น้องดอม กัปตันทีมหมูป่าที่ติดถ้ำ เล่านาทีชีวิตผ่านพ่อ เผยเข้าไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วเกิดฝนตกหนัก น้ำทะลักพอดี โค้ชเอกจึงให้ปีนหนีน้ำเข้าไปหาที่สูง โดยอยู่ในนั้นไม่รู้วันเวลา โค้ชเอกให้นั่งนิ่งๆ ประหยัดพลังงาน ประทังชีวิตด้วยน้ำที่หยดจากผนังถ้ำ

ผบ.หน่วยซีลกระโดดกอด ก่อนเดินทางกลับฐานที่ตั้ง

สื่อนอกเผยทีมแพทย์ช่วย 13 ชีวิตในถ้ำหลวงใช้ยาเคตามีน ให้ทุกคนอยู่ในอาการสงบ ไม่ตื่นตกใจ ก่อนนำพาออกจากถ้ำทีละคนอย่างปลอดภัย ด้านกรมอุทยานฯ เตรียมบิ๊กคลีนนิ่งถ้ำหลวง ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลอุปกรณ์ที่ยังตกค้างตลอด 24 ชั่วโมง หน่วยซีลกลับสัตหีบแล้ว กระทรวงเกษตรฯเตรียมจ่ายชดเชยข้าวเสียหายไร่ละพัน

นายกฯจัดงานเลี้ยงขอบคุณ
น้องดอม / เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 ก.ค.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคม นิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ถึงความคืบหน้าการจัดงานเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยว ข้องในภารกิจการช่วยเหลือโค้ชและเด็กทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี ทั้ง 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้า ที่เตรียมการอยู่ โดยกระทรวงมหาดไทย จะเป็นเจ้าภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กองพิธีการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) อยู่ระหว่างการจัดทำบัตรเชิญหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการพาทีมหมูป่าและโค้ชกลับบ้าน เพื่อร่วมงานเลี้ยงขอบคุณที่จ.เชียงราย แต่เบื้องต้นยังไม่ได้กำหนดวันและสถานที่

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เมื่อทุกคนปลอดภัยแล้ว ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันให้ทั้ง 13 คนปลอดภัย ทุกชาติที่มาช่วย ต้องขอขอบคุณทุกคนและคนที่เป็นกำลังใจให้กับเด็กและโค้ชให้สามารถรอดพ้นออกมา เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ได้ความช่วยเหลือ จากทั่วโลกก็ลำบาก ไม่มีทางเอาออกมาได้ ต้อง ขอบคุณทุกหน่วยงานและประชาชนไทยทั้งประเทศและทั่วโลกที่เป็นกำลังใจ โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวก็ต้องขอบคุณด้วยที่ทำให้การช่วยเหลือ เด็กและโค้ช ต้องถือว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์

ส่วนการพิจารณาบำเหน็จความชอบให้กับผู้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าหน่วยงานจะพิจารณาและตนไม่ขัดข้อง ถ้าจะมีการเสนอบำเหน็จพิเศษเพราะเขาทุ่มเท ไม่ได้หลับไม่ได้นอน สำหรับการเลี้ยงขอบคุณ หรือไม่ ต้องให้ต้นสังกัดดูเวลาก่อน ตอนนี้ก็ให้ กำลังใจไปก่อน

ผบ.กองเรือยุทธการ มอบพวงมาลัยต้อนรับ ผบ.ซีล และเจ้าหน้าที่หน่วยซีล

เตรียมฝึกซีลดำน้ำในถ้ำ
เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว กองทัพจะถอดบทเรียนเพิ่มหลักสูตรดำน้ำในถ้ำให้แก่หน่วยซีลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า หน่วย ซีลเตรียมเรื่องดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมาเขาไม่เคยดำน้ำในถ้ำ เคยแต่ดำน้ำในทะเลก็คิดว่าเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าความมืดในถ้ำกับในทะเลนั้นแตกต่างกัน ประกอบกับมีดินโคลนและพื้นที่แคบด้วย ซึ่งคงจะมีการถอดบทเรียนต่างๆ เพื่อ นำไปสอนเพิ่มเติม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แม้ศูนย์ส่วนหน้าจะปิดตัวลงแล้ว แต่ศูนย์ของจังหวัดยังต้องทำงาน ขณะนี้กำลังสำรวจอุปกรณ์และของใช้ต่างๆ เพราะบางส่วน ติดอยู่ในถ้ำ รวมถึงสรุปว่าหน่วยงานต่างๆ จะใช้งบประมาณจากส่วนใด ซึ่งบางส่วนเขามีงบประมาณของตัวเอง เช่น รัฐวิสาหกิจ แต่ในส่วนอื่นต้องหาทางพิจารณาช่วยเหลือ อย่างเอกชนบางส่วนของติดอยู่ข้างในก็มี บางอย่างเขาให้เลย แม้จะติดอยู่ข้างในเขาก็ไม่ว่า ทางซีลก็บอกว่า ถ้าน้ำลด แล้วค่อยมาเก็บกัน

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นอกจากนี้ เรายังต้องมาทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (After action review) ทบทวนทั้งหมดตั้งแต่ทำอะไรบ้าง แต่ละส่วนประกอบด้วยใครบ้าง แล้วสรุป ออกมาเป็นบทเรียนว่าต่อไปต้องทำอย่างไร เพราะยังไม่เคยมีเหตุการณ์นี้ที่ใดในโลก จึงต้อง ทำหลายๆ อย่าง ซึ่งจะไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะประเทศเรา บนเขาต้องเบี่ยงน้ำ ข้างล่างต้องพร่องน้ำ ในถ้ำต้องสูบน้ำ อะไรหลายๆ อย่าง ส่วนเครื่องมือช่วยเหลือของทีมต่างชาติเขาดำได้นานมาก ของเราดำได้ไม่กี่ชั่วโมง เราก็ต้องรีบสรุปบทเรียนแล้วนำเรียนให้รัฐบาล ซึ่งขณะนี้กำลังทำกันอยู่ ทั้งนี้ ตนให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยติดต่อกับทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมดเพื่อไล่เรียงการปฏิบัติงาน

ทัพเรือต้อนรับซีลกลับสัตหีบ

อช.จัดบิ๊กคลีนนิ่งถ้ำหลวง
ส่วนที่ถ้ำหลวง ภายในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ยังคงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้ารักษาอุปกรณ์ที่ยังค้างอยู่ในถ้ำหลวง และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

นายบันทม สมสุวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ(อช.)ภูซาง จ.พะเยา ซึ่งรับมอบหมายภารกิจประจำศูนย์อำนวยการของกรม อช. ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้ทยอยเดินทาง กลับที่ตั้ง ในพื้นที่ของวนอุทยานถ้ำหลวงฯ ขณะนี้ทางกรมเตรียมการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ใน วันที่ 14 ก.ค. นี้ โดยทางอธิบดีกรม จะมาเป็นประธาน ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ในสังกัด กรม จากจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่ พะเยา มาร่วมกันทำความสะอาด พร้อมทั้งจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเฝ้ารักษาอุปกรณ์ ที่ยังอยู่ในถ้ำหลวง ชุดละ 7-8 คน ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเฝ้ารักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทั่วบริเวณเขตปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้ ทาง อช.ภูซาง นำช่างฝีมือและเจ้าหน้าที่ 8 คน เข้ามาช่วยกันทำรั้วและประตูหน้าถ้ำหลวง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าไปในถ้ำหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันทางกรมมีคำสั่งให้ปิดถ้ำหลวงเพื่อฟื้นฟูให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้มีความพร้อมในการ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติระดับโลก ในอนาคตต่อไป

ภาพของครอบครัวและน้องดอมที่มหมูป่า

หน่วยซีลถอนกำลังกลับ
ที่โรงแรมแม่โขง เดลต้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการ สงครามพิเศษทางเรือ ถอนกำลังพล เตรียมตัวเดินทางกลับสัตหีบ พร้อมกับทักทายสื่อมวลชน ก่อนกลับ และมีการแจกเหรียญสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช พุทธาภิเษก 15 ตุลาคม พ.ศ. 2543 ณ วิหาร วัดสัตหีบ อีกด้วย

พล.ร.ต.อาภากรกล่าวว่า เมื่อภารกิจจบ เราก็ต้องเดินทางกลับ ไม่ได้มีการฉลองกัน เพราะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจนี้ไม่ใช่หน่วยซีลเพียงหน่วยเดียว แต่ภารกิจนี้สำเร็จได้ด้วยหลายหน่วยงาน ทางหน่วยซีลจึงเข้าแถวให้กำลังใจกันและปรบมือ พร้อมกับเปล่งเสียง HooYah จากนั้นก็แยกย้ายไปทำภารกิจอื่นๆ

ภารกิจนี้ถือว่าหนักเช่นกัน แต่หน่วยซีลไม่มีการบ่น เพราะเราถูกฝึกมาอย่างหนัก แต่ก็ต้องสะสมประสบการณ์ต่อไป ตนอยากบอกหน่วยซีลที่ปฏิบัติหน้าที่ว่าขอบคุณทุกคนมาก เวลาปฏิบัติงาน เราจะรู้ว่าใครเป็นอย่างไร กำลังพลของตนเยี่ยมมาก โคตรสุดยอด กลับไป เราก็จะมีการเตรียมกำลังพล ฝึกฝน เตรียมยุทธ วิธีต่างๆ และสะสมประสบการณ์ เพื่อพัฒนาศักยภาพต่อไป

ภัยพิบัติแบบนี้ ตนไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็น อย่างไร แต่เราจะเตรียมกำลังพล เพื่อปฏิบัติภารกิจ และจะทำให้เต็มที่ ตนอยากบอกทีมหมูป่าว่าใช้ชีวิตให้คุ้ม ให้เป็นคนดีของประเทศ เป็นกำลังของชาติ รักน้องๆ

ด้านพล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. มอบหมายให้พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ. กองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนต้อนรับ กำลังพลของกองทัพเรือ ที่เดินทางกลับที่ตั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

โดยคณะทั้งหมด 159 นาย ประกอบด้วย หน่วยซีล 127 นาย ชุดแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำ กรมแพทย์ทหารเรือ และส่วนอื่นๆ อีก 32 นาย กำหนดเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ในเวลา 13.30 น. โดยเครื่องบินซี130 ของกองทัพอากาศ และเครื่องบินแอมแบร์ ของกองทัพเรือ โดยมีข้าราชการ ทหารเรือ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน ครอบครัวซีล และสื่อมวลชนกว่า 300 คน มาร่วมรอต้อนรับด้วยบรรยากาศอบอุ่น

จ่ายชดเชยน้ำท่วมไร่ละพัน
ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดบ้านสันปูเลย ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มอบปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรใช้เชื้อราไตรโคเดอร์ มาคลุกกับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรจะ ปลูกหลังน้ำลด เพื่อใช้ป้องกันและกำจัดโรคข้าว ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังน้ำลด ทั้งนี้จากการสำรวจพบเป็นพื้นที่เสียหายสิ้นเชิง 1,266.75 ไร่ เกษตรกร 126 ราย เป็นวงเงินในการ ขอรับความช่วยเหลือ 1,409,892.75 บาท ซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สามารถอนุมัติ วงเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรได้ทันที

นายสมชายกล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์ในการช่วยเหลือเกษตรกร ยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 ซึ่งตามหลักเกณฑ์จะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร อัตราการ ช่วยเหลือตามระเบียบ โดย ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ และมีการตรวจสอบพื้นที่เสียหายจริงด้วยคณะกรรมการ ตรวจสอบระดับหมู่บ้าน ซึ่งการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ วงเงินทดรองราชการอยู่ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เกิน 20 ล้านบาท และเงินในการช่วยเหลือจะโอนผ่านบัญชีเกษตรกรโดยตรง

ครอบครัวน้องดอมทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง

สธ.เผยอาการ 13 ชีวิตดีขึ้น
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นพ. เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงอาการทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 คน ว่า มีการประเมินทุกเช้าเย็น เช้านี้พบว่ากินอาหารได้ตามปกติ เดินเข้าห้องน้ำ และทำกิจวัตรประจำวันได้ ส่วนการให้ยาฆ่าเชื้อซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะยังต้องให้จนกว่าจะครบ 7 วัน โดยเฉพาะ 3 รายที่มีภาวะปอดอักเสบ ส่วน ล็อตหลัง 5 รายนั้นพบว่ามี 3 ราย ที่มีอาการหูอื้อ ตรวจสอบแล้วพบว่าเกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ ซึ่งคาดว่ามาจากการเป็นหวัด เล็กน้อยซึ่งคิดว่าให้การรักษาแล้วจะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน สำหรับสภาพจิตใจของทุกคน โดยรวมถือว่าดี ร่าเริงดี โดยจะมีจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยด้วยทุกราย สำหรับตัวโค้ชซึ่งหลายคนกังวลถึงความรู้สึกผิดนั้นก็จะมีจิตแพทย์คอยติดตามและดูแลเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ฝากถึงสื่อมวลชนกรณีที่น้องๆ กลับบ้านแล้วอาจต้องระมัดระวังเรื่องการสัมภาษณ์ พูดคุยเพราะกังวลว่าจะกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาได้

ส่วนผลการตรวจเลือดที่ส่งเข้ามาตรวจ ในห้องแล็บที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเชื้อโรค อุบัติใหม่นั้น ไม่พบว่ามีความผิดปกติอะไร ส่วนผลเลือดล็อต 2-3 จะทยอยออกมาเร็วๆ นี้ และเมื่อทราบผลแล้วจะมาประเมินอีกครั้ง แต่อยากให้ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลให้ครบ 7 วัน ยังไม่อยากให้กลับบ้าน เพราะน้องๆ เผชิญ กับการอดอาหารมานาน อยู่ในสภาพอากาศที่อับชื้น ร่างกายเลยอ่อนแอ หากให้กลับบ้านอาจจะมีเสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อไข้หวัดซึ่งติดง่าย

นพ.เจษฎากล่าวต่อว่า สำหรับหน่วยซีล ที่เข้าไปอยู่กับน้องๆ ภายในถ้ำนั้นก็เข้ามาอยู่ใน โรงพยาบาล และได้ส่งตัวอย่างเลือดส่งตรวจเช่นกัน ตอนนี้ไม่น่าห่วงเพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันดี และจะส่งต่อยังโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อพักฟื้น ส่วนบุคลากร เจ้าหน้าที่ที่ร่วมภารกิจนี้ก็ได้ให้คู่มือแนะนำการดูแล สังเกตอาการด้วยตัวเอง หากพบความผิดปกติให้มาพบแพทย์ แต่ขณะนี้ยังไม่มี ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว จะต้องมีการถอดบทเรียนกันแน่นอน โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง และทีมที่เข้าไปช่วยเหลือมา เพื่อร่วมเสวนาให้ความรู้กันอย่างแน่นอน

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Teen Talk (หมูป่า) Academy โพสต์ข้อความขอบคุณทุกคนที่ช่วย 13 ชีวิตสมาชิกของทีม ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำ นางนอน โดยโพสต์ภาพ ระบุว่า “เราหมูป่าทุกๆ คน ทุกๆ รุ่น ขอกราบขอบพระคุณทุกๆฮีโร่ ที่ช่วยเหลือ น้องๆหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตออกมาอย่างปลอดภัย เราจะไม่ลืมในสิ่งที่ทุกท่านได้ช่วยเราอย่างเต็มที่ตลอดเวลา #น้องๆ จะเป็น คนดีของสังคมนะคะ #ทุกคนคือฮีโร่ของ พวกเรา #ขอบคุณทีมงานทั้งประเทศไทยและทีมต่างชาติ #ทีมหมูป่าอะคาเดมี”

ครอบครัวน้องดอมทีมหมูป่าอะคาเดมี

สื่อนอกเผยใช้?เคตามีน?
วันเดียวกัน เดลีเมล์ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ดังของอังกฤษ รายงานเบื้องหลังความสำเร็จภารกิจช่วยชีวิตสะท้านโลกของบรรดาหน่วยงานไทยและนานาชาติ กรณีทีมฟุตบอลหมูป่าและโค้ชรวม 13 ชีวิต ติดอยู่ภายใน ถ้ำหลวงที่จ.เชียงรายนานกว่า 2 สัปดาห์ ว่าสมาชิกทีมทั้ง 12 คน และโค้ช ได้รับยาต่อต้านอาการตื่นตระหนก (anxiolytic) เพื่อป้องกันไม่ให้ตกใจกลัวและเครียดขณะเจ้าหน้าที่ ลำเลียงผ่านช่องแคบภายในถ้ำ ทั้งบนบกและขณะอยู่ ใต้น้ำโคลนซึ่งทัศนวิสัยเป็นศูนย์

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากพล.อ. ประยุทธ์ หลังก่อนหน้านี้ ทางการไทยเคยปฏิเสธว่ากระแสสังคมที่จับตากรณีมีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่วางยาสลบ ระหว่างการลำเลียง ออกจากถ้ำโดยนักประดาน้ำอังกฤษ เจ้าหน้าที่ไทย และผู้ร่วมปฏิบัติงานจากนานาชาติ

หนึ่งในนักประดาน้ำอังกฤษ ระบุว่า “มีคน บอกผมว่าเด็กๆ ได้รับยาเคตามีน (ยาสลบที่ใช้กับม้า) เพื่อให้พวกเขาไม่ตื่นตกใจ” ขณะที่ นักประดาน้ำอเมริกันอีกคน ระบุเพิ่มเติมว่า “เด็กพวกนั้นสลบเหมือดกันหมดแล้ว” ส่วนนายเฟอร์นันโด ไรกัล นักประดาน้ำชาวสเปนที่ร่วมลำเลียงทีมหมูป่าออกจากถ้ำระบุว่า “เด็กๆ ถูกวางยาสลบจนหมดสติ”

อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า เด็กทุกคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนระหว่างภารกิจ ลำเลียงออกจากถ้ำหลวง ขณะที่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายไว้ระหว่างปฏิบัติการดังกล่าวเผยให้เห็นความแคบของถ้ำหลายส่วน และน้ำโคลนที่ทั้งทีมหมูป่าและเจ้าหน้าที่ต้องดำฝ่าออกมามีสภาพสีน้ำตาลเข้มคล้ายกาแฟ นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่แคบและเป็นคอคอดคล้ายตัวอักษรภาษาอังกฤษ “เอส” โดยสามารถเห็นเด็กบางคนโบกมือและกำมือระหว่างการลำเลียง บ่งชี้ว่า เด็กๆ ไม่ได้หมดสติอย่างสมบูรณ์ตามที่บางฝ่ายระบุ

สอดคล้องกับที่ น.ท.ไชยนันท์ พีระณรงค์ อายุ 60 ปี อดีตมนุษย์กบหน่วยซีล ที่มีส่วนร่วมในภารกิจดังกล่าว เคยระบุไว้ว่า “เด็กบางคนหลับ บางคนก็ยังขยับนิ้ว แต่รับรองว่าทุกคนยังหายใจอยู่” และว่า มีแพทย์ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ของถ้ำเพื่อวัดชีพจรและสังเกตอาการเด็ก อย่างใกล้ชิด

แหล่งข่าวด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง กับการช่วยเหลือทางการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า กรณีสื่อต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์ว่า การ ช่วยเหลือครั้งนี้ มีการให้ยาเคตามีนแก่เด็ก และโค้ชทีมหมูป่า 13 คน และมองว่ายาตัวนี้เป็นยาสลบใช้กับม้า ต้องชี้แจงเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็น แรกในส่วนการให้ยาอะไรหรือไม่นั้น ต้องไปสอบถามแพทย์ที่อยู่ในถ้ำ หรืออยู่หน้างาน เพราะกรณีนี้จะไม่ใช่ภารกิจหรือความรับผิดชอบของทางโรงพยาบาลที่รับการดูแล แต่ภาพรวมทุกคนปลอดภัยดี มีการรับรู้

ส่วนประเด็นที่ 2 ที่เกิดคำถามว่า ยาเคตามีน เป็นยาใช้กับม้า นั้น ข้อเท็จจริงไม่ใช่ เพราะใน กลุ่มนี้มียาที่ใช้ได้กับคน อย่างกรณีการผ่าตัดที่ ไม่ต้องการดมยาสลบ ก็สามารถใช้ได้ แต่จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 2-3 ชั่วโมง

นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี คุณพ่อของ น้องดอม

ทีมหมูป่าเผยนาทีติดในถ้ำ
วันเดียวกัน ที่บ้านของ ด.ช.ดวงเพชร หรือ น้องดอม พรมเทพ อายุ 13 ปี นายบรรพต ก้อนคำ อายุ 45 ปี คุณพ่อของน้องดอม นักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ตำแหน่งกองหน้า และเป็นกัปตันทีมหมูป่า อะคาเดมี เปิดเผยว่า น้องดอมเล่าให้แม่ฟังว่า ในวันที่ 23 มิ.ย. หลังจากที่ซ้อมบอลเสร็จ น้องดอมเข้าไปที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ซึ่งกะว่าจะเข้าไปเที่ยว แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น จึงไม่ได้ซื้อขนมเข้าไปตุน มีเพียงขนมเล็กๆ น้อยๆ ที่ติดอยู่ในกระเป๋าเป้ หลังจากที่ซ้อมบอลเสร็จ แต่ขณะนั้นฝนตก น้ำป่าไหลเข้ามาบริเวณในถ้ำ ทำให้ทุกคนต้องวิ่งเข้าไปด้านในเพื่อหนีน้ำ

น้องดอมเล่าว่า วินาทีนั้น ทุกคนตกใจมาก แต่โค้ชเอกบอกว่า ให้พวกเรารีบหนี โดยตอนนั้นทุกคนเดินลุยน้ำ เพื่อหาช่องทางหนี โค้ชเอกได้นำไฟฉายมาส่องใต้น้ำ เห็นโพรงเล็กๆ ทุกคนจึงได้ใช้มือตะกุยโคลน และยกหินออก เพื่อหลบเข้าไปลึกๆ

นายบรรพตกล่าวอีกว่า ตอนอยู่ในถ้ำ น้องดอมเล่าว่า โค้ชเอกบอกให้นั่งอยู่นิ่งๆไม่ต้องใช้พลังงานเยอะ หากใครหิวน้ำก็ให้เอาไฟฉายสองขึ้นไปบนเพดานถ้ำ แล้วหารูที่น้ำฝนไหลมาและกินประทังชีวิต ซึ่งในตอนนั้นทุกคนไม่รู้วันรู้คืน มีการพูดคุยกันบ้าง เพื่อคลายเครียด โดยในวันที่มีนักดำน้ำชาวอังกฤษ พบเจอทีมหมูป่านั้น ความจริงแล้ว ทีมหมูป่าอยู่สูงกว่าที่ทุกคนเห็นในคลิป แต่ตอนนั้น เห็นว่ามีคนมา จึงได้รีบวิ่งลงมาเพื่อตะโกน ขอความช่วยเหลือ และจากนั้นก็มีหน่วยซีลเข้าไปอยู่กับทีมหมูป่า เพื่อรอวันที่จะช่วยเหลือ ออกมา

ตนไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่พาทีมหมูป่าออกมาโดยวิธีไหน ทราบอีกที น้องดอมก็อาการปลอดภัยแล้ว แต่น้ำหนักลดไปประมาณ 3-4 กิโล เมื่อออกจากถ้ำขณะนี้น้ำหนักเพิ่ม ขึ้นแล้ว 1 กิโล โดยระหว่างนี้ น้องดอมก็มีการบ่นว่าอยากกินหมูกระทะ ก๋วยเตี๋ยวเรือ และขอโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เนื่องจากเครื่องเก่าตกน้ำหายไปแล้ว

ภายหลังจากนี้หากน้องดอมออกจากโรงพยาบาล ก็จะจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้ และจะให้น้องดอมบวช เพื่อทดแทนบุญคุณและอุทิศส่วนกุศลให้กับ จ.อ.สมาน กุนัน ซึ่งเป็น ผู้ที่มีพระคุณ ต่อทีมหมูป่าอย่างมาก