‘ประยุทธ์’ แนะญาติ13ชีวิตติดถ้ำหลวง ฝึกสมาธิคลายเครียด – สัญญาถ้ารอดจากถ้ำ จะพาเด็กๆไปเที่ยวพัทยา!
ประยุทธ์ ถ้ำหลวง / เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่กำลังทำงานช่วยเหลือเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหรือโค้ชทีมฟุตบอลทีมหมูป่า อคาเดมี ที่ยังอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ทั้งหมดเข้าไปเที่ยวในถ่ำแล้วเกิดน้ำท่วมปากถ้ำแล้วออกมาไม่ได้แล้วหายไปตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานป็นจุดแรก จากนั้นเข้าเยี่ยมหน่วยกู้ภัย และ กฟภ. จากนั้นลงไปตรวจสอบหน้าปากถ่ำ และตามด้วยเข้าไปเยี่ยมเต็นท์ที่พักของญาติโค้ชทีมฟุตบอลทีมหมูป่า อคาเดมีที่ติดในถ้ำ โดยให้กำลังใจว่า ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วง ทรงติดตามข่าว และทรงแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ บุตรหลานของพี่น้องทุกคนก็เหมือนกับบุตรหลานของตน ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองเด็กทุกท่านเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนี้
และขอดูแลสุขภาพและฝึกสมาธิ โดยได้กล่าวกับพ่อแม่ผู้ปกครองว่าหากมีความทุกข์ใจ ให้นั่งสมาธิคือให้นับ 468 หายใจเข้านับ 4 และนับ 6 หายใจออกให้นับ 8 เท่านี้จะทำให้จิตใจดีขึ้น และย้ำขออย่าไปซื้อเลขหวยตามเลขที่ตนบอก คือ 468 ที่ฝ่ายมาเห็นทะเบียนรถตนก็เอาไปซื้อหวย นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้ปกครองเด็กๆอีกว่า ตอนนี้หากเด็กๆได้ออกมาสัญญาว่าจะพาไปเที่ยวพัทยาของจริง ตามความเข้าใจที่ว่าเด็กน่าจะติดอยู่ที่หาดพัทยาในถ้ำหลวงแห่งนี้
นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวในเวลาต่อมาว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ถ้ำหลวงแห่งนี้ พอใจการทำงานบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ ของคณะทำงานที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้บัญชาการกองบัญชาการ โดยขอให้มีการจัดระเบียบ ระบบให้ได้ตามมาตรฐานสากลในการช่วยเหลือเมื่อประสบภัยเนื่องจากทั่วโลกติดตามข่าวนี้อยู่สำหรับการช่วยเหลือคือได้ระบายน้ำออก หน่วยซีลจะเข้าไปได้ลึกขึ้น เพื่อช่วยชีวิตเด็กได้เร็วขึ้น ขณะที่บนสันเขาดอยผาหมี ทหารได้ลาดตระเวนจนเต็มพื้นที่สำรวจหมดแล้ว และได้หารือกับทางการเมียนมา กรณีที่อาจจะมีสิ่งของหรือวัตถุไหลลงไปตามลำน้ำสาย ขอให้ทางการเมียนมา ช่วยดูให้ ซึ่งทางการเมียนมา รับที่จะดำเนินการให้นอกจากนี้ ยังมีนานาประเทศ เช่น ลาว อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศที่ยื่นความจำนงพร้อมที่จะส่งคนเข้ามาช่วยเหลือ มีการวางแผนร่วม ประชุมปรับแผนทุกระยะ
