนางมาราศรี สายจิตบริสุทธิ์ อายุ 59 ปี เป็นภรรยาของนายสมเดช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันบุตรสาวของทั้งคู่ที่ทราบเหตุเดินทางมาดู เห็นศพพ่อ-แม่ถึงกับช็อกร่ำไห้คร่ำครวญเป็นที่น่าเวทนา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีประชาชนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดภายในร้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เมื่อสายตรวจสน.ลาดพร้าวมาถึง พบนาย สมเดชกำลังถือปืนเดินอยู่ภายในร้าน โดย มีภรรยาและลูกจ้างนอนจมกองเลือดอยู่ เจ้าหน้าที่รีบกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป และพยายามเกลี้ยกล่อมแต่เจ้าตัวไม่ตอบสนอง ผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง สุดท้ายมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็พบว่านายสมเดชใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบว่าทั้งคู่ทะเลาะอะไรกันหรือไม่ เบื้องต้นทั้ง 3 ศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 จากการสอบปากคำพยานที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด ต่อมาหลังจากนั้นห่างกันครึ่งชั่วโมงก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด คาดว่าผู้ก่อเหตุจะยิงตัวเองเสียชีวิต ทั้งนี้ ก็ต้องรอการตรวจสอบจากญาติว่าสาเหตุเกิดขึ้นจากอะไร ทั้งนี้ ก็ยังให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากทางญาติอยู่ระหว่างความโศกเศร้าเสียใจ แต่ได้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้นายสมเดชป่วยหลายโรครุมเร้า โดยมีอาการเครียดและซึมเศร้า จึงอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุสลดขึ้นก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่เข้าไปซื้อยาตามปกติได้ยินเสียงน.ส.มาราศรีพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกับนายสมเดช ประมาณว่า “ทำไมต้องจริงจังกับเรื่องแบบนี้” จากนั้นนายสมเดชได้เข้าไปเอาอาวุธปืนก่อนนำออกมาจ่อยิงน.ส.มาราศรีและน.ส.วนิดา จนทั้งคู่เสียชีวิตในทันที เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที นายสมเดชก็ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตนเองเพื่อหลบหนีความผิด นอกจากนี้ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจนกระทั่งตัดสินใจก่อเหตุสลดดังกล่าว
