“บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มอบหมายทนายความ เข้าแจ้งความพวกแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เผย แสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และ สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก กว่า100ล้าน!

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ที่สน.บางซื่อ นายสุขุม วงประสิทธิ เลขานุการ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสมพร มูสิกะ ทนาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฏฐนันท์ พันทองอ่อน รอง สว.สส.สน.บางซื่อ เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังพบบุคคลแอบอ้างเป็นที่ปรึกษา หรือคนสนิท รวมไปทั้งแอบอ้างเป็นภรรยานอกสมรส ของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ โดยอ้างชื่อมูลนิธิยงใจยุทธ เพื่อสร้างสันติภาพและการพัฒนา ไปแสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

“บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มอบหมายทนายความ เข้าแจ้งความพวกแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เผย แสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และ สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก กว่า100ล้าน!

“บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มอบหมายทนายความ เข้าแจ้งความพวกแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เผย แสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และ สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก กว่า100ล้าน!

นายสมพร กล่าวว่า เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลประมาณ 10 ราย ได้แอบอ้างชื่อของ พล.อ.ชวลิต และภรรยา (คุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ) รวมถึงมูลนิธิยงใจยุทธ เพื่อสร้างสันติภาพและการพัฒนา ที่มีมากถึง 142 สาขาทั่วประเทศ และนำไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิด ทำให้เกิดความเสียหายและเป็นการทำลายชื่อเสียงของ พล.อ.ชวลิต ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านได้ฝากตักเตือนไปยังบุคคลเหล่านั้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรมดังกล่าว และยังคงมีข่าวให้ทราบอยู่เนืองๆ ล่าสุดเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยวันนี้ทาง พล.อ.ชวลิต ได้มอบอำนาจให้ นายสุขุม วงประสิทธิ เลขานุการ และตนเดินทางมาที่สน.บางซื่อเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น และหากพบว่ายังมีบุคคลใดยังกระทำการในลักษณะดังกล่าวอยู่อีก จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

“บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มอบหมายทนายความ เข้าแจ้งความพวกแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เผย แสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และ สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก กว่า100ล้าน!

“บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” มอบหมายทนายความ เข้าแจ้งความพวกแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เผย แสวงหาผลประโยชน์ทำให้มีผู้หลงเชื่อ และ สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก กว่า100ล้าน!

นายสมพร กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวมีผู้ร่วมกระบวนการมากกว่า 10 ราย โดยจะอ้างว่าเป็นผู้ใกล้ชิดบ้างหรือเลขาส่วนตัวท่านบ้าง ซึ่งบางส่วนมีการนำไปแอบอ้างตามสถานที่ราชการหรือหน่วยงานรัฐฯ ในการวิ่งเต้นต่างๆ ซึ่งพบว่ามีมูลค่าความแล้วกว่า 100 ล้าน ซึ่งเชื่อว่าทำกันเป็นกระบวนการทั้งในและต่างประเทศ เหมือนเป็นการตั้งใจทำลายชื่อเสียงในทางการเมือง ขอยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดๆ ที่แอบอ้างชื่อหรือนำภาพถ่ายตามงานต่างๆ ที่มีการถ่ายภาพร่วมกับพล.อ.ชวลิต ไปแสดงเพื่อแอบอ้างและแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆนั้น ท่านพล.อ.ชวลิต ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ซึ่งหากใครได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ชวลิต จริงจะต้องมีเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือตราประทับของ พล.อ.ชวลิต เอง. หากผู้ใดพบการกระทำดังกล่าวสามารถแจ้งทางคณะทำงาน ท่าน พล.อ.ชวลิต ได้โดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทั้งคู่เดินทางเข้าแจ้งความนั้น ทางพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพด้านในห้องสอบสวน ซึ่งการแจ้งความในครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนทั้งคู่จะออกมาจากห้องสอบสวน

นายสมพร ทนายความ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้หากพบผู้ใดกระทำการดังกล่าวอยู่สามารถดำเนินคดีได้โดยทันที ซึ่งจะเป็นข้อหาอะไรนั้นขึ้นอยู่กับว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ หากเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงก็จะดำเนินคดีหมิ่นประมาท หากเป็นการนำไปแสวงหาผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินก็จะแจ้งดำเนินคดีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน