พระพุทธรูปสุโขทัยโผล่ลอนดอน ชี้อาจถูกขโมยจากไทย หวั่นซ้ำรอยนารายณ์บรรทมสินธุ์
พระพุทธรูปสุโขทัยโผล่ลอนดอน ชี้อาจถูกขโมยจากไทย หวั่นซ้ำรอยนารายณ์บรรทมสินธุ์
หวั่นซ้ำรอย “นารายณ์บรรทมสินธุ์” ผู้เชี่ยวชาญผงะ เจอรูปแกะสลักอายุร่วม 700 ปี ตั้งอยู่ใน ม.ชื่อดังของลอนดอน ด้านเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยยอมรับ ไม่ทราบที่มาว่าถูกยกเค้ามาจากไทยหรือไม่ บัวแก้วรับทราบเรื่องแล้ว ขณะที่กรมศิลป์ฯ ระบุ พร้อมส่งทีมบินตรวจสอบ
วันที่ 11 มิ.ย. ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก แองเจลา ฉิว นักศึกษาวิชาศิลปะเอเชียในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยระบุว่า พบเห็นพระพุทธรูปแกะสลักองค์หนึ่งตั้งอยู่ในอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยบูรพศึกษาและการศึกษาแอฟริกา (School of Oriental and African Studies หรือ SOAS) เนื่องจากตนสนใจรูปแกะสลักโบราณ จึงตรวจสอบและพบว่า เป็นพระพุทธรูปอายุร่วม 700 ปี จากประเทศไทย หรือตรงกับช่วงสุโขทัย ทำให้ตนตกใจอย่างมาก เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ใดๆ เฝ้ารูปแกะสลักดังกล่าวเลย
“มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก” แองเจลากล่าวให้สัมภาษณ์กับข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ “ดูเหมือนว่าพระพุทธรูปองค์นี้ตั้งอยู่โดยที่ไม่มีใครแยแสเลย”
แองเจลาเล่าต่อว่า ตนได้ติดต่อสอบถามกับทางมหาวิทยาลัย SOAS และได้คำตอบว่า พระพุทธรูปโบราณดังกล่าวเป็นศิลปวัตถุที่ได้รับบริจาคจากสามีภรรยานักธุรกิจชาวอเมริกันคู่หนึ่ง โดยระบุว่า เป็นวัตถุโบราณที่ค้นพบในจังหวัดลพบุรี และพวกตนซื้อมาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว มูลค่าปัจจุบันเท่ากับ 60,000 ยูโร หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยยอมรับว่าผู้บริจาคไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันว่า ใครเป็นเจ้าของคนก่อนหน้า และรูปแกะสลักนี้ ออกมาจากประเทศไทยได้อย่างไร มีการนำออกอย่างถูกกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ กฎหมายสหราชอาณาจักรห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ ขาย หรือรับวัตถุโบราณจากประเทศใดๆ ที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย เช่น ปล้นหรือขโมยมาจากโบราณสถาน
“ฉันรู้สึกโกรธ เพราะ SOAS สมควรเป็นตัวอย่างที่ดีในจริยธรรมและมาตรฐานทางวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับสมบัติทางวัฒนธรรม” แองเจลากล่าว “มหาวิทยาลัยของเรา มีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ดังนั้น พวกเราควรให้ความเคารพอย่างสูงที่สุดต่อสมบัติทางวัฒนธรรมจากประเทศเหล่านี้ด้วย”
ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย SOAS ให้สัมภาษณ์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยได้ทำการตรวจสอบที่มาของพระพุทธรูปข้างต้นอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว และได้ตรวจสอบกับบัญชีสมบัติทางวัฒนธรรมทั่วโลกที่สูญหายด้วยอีกทางหนึ่ง
“ทางเราขอปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆที่ระบุว่า SOAS ดำเนินการกับการบริจาคครั้งนี้อย่างไม่เหมาะสม” เจ้าหน้าที่ SOAS เขียนตอบในอีเมล์
อย่างไรก็ตาม แองเจลากล่าวว่า ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้สถานทูตไทยในกรุงลอนดอนทราบแล้ว เพื่อที่จะได้ทำการตรวจสอบต่อไป
ด้านนางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่ายังไม่ได้รับรายงาน แต่จะรีบตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้
ขณะที่นายเมธาดล วิจักขณะ รองอธิบดีกรมศิลปากร ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อใดก็ตามที่ประเทศไทยได้ข่าวว่า พบเห็นโบราณวัตถุในต่างประเทศที่เชื่อว่าอาจถูกขโมยมาจากไทย ทางกรมศิลปากรจะเข้าไปทำการตรวจสอบที่มา หากยืนยันได้ว่า เป็นวัตถุโบราณที่ลักขโมยมาจากไทยจริง ก็จะดำเนินการส่งกลับประเทศไทย ดังเช่นที่เคยดำเนินการในกรณีครั้งก่อนๆ อย่าง ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์
สำหรับกรณีล่าสุดที่กรุงลอนดอนนี้ นายเมธาดลระบุว่า ต้องรอให้กระทรวงต่างประเทศพูดคุยกับรัฐบาลอังกฤษ ก่อนจะประสานมายังกระทรวงวัฒนธรรมและกรมศิลปากร ซึ่งทางกรมศิลปากรมีทีมผู้เชื่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ
ตัวอย่าง พระพุทธรูป ศิลปะสุโขทัย
“เราจะใช้ทั้งวิธีการทูตและข้อกฎหมายในการจัดการเรื่องนี้” นายเมธาดลกล่าว และเสริมว่า น่าจะใช้เวลาไม่นานในตรวจสอบ เพราะกรมศิลปากรมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุโบราณ
