‘ศรีวราห์’ จัดแพทย์เช็กประวัติ 13 ชีวิต พบ 3 คนมีโรคประจำตัว ห่วงภัยมืด-ความหนาวเย็น เตรียมพร้อมแผนรักษาหลังออกจากถ้ำ

ถ้ำหลวง – วันที่ 28 มิ.ย. บริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ได้ปิดช่องทางที่จะให้บุคคลภายนอกเดินเข้าไปตรงโพรงปากทางเข้าถ้ำมากกว่าเดิม โดยยกเว้นให้เฉพาะ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ขณะที่การสูบน้ำและค้นหาโดยหน่วยซีลภายในถ้ำ รวมทั้งการหาปล่องเพิ่มเติมยังคงดำเนินไปตลอดทั้งวัน

• เปิดภาพจริงหาดพัทยา! เจอเนินสูง 13 ชีวิตใช้หนีน้ำ ตร.ใช้วิเคราะห์-วางแผนช่วย
• ปฏิบัติการเจาะถ้ำหลวง ช่วย13ชีวิต หลังน้ำทะลักทุกโถง ผู้เชี่ยวชาญไทย-ฝรั่งชะงัก(คลิป)
• เปิดใจชายผู้รอดตายจาก “ถ้ำหลวง” คาดจุดที่ 13 ชีวิตอยู่ ชี้ไร้ปล่อง มีแต่ความมืด
• สรุปสถานการณ์ผ่าน 100 ช.ม. ระดมช่วย 13 ชีวิตในถ้ำหลวง

ด้านที่เต็นท์ของพ่อแม่ผู้ปกครองยังคงมี เจ้าหน้าที่สธ. และพัฒนาสังคมฯ คอยดูแล โดยเฉพาะแม่ของเด็กๆ เพราะหลังผ่านมา 5 วัน ทำให้หลายคนมีอาการอิดโรย รวมทั้งบางคนป่วยด้วยโรคหวัด ขณะที่มีพระภิกษุแวะเวียนไปเทศนาธรรมและนำสวดมนต์ทำให้ผ่อนคลายลงได้บ้าง

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้นำคณะแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ไปตรวจเยี่ยมญาติๆ ของเด็กๆ และตรวจประวัติผู้ป่วยของเด็กๆ เบื้องต้นจากพ่อแม่โดยตรง ซึ่งพบว่า มีเด็กที่มีประวัติอาการหืดหอบจำนวน 2 คน และอาการทางเลือดที่แพ้ยาบางชนิด จึงได้บันทึกข้อมูลประวัติเอาไว้ และแจ้งญาติถึงการช่วยเหลือในอนาคตต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทางรัฐบาลและตำรวจมีความห่วงใย และสั่งการให้สนับสนุนการช่วยเหลือครั้งนี้อย่างเต็มที่ จึงได้นำคณะแพทย์มาช่วย นอกเหนือจากกำลังพล ซึ่งหากว่าญาติ ต้องการแจ้งอาการประวัติผู้ป่วยบุตรหลานหรืออื่นๆ สามารถแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพต่อไป

ด้านพล.ต.ต.ธนา ธุระเจน รอง ผอ.รพ.ตำรวจ กล่าวว่าทาง รพ.ตำรวจ เป็นหน่วยสนับสนุน หากทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่มี ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานแจ้งมา ก็พร้อมเข้าไปทันที โดยได้เตรียมแพทย์และ เจ้าหน้าที่ไว้ เป็นแพทย์ 6 นาย เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ รถพยาบาล 4 คัน ทีมแพทย์ 4 ชุด

พล.ต.ต.ธนา กล่าวว่า ตามหลักทั่วไปแล้ว การที่มีผู้เข้าไปอยู่ในถ้ำ และขาดอาหาร 6 วัน หากเป็นเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งมีสภาพร่างกายแข็งแรง เพราะเป็นนักกีฬาสามารถอยู่ได้ แต่สิ่งที่กังวล คือ เรื่องสายตาที่อยู่ในความมืดและในสภาวะอากาศเย็น เราจึงต้องเตรียมการรองรับดังกล่าว

“ตามหลักความรู้ทั่วไปในการช่วยเหลือแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ภาวะวิกฤติ และวิกฤติในเด็ก สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ เด็กมีประวัติป่วย 3 คนดังกล่าว และเมื่อออกมา อาจมีอาการทางสายตา เพราะอยู่ในที่มืดเกิน 3-4 วัน ทาง เจ้าหน้าที่จึงเตรียมแว่นกันแดดและไอแพตรองรับการรักษาไว้แล้ว ส่วนภาวะอุณหภูมิต่ำก็เตรียมผ้าห่มไว้เช่นกัน” รอง ผอ.รพ.ตำรวจกล่าว

พล.ต.ต.ธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากเด็กบางคนมีอายุต่ำกว่า 13 ปี จึงได้เตรียมท่อหายใจแบบพิเศษรองรับ ซึ่งตนคิดว่าทางศูนย์ และรพ.ในพื้นที่ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เนื่องจากรพ.ตำรวจ เป็นส่วนสนับสนุน จึงรอผลการช่วยเหลือที่มี 2 ด้าน คือ ด้านปากถ้ำ และหากเป็นทางปล่องด้านบนทางรอง ผบ.ตร. ก็จัดเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำรอบินไปสนับสนุนแล้ว

ขณะที่นายอ้าย บุญธรรม อายุ 60 ปี ลุงของ ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุข อายุ 14 ปี หนึ่งในเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำ กล่าวว่า ตามปกติหลานชายของตนมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง จึงเชื่อมั่นว่า เขาสามารถอยู่ได้จนกว่า เจ้าหน้าที่จะเข้าไปพาตัวออกมาได้อย่างแน่นอน