ตร.จันทบุรีเรียกสอบสาวสายเดี่ยวชุดดำ คดี 4 ทรชนรุมโทรมสาว 21 จนน้ำลายฟูมปากเลือดทะลักจมูกขาดใจตายสลดคาล้งรับซื้อผลไม้ ยืนยันไม่ใช่นกต่อล่อผู้ตายไปเป็นเหยื่อ ญาติยังไม่รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาขอรอให้คลี่คลายก่อน ข้องใจ 3 เพื่อนสาวที่มารับไปเที่ยวผับหายตัวไร้ร่องรอย จี้ตำรวจเรียกสอบคาดรู้เห็นเป็นใจ ผลชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบสารพิษ ส่งชิ้นส่วนกระเพาะอาหารให้สถาบันนิติเวชตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากคดีตำรวจ จ.จันทบุรี จับ 4 ผู้ต้องหาร่วมกันรุมโทรมหญิงสาวอายุ 21 ปี เจ้าของธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์ จนเสียชีวิตคาล้งรับซื้อผลไม้แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.มะขาม หลังพาตัวหญิงสาวรายดังกล่าว ซึ่งหมดสติออกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรี สภาพศพผู้ตายน้ำลายฟูมปากและมีเลือดไหลออกจากจมูกคล้ายถูกวางยา (ช็อกเปิดแช็ตแก๊งรุมข่มขืน!! บอกรุ่นพี่‘น้องกิ๊ฟ’หลังก่อเหตุสยองจนสิ้นใจ-แฉนั่งดูศพ(คลิป))

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และพ.ต.อ. เชษฐา กีชวรรณ์ ผกก.สภ.มะขาม ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า หลักฐานจาก ที่เกิดเหตุและดีเอ็นเอของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ตั้งแต่วันเกิดเหตุส่งตรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนมีหลักฐานของผู้ต้องหาทั้ง 4 คนชัดเจน ส่วนศพอยู่ในระหว่างการส่งศพไปผ่ารอผลการพิสูจน์จากแพทย์

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีส่วนพัวพัน อยู่ในแก๊งเงินกู้นอกระบบและเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ การตรวจสอบพบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เป็นลูกชาวสวนชาวนาเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงไม่มีความหนักใจในการดำเนินคดีแต่อย่างใด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้สนับสนุนว่าร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิง ในลักษณะโทรมหญิง ซึ่งมีหลักฐานในที่เกิดเหตุและคำรับสารภาพของผู้กล่าวหา และรอผลพิสูจน์จากแพทย์ หากพบความผิดเพิ่มเติมอีกจะเพิ่มข้อหาต่อไป

วันเดียวกันพร้อมพนักงานสอบสวน สภ. มะขาม เชิญตัวน.ส.เอ (นามสมมติ) มาสอบปากคำ เนื่องจากเป็นหญิงสาวในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีดำ ที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปกล้องวงจรปิด ขณะช่วย 4 ผู้ต้องหา ถือกระเป๋าของน.ส.กิ๊ฟ ผู้ตาย ขณะถูกอุ้มตัวออกมาจากผับจนมาถึง ลานจอดรถ ที่มีรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตูสีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 3172 จันทบุรี ก่อนจะช่วยกันยกน.ส.กิ๊ฟขึ้นท้ายกระบะ และพากันขับหายไป โดยมียายและญาติของผู้ตายมาร่วมฟังการสอบปากคำด้วย

น.ส.เอให้การว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ไม่ได้มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเป็นนกต่อตามที่ถูกกล่าวหาในสังคมโซเชี่ยล แต่บังเอิญไปเที่ยวที่ผับดังกล่าว และเห็นผู้ต้องหาทั้ง 4 คนกำลังประคองผู้ตายออกจากผับ จึงเข้าไปช่วยด้วยความหวังดี เพราะรู้จักกับหนึ่งในผู้ต้องหา คิดว่าผู้ตายกับกลุ่มผู้ต้องหารู้จักและมาด้วยกัน จึงเข้าไปช่วยโดยไม่ได้เอะใจ จึงช่วยถือของให้และเดินไปส่งที่รถกระบะ จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านโดยไม่รู้เลยผู้ตายถูกผู้ต้องหาทั้ง 4 คนพาไปไหน

ด้านญาติผู้ตาย เผยว่า ยังไม่ปักใจเชื่อว่ามี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ 4 คน โดยเชื่อว่าน่าจะมี ผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุมากกว่านี้ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดในช่วงเกิดเหตุเพื่อนของผู้ตายทั้ง 3 คน ที่ไปเที่ยวด้วยกันที่สถานบันเทิง ดังกล่าวถึงได้หายตัวไป โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงชื่อ “แอร์” ที่ขี่รถจักรยาน ยนต์ไปรับผู้ตายมาเที่ยวด้วย จากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมติดตามตัวทั้ง 3 คน มาสอบถามว่าเหตุใดในช่วงเกิดเหตุถึงปล่อยให้ผู้ตายอยู่ตามลำพัง จนกระทั่งถูกกลุ่มผู้ต้องหาอุ้มไปรุมโทรมจนตายสลด

ญาติยังระบุอีกว่า อยากให้ทางสังคมเห็นใจผู้ตายบ้าง เพราะเป็นคนน่าสงสารกำพร้าทั้งพ่อและแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ และยังต้องส่งเสียดูแลลูกอีก 2 คนด้วยตัวเอง เนื่องจากเลิกรากับแฟนหนุ่มไปนานแล้วอย่าตัดสินแค่เห็นจากการแต่งกาย หรือพฤติกรรมเที่ยวเตร่ สาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากโรคหัวใจ หรือโรคประจำตัว โดยปกติเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี โดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการถูกวางยา ทั้งนี้ยังต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อจากสถาบันนิติเวชอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเรื่องการดำเนินการเกี่ยวกับศพ ยังฝากไว้ที่ห้องเก็บศพ ร.พ.พระปกเกล้า ไม่มีกำหนดนำไปประกอบพิธีทางศาสนา เพราะบรรดาญาติต้องการรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย

ด้าน พ.ต.ท.จิราเจตย์ ชิตพลู รอง ผกก.สส. สภ.มะขาม กล่าวว่า ในส่วนเพื่อนสาวอีก 3 คนของผู้ตาย ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นคนชวนไปเที่ยวผับและหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ในเรื่องนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามตัว มาสอบปากคำซึ่งจะทำให้คดีนี้มีความชัดเจนมากขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ผลการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบสารอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงส่งชิ้นเนื้อกระเพาะ ส่งไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีครั้ง ว่าภายในร่างผู้เสียชีวิตมีสารเคมีหรือถูกมอมยาหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะ ส่วนคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหา ว่าก่อนเสียชีวิตมีการดื่มเหล้าร่วมกันถึง 7 ขวดนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อแต่อย่างใด และจะรอผลชันสูตรที่แท้จริงเพื่อเป็นหลักฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน