ในหลวง ทรงเป็นห่วง กรณีนักฟุตบอลเด็กและผู้ฝึกสอน รวม 13 คน หายใน ถ้ำหลวง

(ถ้ำหลวง นาที หน่วยซีล ทั้งขุดทะลวง-ดำน้ำ สุดยากลำบาก ฝ่าฟัน-ใกล้ถึง13ชีวิต(คลิป))

ที่ อ.แม่สาย เชียงราย ขอให้ทุกคนปลอดภัย พร้อมให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญหายและเจ้าหน้าที่ ขอให้การค้นหาประสบความสำเร็จ ขณะที่หน่วยซีลจากสัตหีบ เดินทางไปถึงพร้อมลุยค้นหาทันที ระบุมีสัญญาณดี พบรอยเท้า คาดเดินลึกเข้าไปในถ้ำเพื่อหนีน้ำ เร่งค้นหา แต่มีอุปสรรคเพราะฝนตกตลอดทำให้น้ำสูงขึ้นและขุ่นเชี่ยว ฮ.บินพบปล่องถ้ำ โยนอาหารและเครื่องดื่ม หวัง ผู้รอดชีวิตจะพบ รองผวจ.เชียงรายประสานเครื่องสูบน้ำออก พ่อแม่เด็กเฝ้ารอระทึก จุดธูปบนบาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนท.เตือนระวังจุดใกล้ถ้ำทำให้อากาศหายใจน้อยลง

ก่อนหาย – ภาพหมู่ของโค้ชและนักเรียน-นักฟุตบอลทั้ง 13 คน ถ่ายร่วมกันที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ก่อนจะเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย แล้วติดอยู่ข้างในตั้งแต่ วันที่ 23 มิ.ย.

ส่ง”ซีล”ลุยถ้ำค้นหาเด็ก

จากกรณีนักฟุตบอลทีมหมูป่า ที่ประกอบด้วยเยาวชนอายุ 11-16 ปี 12 คน และผู้ฝึกสอนวัย 25 ปี ที่เดินทางไปเที่ยวภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง- ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หายตัวไปตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 23 มิ.ย. คาดว่าอาจจะติดอยู่ในถ้ำ เนื่องจากฝนตกจนน้ำใต้ดินดันขึ้นมาปิดทางเข้า-ออก และในถ้ำดังกล่าวมีลำธารไหลขนานไปตลอดความลึก ซึ่งคาดว่าจะลึกถึง 3 ก.ม. จนต้องระดมเจ้าหน้าที่และชุดนักประดาน้ำออกค้นหา ซึ่งพบเพียงรองเท้า และกระเป๋าอุปกรณ์กีฬา ตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 25 มิ.ย. พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.นสร.หรือหน่วยซีล เปิดเผยว่า รับคำสั่งจากพล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ.กร. ให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยซีล จาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปจ.เชียงราย เพื่อช่วยค้นหาทีมฟุตบอลเด็กพร้อมโค้ช รวม 13 คน จึงได้จัดกำลัง จากนสร. 17 นาย นำโดยน.อ.อนันต์ สุราวรรณ ผบ.กรมรบพิเศษที่ 1 ทหารเรือ พร้อมอุปกรณ์การค้นหา ขึ้นเครื่องบินของทางกองทัพเรือถึงจังหวัดเชียงราย เวลา 01.45 น. จากนั้นประชุมวางแผนกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพื่อกำหนดทิศทางและ วิธีการในการเข้าไปช่วยเหลือให้เร็วที่สุด

พล.ร.ต.อาภากร กล่าวว่า การค้นหาต้องเดินเท้าเข้าไปในถ้ำระยะทางประมาณ 3 ก.ม. พบแต่รองเท้าของเด็กๆ และร่องรอยสัญลักษณ์ที่ผนังถ้ำบางส่วน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปลึกกว่านั้น เพราะมีน้ำท่วมลึก โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ซึ่งต้องเตรียมความพร้อม แบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 4 ชุด ชุดแรกเป็นชุดที่เข้าพื้นที่สำรวจ ชุด 2-4 เป็นชุดสนับสนุน เนื่องจากในถ้ำไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ ยืนยันจะทำสุดกำลังความสามารถ ช่วยเหลือให้น้องๆ ทุกคนปลอดภัย

พ่อแม่บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขณะที่ผู้ปกครองของเด็กที่หาย ต่างมาเฝ้ารอกันอย่างมีความหวัง บางคนหันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยนำเครื่องเซ่นไหว้ไปไว้บริเวณปากทางเข้าถ้ำแล้วนั่งสวดมนต์และภาวนากันอยู่นานท่ามกลางสายฝนจำนวน 4-5 คนโดยไม่ยอมหลบฝนไปไหน

นางน้ำหอม บุญเปี่ยม มารดาของ ด.ช. มงคล บุญเปี่ยม อายุ 13 ปี ชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านป่าเหมือด ต.โป่งผา 1 ในผู้ที่หายไปในกลุ่มเด็กที่ร่วมนั่งภาวนาหน้าถ้ำดังกล่าว กล่าวว่า ปกติลูกชายชอบเล่นฟุตบอลอยู่แล้ว เล่นมาตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล โตขึ้นก็จับกลุ่มกับเพื่อนๆ เมื่อปีก่อนก็ไปเข้าทีมหมูป่าเพื่อแข่งขันกันภายในท้องถิ่น ตามปกติถ้าลูกไปไหนจะบอกก่อน แต่ครั้งนี้กลับไม่บอกโดยทราบเพียงว่าไปซ้อมฟุตบอลแล้วก็หายไปกระทั่งมาทราบว่าได้ไปกับกลุ่มเพื่อนๆ นักฟุตบอลแล้วเข้าไปในถ้ำดังกล่าว จึงใจคอไม่ค่อยดีและอยากให้ลูกปลอดภัยอย่างมาก จึงได้มาทำพิธีกรรมด้วยหวังว่าจะทำให้ลูกออกมาได้ดังกล่าว

นางทัดดาว สุธรรม อายุ 37 ปี แม่ของน้องโน้ต ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม เปิดเผยว่า ไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใว้หลายที่ และคุยกับพ่อแม่เด็กหลายคนว่า ถ้าช่วยเด็กออกมาได้จะให้บวชทันที 3 วัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมค้นหาคาดว่ากลุ่มเด็กๆ ติดอยู่ในจุดที่เป็นโพรง ที่มีน้ำกั้นทางเข้าลึกประมาณ 5 ม. แต่มีความกว้างจากปากถ้ำไปอีกฟากหนึ่งประมาณ 15 ม. ซึ่งนักสำรวจท้องถิ่น ระบุว่าเป็นเนินหินที่ใช้อยู่อาศัยได้หากน้ำขึ้น แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวและขุ่น รวมทั้งมีโขดหินขวางกั้นจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถเจาะทะลุอุโมงค์อีกฝั่ง แต่ยังไม่พบคณะนักฟุตบอลที่สูญหาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนกลับไปรอฟังข่าวจากสื่อ เพื่อลดความแออัด เนื่องจากมีคนหลั่งไหลมาติดตามข่าวนับพันคน

เจอรอยเท้า-ยันรอดชีวิต

เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ดำน้ำและเจาะทรายเข้าไปถึงโพรงถ้ำซึ่งอยู่ห่างจากปากถ้ำ 2-3 ก.ม. แต่ก็ยังไม่พบเด็ก พบเพียงรอยเท้าที่มีลักษณะเหมือนเด็กๆ พยายามตะกุยขึ้นคาดว่าเด็กๆ จะเดินหนีน้ำเข้าลึกไปอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแกะรอยติดตามตัวอย่างมีความหวัง

เวลา 11.30 น. พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผบ.มทบ.37 จ.เชียงราย กล่าวว่า คาดว่าทั้งหมดเดินเข้าไปลึก ประกอบกับเกิดฝนตก ทำให้น้ำท่วมปิดทางเข้าออก ช่วงแรกทางเจ้าหน้าที่ใช้ชุดทีมประดาน้ำของกู้ภัยเข้าไปค้นหาแต่ไม่ชำนาญ และมีน้ำขุ่น จึงให้ทีมซีล เข้ามาเสริม ขณะนี้มีการตั้งกองอำนวยการร่วม โดยมีทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการทำงาน ประกอบด้วย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล รส.) จ.เชียงราย กกล.รส.มทบ 37 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย และมูลนิธิหน่วยกู้ภัยต่างๆ สันนิษฐานว่าเด็กๆ รู้วิธีเอาตัวรอดจากน้ำท่วมได้ เพราะมีบางคนเคยเข้าไปเที่ยวในถ้ำ และมีประสบการณ์การเอาตัวรอดจากน้ำท่วม ซึ่งถ้ำหลวงฯ มีความยาว 7 ก.ม. ภายในมีเนินคล้ายสันดอนที่สูงกว่าระดับน้ำในถ้ำ

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามดำน้ำเอาดินโคลนออก เพื่อเปิดปากถ้ำให้กว้าง นอกจากนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งขึ้นไปบนภูเขา เพื่ออุดน้ำที่จะไหลมาเติมภายในถ้ำด้วย แต่ฝนก็ยังตกต่อเนื่องบนเทือกเขารอยต่อระหว่างไทย-เมียนมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พยายามดูแลคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติงาน และอยากขอความร่วมมืองดจุดธูปเทียนใกล้พื้นที่บริเวณปากถ้ำ เพราะจะทำให้เกิดควันลอยเข้าไปในถ้ำส่งผลให้อากาศ หรือออกซิเจนในถ้ำน้อยลง ซึ่งตอนนี้ได้นำเครื่องเติมอากาศของปภ. เข้าไปในถ้ำ เพื่อเติมอากาศให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใน และยังจัดตั้งหน่วยแพทย์ โดยความร่วมมือระหว่าง ร.พ.เชียงราย กับร.พ.ค่ายเม็งรายมหาราช นอกจากนี้ ทาง มทบ.37 ยังจัดชุดครัวสนาม สำหรับประกอบอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่ รวมถึงวางระบบการสื่อสารทางทหาร เนื่องจากในพื้นที่จะติดต่อลำบาก” พล.ต. บัญชากล่าว

ฮ.เจอปล่องถ้ำ-ส่งอาหารให้

เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยซีลเริ่มสับกำลังส่งชุดที่ 2 เข้าไปค้นหา โดยมีรายงานว่า จุดที่หน่วยซีลดำผ่านโพรงน้ำที่ลึกประมาณ 5 เมตร และกว้างประมาณ 15 เมตรไปยังอีกฝั่งหนึ่งของโพรงซึ่งคาดว่าเด็กๆ จะใช้หลบน้ำจนสำเร็จแต่ไม่พบเด็กๆ แต่พบรอยเท้าขึ้นไปตามช่องทางถ้ำที่มีลำธารไหลขนานกันมา ทำให้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ากลุ่มเด็กๆ และโค้ชได้เดินไปทางนั้นเพราะไม่สามารถกลับออกมาทางเดิมได้ โดยทางดังกล่าวมีระยะทางไกลประมาณ 7 ก.ม. และคนท้องถิ่นระบุว่าเป็นทางตันโดยปลายทางเป็นหน้าผา โขดหิน และป่าไม้หนาทึบ แต่คาดว่าผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำตัดสินใจเดินตามเสียงน้ำที่ไหลเพื่อหวังจะพบปลายทางแทนการออกทางเดิม

ต่อมาเจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปสำรวจด้านบนเทือกเขาดอยนางนอน เพื่อหาช่องทางสูบน้ำออกจากโพรงบางจุดหรือหย่อนอาหาร น้ำดื่ม ลงไปได้ รวมถึงหาปลายทางของถ้ำระยะทางประมาณ 7 ก.ม. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและอากาศปิดรวมทั้งสภาพภูมิประเทศเป็นหุบเขาทั่วบริเวณทำให้ไม่สามารถปฏิบัติการได้โดยสะดวก และใช้การส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยซีลเข้าไปทางเดิม โดยนำอาหารและน้ำเข้าไปด้วยต่อไป

ช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่หน่วยซีลยังคงเดินหน้าค้นหา แต่ยังไม่พบตัวเด็ก โดยเจอร่องรอยที่เชื่อว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องจากในถ้ำยังมีน้ำท่วมเป็นช่วงๆ บางจุดถึงมิดหัว จึงเป็นเรื่องยากหากพบตัวทั้ง 13 ชีวิตแล้วจะช่วยพาออกมาได้อย่างง่ายดาย เบื้องต้นจึงประสานไปยังกรมชลประทาน ดูความเป็นไปได้ในการสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อช่วยทั้ง 13 ชีวิตออกมา

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริเวณเหนือถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มีปล่องที่ทะลุออกมานอกถ้ำได้ จึงใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจบริเวณเหนือถ้ำ ก่อนเจอปล่องตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน โดยปล่องดังกล่าวมีระยะห่างจากโถงจุดแรกภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ประมาณ 800 เมตร แต่ภายในถ้ำจะมีเส้นทางที่คดเคี้ยวและระยะทางที่ยาวกว่านั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่จึงโยนอาหารและขนมลงไปในปล่องดังกล่าว พร้อมกระดาษที่เขียนข้อความว่า ถ้าเจอขนมให้หยุดรอหน่วยซีล กำลังเดินไปตามหาทาง 7 ก.ม. นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมสำรวจเส้นทางของปล่องที่อยู่เหนือถ้ำด้วย

ตั้งศูนย์ช่วยชีวิตในถ้ำ

เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว นายภาสกร บุญลักษม์ รองผวจ.เชียงราย ผบ. เหตุการณ์ แถลงผลการปฏิบัติการว่า เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ อำนวยความสะดวกด้านการค้นหาอย่างเต็มที่และสถานการณ์ล่าสุดคือเรายังคงต้องแข่งกับเวลา โดยทางจากกรมรบพิเศษที่ 1 ทหารเรือ หรือหน่วยซีลของทหารเรือได้เดินทางเข้าไปในถ้ำเป็นระยะทางประมาณ 3 ก.ม. แล้วดำน้ำจนผ่านโพรงกว้างที่อยู่ภายในได้แล้ว จากนั้นสำรวจภูมิประเทศนาน 30 นาที และส่งชุดสนับสนุนที่ 2 เข้าต่อไป ทั้งนี้ การเข้าไปถึงจุดดังกล่าวไม่ราบเรียบ มีโขดหิน สูงต่ำและต้องผ่านน้ำ ทางศูนย์จึงจัดเครื่องสูบน้ำสนับสนุน 4 เครื่อง

นายภาสกรกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ระดับน้ำภายในสูงขึ้นเพราะฝนตกลงมา ซึ่งทำให้กังวลเพราะการต้องเข้าไปจะยิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ถังออกซิเจนและใช้ความสามารถ ซึ่งหากว่าทีมค้นหาสามารถเจอผู้ประสบเหตุก็คงต้องเอาคนแข็งแรงออกมาก่อน แล้วจะตั้งกองบังคับการภายในถ้ำเพื่อช่วยเหลือเรื่องการดำรงชีพของคนภายใน ส่งอาหาร น้ำดื่ม ฯลฯ แล้วนำตัวออกมาให้เร็วที่สุดต่อไป ทั้งนี้ ก็กำลังรอความหวังว่าจะพบเจอคนแรกก่อนเพื่อจะได้เร่งให้การสนับสนุนช่วยเหลือต่อไป

