น้องพลอย – ศาลจ.สระบุรี นัดฟังคำพิพากษาในคดีฆาตกรรมโหด อดีต ส.อ.พลกฤต วิเศษ หรือ (เอส) ที่เป็นจำเลยก่อเหตุฆาตกรรมน้องพลอย พบศพถูกเผานั่งยางในพื้นที่ จ.สระบุรี หลังหญิงสาวหายตัวไป 3 ปี จนกลายเป็นคดีดังใหญ่โตเมื่อปีที่ผ่านมา
เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจาก 3 ปีที่แล้ว ส.อ.พลกฤต ซึ่งเป็นอดีตแฟนหนุ่มของ น.ส.พลอยนรินทร์ ปั้นทอง หรือ “น้องพลอย” ได้พาตัวน้องพลอยหายไปเป็นเวลากว่า 3 ปี จนไม่สามารถติดต่อได้ จน นางพัชรี ปั้นทอง มารดาชของน้องพลอย ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ร้องเรียนไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยคลี่คลายคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ สามารถเจอตัว ส.อ.พลกฤต ในที่สุด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ได้ฆ่าน้องพลอย ก่อนนำร่าง ไปเผาทำลายหลักฐานริมถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เป็นการทำลายหลักฐานก่อนหลบหนีไป ด้วยการศัลยกรรมใบหน้า ย้ายไปอยู่กับภรรยาใหม่ในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราขสีมา
ภาพน้องพลอย กับ คุณแม่ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน
ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ค.) ศาลชั้นต้น จ.สระบุรี นัดฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าว ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาว่า คดีดังกล่าว เป็นคดีเจตนาฆ่า ตัดสินลงโทษให้จำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 33 ปี 11 เดือน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทย์อีกเป็นเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท
นางพัชรี มารดาน้องพลอย เผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า “แม่ยอมรับในคำตัดสินของศาลนะกับโทษ แต่แม่ตั้งคำถามว่า 33 ปีเนี่ย จะมีลดอีกหรือไม่ ในมุมของแม่ แม่คิดว่าเขาสมควรได้รับโทษสูงสุดมากกว่า ถ้าไม่จำคุกตลอดชีวิต ก็ ประหารชีวิตไปเลย”
“จากนี้ยังเหลืออีก 2 ศาล แม่คงเดินหน้ายื่นอุทธรณ์กับอัยการต่อไป เพราะแม่ไม่รู้ว่าโทษจำคุกตลอดชีวิตเนี่ยมันมีจริงหรือเปล่า แม่อยากให้เขารับโทษหนักกว่านี้ เพราะขนาดเรื่องที่เกิดขึ้นทางครอบครัวเขายังไม่มีแม้แต่คำขอโทษอะไรกับทางแม่เลย”
แม่ยันขออุทธรณ์สู้คดีต่อ ในศาลชั้นถัดไป
ขณะที่เพื่อนสนิทน้องพลอย (ไม่ขอเปิดเผยนาม) เผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า “คิดว่าโทษที่เขาได้รับมันน้อยเกินไป ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำมันแรงมาก 3 ปีผ่านไป เพิ่งจะมารับสารภาพ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มาตลอด”
“ตนคิดว่าแบบนี้ไง ถึงได้มีคดีฆ่าคนตายเป็นว่าเล่น นึกอยากจะฆ่าใครก็ได้ ไม่กลัวความผิด เพราะคิดว่าติดไม่กี่ปีก็ได้ออก แล้วคนดีๆก็ต้องมาตายแล้วเรื่องก็เงียบไปแบบที่เรียกร้องอะไรไม่ได้เลย กลุ่มเพื่อนตนคนอื่นก็มีความเห็นไปในทางเดียวกัน คือ โทษไม่ประหาร ก็ติดคุกตลอดชีวิตไม่มีการลดหย่อนโทษใดๆ”
