หนุ่มฉุนสาวตีจาก ดักง้อคืนดีไม่ได้ผลชัก .38 จ่อยิงเผาขนนักศึกษาสาวราชภัฏ ดับอนาถคาถนนย่านพุทธมณฑล ก่อน กอดศพ ยิงใต้คางตัวเองไปตายโรงพยาบาล เผยคบกันมาหลายปี แต่ฝ่ายหญิงจับได้ผู้ชายคบซ้อนขอแยกทาง อีกฝ่ายไม่ยอมตามง้องอนขอคืนดี เมื่อไม่เป็นผลเลยก่อเหตุสยอง อีกเหตุโจ๋วัย 18 พกปืนไปง้อแฟนสาวกลางตลาดมีนบุรี แต่ไม่เป็นผลเลยรัวยิงอกสาวจมกองเลือด แล้วซัลโวอกตัวเองเจ็บสาหัสทั้งคู่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. พ.ต.ท.กิตติ์ธิพณ อุดมศิริพัชร สว.สอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส บริเวณริมถนนปากทางเข้าหมู่บ้านสหพร ถนนศาลายา-นครชัยศรี ต.ศาลายา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รองผบก.ภ. พ.ต.อ.สุธี พรมมาลี ผกก.สภ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์ ร.พ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่พฐ.ภาค 7 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบศพน.ส.ณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 ม.2 ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สาขาธุรกิจพาณิชยนาวี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม สวมเสื้อยืดโปโลสีชมพู นุ่งกระโปรงพลีตนักศึกษานอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่หน้าอกขวา กระสุนฝังใน ข้างศพพบปืนลูกโม่ขนาดเดียวกันเปื้อนเลือดตกอยู่

ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นมือปืนที่ก่อเหตุ ทราบชื่อนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.4 ต.กระเฉด อ.เมือง จ.ระยอง แฟนเก่าของผู้ตาย หลังยิงน.ส.ณัจฉรีญาจนเสียชีวิตใช้ปืนกระบอกเดียวกัน จ่อยิงปลายคางตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม แต่กระสุนปืนไม่เข้าจุดสำคัญจึงบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพาส่งรักษาที่ร.พ.พุทธมณฑล แต่อาการสาหัสมากจึงส่งรักษาต่อที่ร.พ.ศูนย์นครปฐม ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้นทราบว่า นายภัคพงษ์ผู้ก่อเหตุ และน.ส.ณัจฉรีญา ผู้เสียชีวิต เคยคบหากัน 4-5 ปี ตั้งแต่น.ส.ณัจฉรีญา ผู้ตายเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง เนื่องจากพ่อแม่ของผู้ตายแยกทางกัน จึงย้ายที่อยู่มาที่ จ.ระยอง และมาคบหากับนายภัคพงษ์ ขณะนั้นเรียนอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิค ระยอง สาขาคอมพิวเคอร์ ปัจจุบันทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง จ.ระยอง ด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีฐานะดีคอยดูแล ช่วยเหลือ จนกระทั่ง น.ส.ณัจฉรีญา ผู้ตาย เข้ามหาวิทยา ลัยใน จ.นครปฐม นายภัคพงษ์ยังขับรถไปมาหาสู่อยู่บ่อยครั้ง

ล่าสุดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายจับได้ว่านายภัคพงษ์คบหญิงอื่นด้วยจึงพยายามตีตัวออกห่างและขอเลิกรา แต่นายภัคพงษ์ไม่ยอมและมักมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นายภัคพงษ์ขับรถมาหา ผู้ตายและทำร้ายร่างกายซ้อมทุบตีจนหน้าตาบวมปูด หลังก่อเหตุขับรถกลับบ้านที่ จ.ระยอง ก่อนเกิดเหตุน.ส.ณัจฉรีญาและเพื่อนกำลังเดินไปขึ้นรถที่ปากซอยเพื่อไปเรียน นายภัคพงษ์ผู้ก่อเหตุขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ปว 8879 ระยอง มาดักรออยู่กลางทางพยายามของ้อคืนดี

แต่ผู้ตายไม่ยอมฟังเอาแต่เดินหนี ทำให้นายภัคพงษ์โมโหชักอาวุธปืนที่ถือเตรียมไว้ยิงใส่ทันทีจนเสียชีวิต ส่วนนายภัคพงษ์เดินไปข้างผู้ตายนอนกอด แล้วใช้อาวุธปืนหันกระบอกจ่อคางยิงใส่ตัวเองหวังตายตามดังกล่าว คาดว่าฝ่ายชายตั้งใจมาก่อเหตุ เนื่องจากภาพวงจรปิดที่จับภาพได้ ฝ่ายชายไม่เพียงแค่ขอคุยเจรจา แต่ในมือซ่อนอาวุธปืนไว้อยู่ด้านหลังอยู่แล้ว เมื่อคุยกันแล้วไม่สามารถปรับความเข้าใจกันจึงชักอาวุธปืนยิงใส่ร่างของผู้ตายทันที และเป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากผู้ตายเรียนปี 3 และจะจบการศึกษาภายในอีก 2 เดือนหน้า แต่ต้องมาจบชีวิตเสียก่อน

วันเดียวกัน พ.ต.ท.ถาวร สายมะณี รอง ผกก.สอบสวน สน.มีนบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันกลางตลาดใหม่มีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านขายเสื้อผ้าชื่อหมูทอง ตั้งอยู่กลางตลาดมีนบุรี เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือดจำนวนมาก และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 3 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวจ.อุทัยธานี ลูกจ้างร้านที่เกิดเหตุ ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 2 นัด และนายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปีเท่ากัน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันที่หน้าอก ทั้งคู่อาการสาหัส ผู้ประสบเหตุรีบพาส่งรักษาที่ร.พ.นวมินทร์ ไปก่อนหน้าแล้ว

เบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน เป็นคู่รักกัน โดยฝ่ายชายไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งเปลี่ยนงานไปเรื่อย กระทั่งเมื่อครึ่งเดือนที่ผ่านมาทั้งคู่ได้เลิกรากัน โดยฝ่ายหญิงเล่าให้เพื่อนข้างร้านฟังว่าทนไม่ไหวที่ฝ่ายชายชอบทำร้ายร่างกาย แต่อีกฝ่ายยังพยายามตามมาง้อขอคืนดี ก่อนเกิดเหตุน.ส.เอกำลังเปิดร้านขายเสื้อตามปกติ ขณะที่นายบีมาดักขอปรับความเข้าใจอีกครั้ง แต่เกิดมีปากเสียงกันขึ้น ฝ่ายชายจึงชักอาวุธปืนที่พกมาจ่อยิงฝ่ายหญิงจนล้มฟุบจมกองเลือด ก่อนหันปืนกระบอกเดียวกันยิงเข้าอกตัวเอง เป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ เจ้าหน้าที่ต้องรอดูอาการผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ให้พ้นขีดอันตราย ก่อนจะสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน