“โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา” แจ้งความ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” หมิ่นประมาท กรณีตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังกลับมาจากถ้ำหลวง เรื่องคนล่าชื่อถอดถอน และกล่าวพาดพิงและบิดเบือนข้อเท็จจริง

– แจ้งความศรีวราห์-บิดเบือน / 5 มิ.ย. 2561 ที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท นางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” ครูและนักกิจกรรมเพื่อสังคม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เดินทางพร้อม นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ทนายความ เข้าแจ้งความกล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน

จากเหตุที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กรณีที่มีเฟสบุ๊คโพสต์ล่ารายชื่อให้ถอดถอน โดยระบุตอนหนึ่งว่าเพจที่มีการทำภาพโจมตีพร้อมคำพูดว่า ตนจะเอาตัวเด็กๆเข้าคุกนั้น มีที่มาจากเขมร และ มีการพาดพิงหลายครั้ง ว่ากลุ่มคนที่ทำได้แก่ พวกโกตี๋ กลุ่มคนที่มาเรียกร้องอ่านประกาศหน้ายูเอ็น และพวกที่โดนยึดตึก100ปี

อ่านข่าวและฟังคลิป ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ แถลงข่าวเต็มๆได้ที่นี่

โดยนางสาวณัฏฐา กล่าวว่าเป็นที่ชัดเจนสำหรับคนทั่วไปที่ได้ชมคลิปการแถลงข่าว ว่า “กลุ่มคนที่มาเรียกร้องหรืออ่านประกาศหน้ายูเอ็น” นั้น น่าจะหมายถึงตน และ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในการชุมนุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งตนได้ยืนอ่านประกาศต่อหน้า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ที่ยืนดูอยู่ ก่อนมอบตัวขึ้นรถ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกนำตัวมาควบคุมไว้ถึงสองคืน ที่ห้องขัง สน.พญาไท

โดย น.ส.ณัฏฐา กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่คนระดับรองผบ.ตร. สามารถจะพูดจาให้ร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีมูล และเป็นการพูดออกสื่อทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ตนและพวกเกิดความเสียหาย แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน เพราะการพูดความจริงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของคนที่มีความซื่อสัตย์ และหากคนที่ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความสำคัญกับคุณสมบัตินี้ ก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าประชาชนจะหาความเป็นธรรมได้จากใคร

นอกจากนี้น.ส.ณัฏฐา ระบุว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามเชื่อมโยงและให้ข่าวบิดเบือนให้สังคมเข้าใจว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีความเชื่อมโยงกับเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ต่างๆนานา ซึ่งตนมองว่าเป็นการให้ร้ายคนทั้งสองกลุ่มโดยไม่มีมูล แล้วครั้งนี้ยังมีการทำซ้ำอีก จึงน่าตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมาและในอนาคต จะมีคำพูดใดของรองผบ.ตร.ที่เชื่อถือได้บ้าง

“การมาแจ้งความครั้งนี้จึงถือเป็นการยืนยันความสำคัญของการใส่ใจกับข้อเท็จจริง และการสื่อสารที่สร้างสรรค์ สังคมต้องช่วยกันส่งเสริมวัฒนธรรมนี้ เราได้เห็นแล้วว่าการสร้างข่าวเท็จต่างๆแพร่ขยายได้เร็วและสร้างความเสียหายได้มากเพียงใด หากไม่ช่วยกันยับยั้ง เมืองไทยก็จะกลายเป็นสังคมอุดมมโน ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าทางความคิด” น.ส.ณัฏฐา กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน