สยอง! ฆ่าหั่นศพหนุ่มใหญ่ อุดรฯ ขณะนอนเฝ้าไร่อ้อย คนร้ายลงมือโหดตัดชิ้นส่วนเป็น 6 ชิ้น ท่อนหัวและตัว ใส่ ถุงปุ๋ย ส่วนแขนขาพบถูกทิ้งในถังพลาสติก ตร.ห้วยหลวง อุดรธานี รุดตรวจสอบ พบรถจักรยานสีแดง คาดเป็นของคนร้ายทิ้งอยู่ มุ่งปมมรดกเลือด พบภรรยากับลูกชายที่ทำงานอยู่เมืองนอก ส่งเสียเงินทองมาให้ใช้หนี้ และดูแลพ่อตา ล่าสุดภรรยาเพิ่งได้รับมรดกที่นา 50 ไร่ จากพ่อตา สร้างความไม่พอใจให้ญาติๆ คนอื่น เพราะได้มากกว่า คาดเป็นคนใกล้ตัวลงมือโหด ก่อนเตรียมนำชิ้นส่วนศพไปทิ้ง แต่มีชาวบ้านมาเห็น เลยขี่จยย.ของผู้ตายหนีไป เร่งตรวจกล้องวงจรปิดล่าตัวคนร้ายต่อไป

เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.ท.พิทักษ์ วาปีทะ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุฆ่าหั่นศพ ที่กระท่อมเฝ้าไร่อ้อย ท้ายหมู่บ้านโนนสวรรค์ ถนนโนนสวรรค์-โคกสะอาด ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.สมโภชน์ ประจิตร รอง ผกก.สส.ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้า สภ. ห้วยหลวง เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์นิติเวช และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุพบ เป็นกระท่อมทำด้วยไม้ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างจากหมู่บ้านราว 1 ก.ม. มีชาวบ้านประมาณ 100 คน มุงดูอยู่ ในครัวพบชิ้นส่วนศพนายปัญญา ทองศรี อายุ 50 ปี อยู่ หมู่ 4 บ้านหนองฮาง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกหั่นแยกเป็น 6 ชิ้นโดยท่อนแขนถูกตัดจากหัวไหล่ ส่วนท่อนขาถูกตัดตั้งแต่หัวเข่า ก่อนนำไปใส่ไว้ในถังน้ำสีน้ำเงินวางอยู่ใต้ถุนกระท่อม ขณะที่ส่วนศีรษะและลำตัวอยู่ในถุงปุ๋ยข้างๆกัน

ในที่เกิดเหตุ ยังพบถุงพลาสติกสีดำวางอยู่ข้างท่อนไม้ในครัว ภายในมีน้ำและเลือดอยู่ ส่วนมีดพร้าเปื้อนเลือดวางอยู่ข้างถุงปุ๋ย กับมีดทำครัวยาว 20 ซ.ม.วางอยู่บนแคร่ห่างไปเล็กน้อย ขณะที่บนกระท่อมที่นอนมุ้งยังกางอยู่ หวดนึ่งข้าวเหนียวยังตั้งอุ่นอยู่บนเตาไฟ นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยี่ห้อแอลเอ สีแดง ที่คาดว่าเป็นของคนร้ายจอดอยู่หน้ากระท่อม ส่วนรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง-ขาว ทะเบียน 1กข 7659 อุดรธานี ของผู้ตายหายไป

สอบสวน นายธีระยุทธ พรมขาว อายุ 40 ปี เพื่อนผู้ตาย และเป็นคนพบศพคนแรก ให้ การว่าช่วงเช้าตนมาเรียกหาผู้ตายตามปกติ แต่ไม่มีเสียงตอบ พอเดินตามหาเข้าไปในครัว ก็พบชิ้นส่วนแขนขาวางอยู่ในถังพลาสติก ก็ถึงกับช็อกจึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจ

ขณะที่นายทองปาน ทองศรี อายุ 45 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายมีครอบครัวแล้ว แต่ภรรยาไปทำงานที่เกาหลี ส่วนลูกชาย 2 คน ก็ไปทำงานอยู่ที่ไต้หวัน เพื่อหาเงินส่งให้ใช้หนี้ ธ.ก.ส. จำนวน 6 แสนบาท ส่วนผู้ตายมานอนเฝ้าไร่อ้อย ที่พ่อตาแบ่งที่ดินให้กับภรรยาซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กจำนวน 50 ไร่ เพราะภรรยาและลูกผู้ตายส่งเงินเลี้ยงดูพ่อตามาตลอดจึงได้รับมรดกมากกว่าลูก คนอื่นแต่ช่วงหลังผู้ตายทะเลาะกับพ่อตา เพราะไม่พอใจที่ผู้ตายชอบพาเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าที่บ้าน และไม่ทำงานจริงจัง ผู้ตายจึงแยกตัวออกมาอยู่ที่กระท่อมที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังนำเงินที่ภรรยาฝากมาไปให้พ่อตาเป็นประจำ ก่อนหน้านี้เคยบ่นให้ฟังเรื่องญาติภรรยา ไม่พอใจที่ได้มรดกเยอะกว่าคนอื่นๆ

ด้าน นายสุวัฒน์ เหล่าเจริญ ผญบ.โนนสวรรค์ ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี ให้การว่า ผู้ตายนิสัยดี ไม่ทำตัวเป็นนักเลง เมื่อเดือนมิถุนายน พบผู้ตายนอนซมอยู่บนกระท่อม คนเดียว สอบถามเล่าให้ฟังว่าถูกญาติภรรยาทำร้ายแต่ไม่ยอมบอกว่าใครทำร้าย และไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ชวิศ กล่าวว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือญาติ โดยเข้ามาฆ่าผู้ตายในเวลาเช้ามืด ขณะที่ผู้ตายตื่นขึ้นมาหุงหาอาหาร จากนั้นจึงลงมือหั่นศพเพื่อหวังจะนำไปทิ้งอำพราง แต่คาดว่าจะมีชาวบ้านผ่านไปทำไร่ทำนา ทำให้คนร้ายทิ้งศพแล้วขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปแทน เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ที่ปมขัดแย้งเรื่องมรดกของภรรยา เพราะภรรยาผู้ตายซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้อง ได้รับมรดกเป็นที่ดินมากกว่าพี่สาวอีก 3 คน แต่ยังไม่ตัดเรื่องทะเลาะวิวาท หรือธุรกิจมืด ชั้นนี้มุ่งไปที่ปมมรดกมากกว่า จากนี้ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากศพ และกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน