กรณีมีสื่อนำเสียงรายงานเหตุการณ์จากสัญญาณวิทยุสื่อสาร จากวิทยุเครือข่ายเครื่องสีแดงของภาคประชาชน (เสียงของอาจารย์พลสิงห์ แสนสุข ประธานศูนย์พญาอินทรี) ถ่ายทอดผ่านแอพพลิเคชั่น Zello ที่ประชาชนเข้าถึงได้ปกติ ในกรณีช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ก่อนที่ทางเพจ Workpoint News – ข่าวเวิร์คพอยท์ ออกแถลงการณ์ ขออภัยต่อการกระทำดังกล่าวนั้น
ศูนย์พญาอินทรี ชี้แจงในเฟซบุ๊ก
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก โครงการพลังอาสา พลังแห่งแผ่นดิน โพสต์ข้อความระบุว่า พญาอินทรีและในนามของ ศูนย์อำนวยการอาสามัคร Mr.MOL ศูนย์พญาอินทรี ในนามองค์กรกลางการสื่อสารเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีเหล่าจิตอาสาอยู่ทั่วประเทศในการพร้อมช่วยเหลือชาติบ้านเมือง โดยปฏิบัติภารกิจสำคัญในนามของ โครงการหนึ่งใจ….สู้ภัยพิบัติแห่งชาติ (Mr.MOL) มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ โดยเป็นศูนย์กลางการสื่อสารของเหล่าอาสาสมัครทั่วประเทศ
ข่าวสารที่ศูนย์พญาอินทรีได้นำเสนอไปในระบบนั้นเป็นข่าวสารที่คัดกรองออกมาแล้วทั้งสิ้น และส่วนมากจะเป็นข้อมูลที่สื่อมวลชนทั่วไปได้นำเสนอออกข่าวตามช่องทีวีสาธารณะโดยทั่วไป เราได้นำข่าวต่างๆนั้นมาประมวลข่าว ตกแต่งคำให้สละสลวย ตลอดจนเน้นข้อความใดๆต้องไม่มีผลกระทบกับหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น โดยเด็ดขาด และข่าวสารที่นำเสนอต้องเป็นภาพบวก ส่งเสริมภาพลักษณ์และสิ่งดีงามในสังคมบ้านเราและ ต้องไม่สร้างความแตกแยกแก่สังคมไทย นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ ศูนย์พญาอินทรีกระทำอย่างสม่ำเสมอมาตลอด 20 ปีเต็ม
ส่วนกรณี ศูนย์ข่าวเวิร์คพอยท์ที่ได้รับฟังข่าวนั้น เข้าใจว่าคงรับฟังผ่านเครื่องมือสื่อสารความถี่ภาคประชาชน (Citizen Band) เครื่องแดง ช่อง 49 ซึ่งเรารายงานสถานการณ์จากถ้ำหลวงตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เราตระหนักและสำนึกในข้อมูลที่มาจากพื้นที่ เราทราบเป็นอย่างดีว่า กระบวนการในการช่วยเหลือครั้งนี้อยู่ภายใต้องค์พระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
พร้อมกันนี้เรายังจัดส่งทีมอาสาสมัครลงพื้นที่ไปสนับสนุนภารกิจในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่วันแรก ส่วนการรับฟังข่าวสารจากศูนย์พญาอินทรี ประชาชนคนไทยสามารถรับฟังได้โดยเสรี….หากมีวิทยุสื่อสารเครื่องแดงในมือ
ดังนั้นการที่ ศูนย์ข่าวเวิร์คพอยท์รับฟังนั้น สามารถกระทำได้ เสมือนคนไทยทั่วไป ว่าแต่ว่าข่าวสารที่ได้รับไปนั้นจะนำไปเสนอต่อในรูปแบบใด และมีการขยายความต่อมากน้อยเพียงใด
ศูนย์พญาอินทรีก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างสรรสังคมไทยและแสวงหาแนวร่วมจากภาคประชาชนทั่วประเทศเพื่อพร้อมรับมือภัยพิบัติ อย่างมีกระบวนการตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงรับสั่งแก่ “ผู้นำกองทัพไทย” ให้เห็นความสำคัญเกี่ยวกับวิทยุสื่อสารมากกว่าการใช้โทรศัพท์ เมื่อครั้งน้ำป่าไหลหลาก ถล่ม 5 ตำบลในจ.อุตรดิตถ์เมื่อหลายปีก่อน
ในยามนี้ บ้านเมืองเราต้องการความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกฝ่าย ความรักความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและความเอื้ออาทรต่อกัน นับเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องตระหนักและสำนึกในมโนจิต เพื่อถวายแด่….องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในมหาวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
