สั่งให้ออกจากราชการแล้ว “ส.ต.ต.” หัวโจกแก๊งปล้นเงิน 5 ล้าน ในปั๊มน้ำมันสุพรรณบุรี เฉลิมเกียรตินำทีมคุมมือ ปล้นพี่ชาย ส.ต.ต. ทำแผน ตร. 100 นายตรึงกำลังเข้ม ยังป้องน้องชายเต็มที่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อ้างวางแผนกับเพื่อนตั้งแต่เดือนต.ค. เพื่อเอาเงินไปซื้อยาเสพติด ระบุเคยต้องโทษคดียามาถึง 4 ครั้ง “ผบช.ภ.7″ยันได้เงินของกลางคืนครบแล้ว เตรียมล่าอีก 2 เข้า ซังเต “สุวีระ”ติงเป็นตำรวจแต่ทำตัวไม่ดี แทนที่จะห้ามพี่ชาย กลับช่วยเหลือ
จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นรถขนเงินภายในปั๊มน้ำมัน ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้เงินสดไปกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคนร้ายทำมือถือตกไว้ด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจจับกุมคนร้ายได้คือส.ต.ต.วิฑูรย์ เพ็ชรปานกัน อายุ 24 ปี ผบ.หมู่ สส.สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และนาย สมนึก สมสวย อายุ 35 ปี พ่อค้าขายป๊อปคอร์นในปั๊มน้ำมัน ก่อนขยายผลจับกุมนาย ชัยเดช เพ็ชรปานกัน อายุ 35 ปี พี่ชายของส.ต.ต.วิฑูรย์ พร้อมเงินสดเกือบ 5 แสนบาท ซึ่งส.ต.ต.วิฑูรย์สารภาพว่าเป็นคนวางแผน โดยพี่ชายเป็นคนลงมือ นายสมนึกทำหน้าที่ชี้เป้า และยังมีผู้ร่วมแก๊งอีก 2 คน ทำหน้าที่ซื้อซิมการ์ดกับมือถือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว จับ “สตต.” หัวโจกปล้นรถขนเงิน 5 ล้าน-ผบ.ตร. ชี้ตำรวจทำผิดต้องรับโทษหนักกว่าคนทั่วไป
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงงมหาเงินของกลางที่เหลือภายในป่าละเมาะ หมู่ 2 ต.ดอนมะนาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กระทั่งพบกระเป๋าเป้สีดำในบ่อน้ำ ภายในมีเงินสดรวมทั้งสิ้น 4,586,100 บาท และส่วนที่ไปค้นเจอภายในโรงแรมแหล่งกบดานของนายชัยเดชอีก 362,500 บาท รวมยอดเงินที่พบทั้งหมด 4,948,600 บาท ส่วนยอดเต็มจำนวนคือ 5,130,000 บาท และหายไป 181,400 บาท
ต่อมาวันเดียวกันที่สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร., พล.ต.ท.สุวีระ ทรงเมตตา รรท.ที่ปรึกษา (สบ10), พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สุคนธ์ พรหมายน รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช รองผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รองผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ร่วมกันแถลงจับกุมแก๊งปล้นรถขนเงินอย่างเป็นทางการ พร้อมของกลางหลายรายการ รวมทั้งกระเป๋าใส่เงินธนาคาร กล่องใส่เงินธนาคาร และกระเป๋าเป้ใส่เงินสีดำ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง และเงินสด 4,948,600 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายสุเชาว์ แจ้งดี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุทำหน้าที่ซื้อมือถือและซิมการ์ด เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือนายตูน และนายฟ้า ทำหน้าที่จัดหาอาวุธปืน ยังคงหลบหนีอยู่
จากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควบคุมตัวนายชัยเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย คุ้มกันอย่างหนาแน่น จุดแรกจุดที่ลงมือก่อเหตุ จากนั้นไปยังจุดทิ้งรถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าบริเวณบ้านร้างในป่าละเมาะ บ้านไผ่บ่อยา หมู่ 2 ต.ดอนมะนาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งใกล้กับบ้านของภรรยานายชัยเดช จุดต่อมาเป็นที่ซ่อนเงินในบ่อน้ำข้างป่าละเมาะ ห่างกันประมาณ 200 เมตร และได้นำตัวไปยังจุดทิ้งเสื้อเกราะและเสื้อคลุม ที่บ่อน้ำห่างจากจุดเดิมอีก 200 เมตร
นายชัยเดชให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุได้ขับรถจยย.หลบหนีมาที่บ้านร้างและนำเสื้อผ้ามาทิ้งไว้บ่อส้วม แล้วแกะกล่องเงินแบ่งใส่เป้ 5 แสนบาท เพื่อใช้หลบหนี ส่วนที่เหลือก็นำไปใส่กระเป๋าอีกใบ และหย่อนทิ้งลงไปบ่อน้ำ โดยมีการเคลื่อนย้ายจุดไปกว่า 3 ครั้ง ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะไม่มีเงินใช้ ซึ่งตนและเพื่อนเป็นคนวางแผน ส่วนน้องชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีการวางแผนมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งเรื่องแกล้งทำโทรศัพท์ตก โดยการทำทีเป็นโทร.หาคนที่ไม่ถูกกัน เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่ไขว้เขว นอกจากนี้ ตนเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาถึง 4 ครั้ง
ด้านพล.ต.ท.สุวีระเปิดเผยว่า ตลอดระยะ 5 วันที่ผ่านมา ตำรวจทุกทีมได้ระดมกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ ตลอด 24 ช.ม. เพื่อเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีและมีหลักฐานเชื่อมโยงที่แน่ชัด สืบสวนสอบสวนทั้งพยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด พฤติกรรมของคนร้าย แนวทางการตรวจพิสูจน์จากหลักวิทยาศาสตร์ จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ จากการสอบสวนส.ต.ต.วิฑูรย์ ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนเพื่อช่วยพี่ชาย ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่ถูกต้อง หากพี่ชายคิดแบบนี้ต้องคอยตักเตือน ไม่ใช่ช่วยเหลือ โดยล่าสุดส.ต.ต.วิฑูรย์ ได้มีคำสั่งให้ถูกออกจากราชการแล้ว และถูกส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่พล.ต.ต.สุทธิพงษ์กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ได้สอบปากคำพนักงานธนาคารแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนเงินที่หายไป 181,400 บาท นายชัยเดชได้ให้การว่าเอาไปใช้ในการหลบหนี และยังรับอีกว่าการปล้นในครั้งนี้จะเอาเงินไปซื้อยาเสพติดมาขายเพื่อฟอกเงิน ส่วนตอนนี้ได้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 คน ได้ออกหมายจับและจะได้เร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติได้เป็นตัวเแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบเงินรางวัล 100,000 บาท ให้กับตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีพล.ต.ต.สุคนธ์ พรหมายน ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เป็นผู้รับมอบ เพื่อเป็นขวัญและกำลังในการทำงานของตำรวจต่อไป