นายภาสกรกล่าวอีกว่า เชื่อว่าเด็กๆ เข้าไปอยู่บริเวณสามแยก พบรอยมือ รอยเท้าที่บ่งชี้ว่ามีการเดินเข้าไปภายใน และจากการสอบถามนักสำรวจชาวต่างชาติและคนท้องถิ่นที่เคยเข้าไปก็ระบุว่าเป็นทางตันที่ไม่มีทางออกโดยมีระยะทางเข้าไปประมาณ 7 ก.ม. ดังนั้นก็คาดการณ์ว่าจากระยะเวลาค้นหาทำให้หน่วยซีลและเด็กๆ น่าจะอยู่ห่างกันออกไปประมาณ 2 ก.ม. แต่เป็นระยะทางภายในถ้ำที่ไม่เหมือนพื้นที่ราบภายนอก ตามเส้นทางก็มีทั้งพื้นหินดินขึ้นลงและน้ำ อย่างไรก็ตาม ยังคงมั่นใจว่าคนที่เข้าไปโดยเฉพาะเด็กๆ ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเป็นนักกีฬาและมีทักษะอยู่แล้ว

ส่วนปล่องที่พบด้านเหนืออุทยานฯนั้นอาจเป็น จุดที่เด็กๆ เดินผ่านไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะหาวิธีการเพื่อใช้ช่วยเหลือเด็กๆ กรณีพบว่าผ่านจุดนั้นต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันเจ้าหน้าที่ยังคงส่งชุดค้นหาเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

น้ำขึ้นสูง-ซีลยุติค้นหา

เมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดซีลที่เข้าไปค้นหาภายในถ้ำต้องถอนตัวออกมาทั้งหมด เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำภายในโพรงที่เป็นจุดทางเข้าเกิดเพิ่มระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมีทรายจากต้นน้ำไหลปะปนเข้ามาด้วย ทั้งนี้หากน้ำลดจะเข้าค้นหาต่อทันที แต่หากน้ำไม่ลด ก็จะเริ่มปฏิบัติการค้นหาอีกครั้งเวลา 05.00 น.ของวันที่ 26 มิ.ย.

ล่าสุดนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย เดินทางมารับฟังการสรุปการค้นหา พร้อมสั่งปรับแผนการปฏิบัติ ทั้งนี้ก่อนเข้าประชุมได้พบปะญาติของเด็กที่สูญหาย พร้อมระบุว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วง และให้กำลังใจขอให้ทุกคนปลอดภัย

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า เป็นสัญญาณดี ที่พบรอยมือ รอยเท้าของเด็กที่หายไป ต่อจากนี้จัดตชด. ร่วมกับป่าไม้ และฝ่ายปกครอง เข้าลาดตระเวนทางบก เพื่อหาช่องทางอื่นเข้าไปในถ้ำดังกล่าวนอกจากช่องทางปกติ และใช้เฮลิคอปเตอร์ตรวจสอบอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่วนอุทยานฯ สำรวจพบว่าปล่องดังกล่าวไม่ทะลุเข้าไปในถ้ำ เนื่องจากพบว่ามีดินถล่มมาปิด ทำให้ต้องหาทางอื่นเพื่อเข้าไปในถ้ำดังกล่าว ซึ่งอาจจะต้องใช้การเจาะทะลุเข้าไปให้ได้

เผยในหลวงทรงเป็นห่วง

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ทางราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แจ้งว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเด็กและโค้ชฟุตบอล จำนวน 13 ราย ที่ยังติดอยู่ในภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมทั้งทรงห่วงใยกลุ่มผู้ประสบภัยทุกคน และทรงให้กำลังใจไปยังครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคน ขอให้ทุกคนปลอดภัย รวมถึงทรงให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามค้นหาขอให้ประสบความสำเร็จ

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงการช่วยเหลือว่า สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ทราบมาว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการที่จะนำความช่วยเหลือเข้าไป เช่น อาหาร ชุดปฐมพยาบาล ซึ่งตนได้ให้คำแนะนำไปยังผู้ปฏิบัติในพื้นที่ การเข้าไปช่วยเหลือต้องระมัดระวังเรื่องของอากาศภายในกับฝนที่ตกลงมาเพิ่ม อาจทำให้ระดับน้ำภายในถ้ำสูงขึ้น เชื่อว่าทุกคนน่าจะปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ก็ทุ่มเทกันเต็มที่ และมีมาตรการในการประสานติดต่อช่วยเหลือ

ขณะที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ข้อความทางอินสตาแกรม ประทานกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ระบุว่า “ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดถ้ำ ขอให้พระคุ้มครองทั้งคนช่วยและคนถูกช่วย”

นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ถ้ำหลวง มีทางเข้าออกหลักเพียงทางเดียว อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพียง 500 ม. ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเข้าถ้ำ จะต้องมาสอบถามข้อมูลการเที่ยวที่ถูกต้องจาก เจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อรับคำแนะนำการเดินถ้ำ ช่วงเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งจัดคน อุปกรณ์ ไฟฉายนำทางให้ หากเป็นช่วงฤดูฝน จะห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินถ้ำอยู่แล้ว เนื่องจากน้ำจะไหลเข้ามาท่วมภายในถ้ำ

สำหรับวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มีลักษณะเป็นถ้ำหินปูน มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น ถ้ำหลวง ถ้ำพระ ถ้ำพญานาค ถ้ำเลียงผา และขุนน้ำนางนอน โดยสถานที่ที่นักท่องเที่ยวแนวผจญภัยชื่นชอบ คือถ้ำหลวง ซึ่งมีหินงอก-หินย้อย ที่สามารถมองเห็นเกล็ดหินสะท้อนแสงงดงามตามธรรมชาติ ปากทางเข้าถ้ำสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 433 เมตร แนวโถงถ้ำมีโถงหลักเพียงโถงเดียว แต่เส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเดินเข้าถึงได้ง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ จนถึงเส้นทางเดินลำบาก มีความยาวรวม 759.76 ม. และโถงแยกฝั่งตรงข้ามทางเดินเข้าถ้ำ มีความยาว 68.27 ม.

การเดินทางภายในถ้ำค่อนข้างลำบาก บริเวณโถงถ้ำแรกที่เปิดกว้างระดับพื้นดินต่ำกว่าปากถ้ำมากเนื่องจากเป็นร่องทางน้ำที่ไหลออกจากถ้ำ โดยมีร่องน้ำผ่านระหว่างโถงที่ 1 และทางขวามือของร่องน้ำจะเป็นโนนดินที่สูงขึ้น มีร่องรอยหลุมยุบ และเป็นโถงที่ 2 ต่อจากโถงที่ 1 มีร่องรอยหินถล่มด้านซ้ายมือ เมื่อสิ้นสุดบันไดจากบริเวณปากถ้ำ เป็นทางเดินดินสั้นๆ ต่อจากนั้นเป็นขั้นบันไดที่เทด้วยปูนซีเมนต์จำนวน 5-6 ขั้น ยกระดับขึ้นทอดเข้าสู่ความยาวของตัวถ้ำ โดยที่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะท่วมภายในถ้ำ และบริเวณร่องน้ำโถงที่ 1

ค่ายมือถือเชื่อมสัญญาณ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. ระบุว่า ประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อน ที่ 5 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ให้เข้าไปในพื้นที่ เพื่อหันเสาสัญญาณไปทางปากถ้ำ และขยายช่องสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งขณะนี้ทุกรายขยายช่องสัญญาณให้สามารถรับโทรศัพท์ได้เร็วและกว้างขึ้น เพื่อให้สามารถใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่บริเวณปากถ้ำ และบริเวณพื้นที่โดยรอบได้

นอกจากนั้น แคท ลากสาย Drop Wire จากปากถ้ำเข้าไปในถ้ำประมาณ 1,300 เมตร เพื่อให้สามารถใช้โทรศัพท์ประจำที่ในการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่หน่วยซีลที่เข้าไปในถ้ำเพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือได้ และร่วมกับหน่วยงานอื่นตั้งศูนย์อำนวยการบริเวณปากถ้ำ พร้อมทั้งนำวิทยุสื่อสารเข้าไปใช้ในการติดต่อประสานงาน รวมถึงการสนับสนุนจัดหาอุปกรณ์วิทยุสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่ และประสานงานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย ในการดำเนินการช่วยเหลือเด็กและโค้ชที่ติดอยู่ภายในถ้ำด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน