ฝนถล่ม-บางสะพานวุ่น แม่น้ำล้นท่วมเกือบเมตร จมถนนหลายสาย ชาวบ้านขนของหนีอลหม่านในสวน-พื้นที่ราบท่วมถึง 2 เมตร ส่วนร.พ.บางสะพานอ่วม-เจอน้ำหลาก ตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายจนปกติแล้ว นครศรีฯ ยังท่วมสูงใน 3 อำเภอ เริ่มขาดอาหาร-น้ำดื่ม ชุมพรจมถนนสายเอเชีย รถวิ่งผ่านไม่ได้-บางคันลุยฝ่าโดนซัดปลิว สงขลายังวิกฤต! จับตาคาบสมุทรสทิงพระล้นตลิ่ง เมืองตรังยังเดือดร้อนนับพันหลัง-โรงเรียนต้องหยุด ซัดถนนขาดหลายแห่ง-ท่วมนับเมตร ทหารนราฯ เร่งลำเลียงถุงยังชีพพระราชทาน บิ๊กตู่เผยในหลวงทรงห่วงใย พระราชทานถุงยังชีพเพิ่ม
ฝนถล่ม-บางสะพานอ่วม
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ว่า เริ่มมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และจ.นครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประเทศ ไทยตอนบนยังมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ขณะที่กทม.และปริมณฑลยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฝนยังคงตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอ.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย และเทือกเขาตะนาวศรี ทำให้อ่างเก็บน้ำในพื้นที่เต็มความจุและล้นลงแม่น้ำบางสะพาน ก่อนทะลักเข้าท่วมถนนสายหลัก เข้าตัวอ.บางสะพาน เขตเทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ โดยเฉพาะตลาดหน้าวัดห้วยทรายขาวและหอนาฬิกา น้ำท่วมสูง 50-80 ซ.ม. ส่งผลให้บ้านเรือน ร้านค้าและสถานที่ราชการถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านเร่งขนของหนีกันอลหม่าน โดยในพื้นที่ราบและสวนมะพร้าวระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร เช่นเดียวกับถนนเข้าหมู่บ้านมีน้ำไหลหลากแรง รถยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ขณะที่ถนนแยกเพชรเกษม-บ้านซังข้าวแห้ง น้ำหลากซัดคอสะพานขาดด้วย เบื้องต้นชาวบ้านเดือดร้อนแล้ว 150 ครอบครัว พื้นที่เกษตรเสียหาย 1,500 ไร่และถนนเสียหาย 16 เส้นทาง
ท่วมร.พ.-เร่งระบายวุ่น
นอกจากนี้น้ำยังหลากท่วมภายในร.พ. บางสะพาน ระดับน้ำสูงเกือบเมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้โรงพยาบาลต้องย้ายอุปกรณ์การแพทย์และคนไข้ขึ้นชั้น 2 และอาคารใหม่ ก่อนขอกำลังสนับสนุนจากทหารและตชด. ขณะที่ปภ.ตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายและนำกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำรอบโรงพยาบาล
ต่อมาช่วงสายนายทวี นริสศิริกุล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพความเสียหายของร.พ.บางสะพาน ด้านนพ. เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.ร.พ.บางสะพาน กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลประสบปัญหาไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากเครื่องปั๊มแรงดันสูงถูกน้ำท่วมเสียหาย จึงเตรียมใช้รถดับเพลิงอัดน้ำประปาขึ้นไปไว้บนถังชั้นดาดฟ้า เพื่อแก้ปัญหาระบบน้ำภายใน ขณะที่ช่างเร่งซ่อมเครื่องปั๊มน้ำเป็นการด่วน พร้อมให้แพทย์คัดกรองและอนุญาตให้คนไข้กลับบ้านได้ส่วนหนึ่ง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำที่ท่วมในร.พ. บางสะพาน จนแห้งแล้ว ก่อนเร่งทำความสะอาดห้องต่างๆ และรอบโรงพยาบาล ทำให้ไม่ต้องย้ายคนไข้ 75 คนไปรักษาโรงพยาบาลใกล้เคียง
นครศรีฯเริ่มขาดอาหาร
ที่จ.นครศรีธรรมราช รศ.นพ.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานมอบแก่ ผู้ประสบอุทกภัย 30 ครัวเรือน ในม.12 ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เริ่มลดระดับลงแล้ว แต่ในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่ริมคลองยังมีน้ำท่วมขังสูง โดยประชาชนยังวิตกว่าจะมีฝนตกหนักอีกระลอกในอีก 2 วันข้างหน้า ส่วนสภาพอากาศท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตกลงตลอดเวลา ซึ่งปริมาณน้ำกำลังไหลไปพื้นที่รับน้ำในอ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ และอ.ปากพนัง ทำให้ 3 อำเภอมีระดับน้ำสูงต่อเนื่อง หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอกและขาดอาหาร หลังถูกน้ำท่วมขังมานานนับสัปดาห์ โดยเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมมีทั้งสิ้น 127,414 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 100,967 ไร่ พืชไร่ 12,151 ไร่ และพืชสวน 309,687 ไร่
ที่จ.ชุมพร นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร ประสานทุกอำเภอเร่งช่วยชาวบ้านย้ายของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะที่ทุ่งตะโก หลังมีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือน 2 ครั้ง ส่วนถนนเอเชียทั้งขาขึ้นและขาล่อง บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอทุ่งตะโก มีน้ำท่วมสูงนับเมตรยาว 500 เมตร ทำให้รถวิ่งผ่านไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือรถยนต์ที่วิ่งลุยน้ำและจอดเสียหลายคัน รวมถึงรถฟอร์จูนเนอร์ที่พยายามขับฝ่าสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ทำให้ถูกกระแสน้ำพัดตกร่องกลางถนนจมมิดหายทั้งคัน เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปช่วยคนในรถได้ 2 คน โดยยังมีรถติดอยู่บนถนนตั้งแต่ อ.หลังสวน เข้าเขตอ.ทุ่งตะโก หลายร้อยคัน
เมืองตรังจมกว่าครึ่งเมตร
ที่จ.สงขลา นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ.สงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักได้รับผลกระทบแล้ว 10 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อน 24,246 ครัวเรือน อพยพแล้ว 232 ครัวเรือน ตอนนี้ยังมีน้ำท่วมขังอีก 4 อำเภอคือ อ.ระโนด อ.สิงหนคร อ.กระแสสินธุ์ และอ.สทิงพระ โดยพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ น้ำท่วมยังอยู่ภาวะวิกฤตและไหลลงทะเลสาบสงขลาต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในทะเลสาบสูงขึ้น ชาวบ้านเริ่มขาดอาหารและน้ำสะอาดดื่ม โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งให้การช่วยเหลือแล้ว พร้อมขอให้ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งคาบสมุทรสทิงพระ บริเวณจ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และจ.สงขลา ไปอีก 1-2 วัน
ที่จ.ตรัง สถานการณ์น้ำท่วมยังรุนแรงในหลายพื้นที่ แม้ฝนจะหยุดตกแล้วก็ตาม แต่ปริมาณน้ำมหาศาลที่ไหลจากจ.นครศรี ธรรมราช ยังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายพันครัวเรือน โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครตรัง เนื่องจากน้ำไหลท่วมบ้านเรือน ร้านค้าและสถานศึกษาหลายแห่งจนต้องหยุดการเรียนการสอน นอกจากนี้ยังมีน้ำไหลท่วมสถานที่ราชการอีกหลายสิบแห่งด้วย ส่วนถนนท่ากลางและถนนน้ำผุด มีน้ำท่วมสูง 30-50 ซ.ม. ขณะที่หลายตำบลตั้งอยู่ริมแม่น้ำตรัง เช่น ต.นาท่ามใต้ ต.นาตาล่วง ต.บางรัก และต.หนองตรุด ถูกน้ำท่วมเช่นกันและซัดถนนหลายสายจนขาด ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร แถมยังไหลเชี่ยวกราก ต้องนำรถออฟโรดช่วยขนย้ายสิ่งของและชาวบ้านออกนอกพื้นที่ตลอดทั้ง 2 วัน
ส่วนถนนทางหลวงหมายเลข 403 เส้นทางไปยังจ.นครศรีธรรมราช และจ.กระบี่ ถูกน้ำท่วมบริเวณหลักก.ม.ที่ 4-6 ช่วงแยก นาขา ระยะทาง 2 ก.ม. เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นวันที่สาม โดยทั้งจังหวัดมีชาวบ้านเดือดร้อนแล้ว 40,000 คน
พระราชทานถุงยังชีพเพิ่ม
ขณะที่จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่เปิดคลังถุงยังชีพพระราชทาน ภายในพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคใส่ถุงยังชีพพระราชทาน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยพ.อ.สมเดช โยธา ผู้บังคับการกรม ร.151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา สั่งการให้ทหารนำรถบรรทุก 6 ล้อ 5 คัน พร้อมกำลังพล 30 นายมารับถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุดและข้าวสารอีก 200 กระสอบ ลำเลียงใส่รถเดินทางไปยังจ.พัทลุง เพื่อนำถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนในเบื้องต้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แถลงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเขตอุทกภัยภาคใต้ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมาก ยืนยันไม่นิ่งนอนใจ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล โดยมอบให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน และวันที่ 8 ธ.ค. มอบให้พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนเช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลห่วงใยภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมหามาตรการทำอย่างไรไม่เกิดเหตุเช่นนี้ในอนาคต ยอมรับเป็นการแก้ปัญหาที่ยาก เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่ ที่ผ่านมาก็เกิดปัญหาเช่นนี้ตามลำดับ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลคิดจะทำไม่ใช่ให้เรื่องง่าย แม้จะมีอำนาจแต่ตนไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับประชาชน จึงขอร้องว่าบางอย่างหากจำเป็นต้องใช้อำนาจที่มีอยู่ทำให้ได้ เลยอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าหลายอย่างต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว พระองค์ท่านจึงรับสั่งมาและได้มอบหมายให้ผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานไปเพิ่มเติมให้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” นายกฯกล่าว
ทรงห่วงใย- ทหาร ร.151 ค่ายกัลยา ณิวัฒนา ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุด ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ พระราชทานจากพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส ไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมใน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.
