ทุจริตอาหารกลางวันเด็ก ยังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอยู่ในแวดวงการศึกษา หลังจากที่มีคลิปและภาพหลุดออกมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการบริโภคอาหารกลางวันของเด็ก ที่ไม่ได้รับโภชนาการที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน

ล่าสุดเฟซบุ๊ก Red Skull Phatthalung ได้เผยแพร่เรื่องโครงการ ทุจริตอาหารกลางวันเด็ก อีกครั้ง โดยหนนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยระบุข้อความว่า

รร.แห่งหนึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนการกุศล ได้รับเงินอุดหนุนรายหัวจากรัฐบาล 100% เด็กนักเรียนมีอยู่ 2,150 คน โรงเรียนจัดซื้อขนมเป็นของว่างเด็กทุกวัน โดยติดต่อทางร้านจัดซื้อในราคาชิ้นละ 3-4 บาทต่อวัน แต่ตอนจ่ายเงินค่าขนมให้ทางร้าน จนท.เอาบิลมาให้ทางร้านเซ็นค่าขนมชิ้นละ 5 บาท

ค่าขนมต่อวันที่ซื้อให้นักเรียน ตกชิ้นละ 3-4 บาทต่อวันเท่านั้น

“จริงๆเจ้าของร้านเป็นครูคนหนึ่งในโรงเรียนที่เปิดร้านขนมอยู่ พอเห็นบิลมาอย่างนั้นก็ทักท้วงไป แต่ทาง เจ้าหน้าที่จัดซื้อแจ้งว่า เป็นคำสั่งของ รองผอ. จะเอาส่วนต่างของเงินจัดซื้อ มาเป็นสวัสดิการโบนัสครู ครูเจ้าของร้านก็ยอมเซ็น เพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้บริหาร แต่บอกเจ้าหน้าที่ให้แจ้งทาง รองผอ. ว่าตัวเองจะเลิกส่งขนมให้ทางโรงเรียน เพราะการทำแบบนี้เท่ากับการโกงเงินค่าหัวเด็ก”

“ตั้งแต่นั้นครูเจ้าของร้านก็โดนเพ่งเล็งจาก รองผอ. ตลอด สุดท้ายพลาดจนโดนออกจากการเป็นครู มีความไม่โปร่งใสอีกเยอะแม้กระทั่งเรื่องอาหารกลางวัน เด็กกินขนมวันละ 1 ชิ้นต่อวัน ส่วนต่างค่าขนม 1-2 บาทต่อวัน เดือนนึงเท่าไหร่”

แต่ รองผอ. สั่งเบิกชิ้นละ 5 บาท แทน

ทั้งนี้เมื่อทีมข่าวลองคำนวณตัวเลขดังกล่าว ในกรณีที่มีการ ทุจริตอาหารกลางวัน จริง จากการที่ รอง ผอ. สั่งซื้อขนมชิ้นละ 3-4 บาท แต่สั่งเบิกที่ชิ้นละ 5 บาท

โดยคิดส่วนต่างของขนมที่ 1.60 บาท / ชิ้น คูณด้วย 2,150 (จำนวนนักเรียนภายในโรงเรียน) จะได้ค่าเฉลี่ยส่วนต่างตกวันละ 3,400 บาท

เมื่อนำตัวเลข 3,400 บาท มาคูณกับจำนวนวันในหนึ่งเดือน โดยตัดวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ทิ้งไป จะเฉลี่ยได้ 22 วันต่อ 1 เดือน โดยใช้ 3,400 บาท คูณ 22 วัน

รอง ผอ. จะได้งบประมาณค่าขนมส่วนต่างเป็นเงิน 74,800 บาท / เดือน

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน