หนุ่มโวย ถูกแม่ลูก โพสต์คลิปประจาน กล่าวหาเป็นพวกถ้ำมอง ทั้งที่ไม่ใช่ แถมรายการทีวีเอาไปออกอากาศ โดยไม่เบลอหน้า จนเสียหาย ตอนแรกว่าจะไม่เอาเรื่อง แต่พอเป็นข่าว คนรู้จักจ้องมองหน้าแปลกๆ จึงปรึกษาภรรยา ก่อนหอบลูกวัย 2 เดือน เข้าแจ้งความปอท. ชี้ต้องการให้ออกมาขอโทษต่อหน้าสื่อ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ บก.ปอท. นายติมาพรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อาชีพพ่อค้าขายคอหมูย่าง ย่านรามอินทรา อุ้มลูกวัย 2 เดือนมาพร้อมภรรยา เข้าพบ ร.ต.ท.เปตอง ด่านปรีดา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความหลังถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกโรคจิต ถ้ำมองผู้หญิงขณะเข้าห้องน้ำ

ข้อความกล่าวหาในเฟซบุ๊ก

หนุ่มโวย / หนุ่มพ่อค้าคอหมูย่าง เล่าว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. ขณะตนไปทำธุระติดต่อนัดรับของ ที่มีคนประกาศขายทางออนไลน์ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.คลอง 8 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ระหว่างรอคนขายเอาของมาส่ง มีหญิงสูงวัยเข้าชี้หน้าด่าหาว่าตนไปแอบดูเขาเข้าห้องน้ำจากห้องข้างๆ โดยอ้างว่าจำหัวได้แบบนี้เลย

หนุ่มพาภรรยาอุ้มลูก แจ้งความปอท.

แม้นตนจะอธิบายปฏิเสธอย่างไร หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ฟัง กลับร้องบอกให้ลูกชายที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำชาย เอามือถืออัดคลิปถ่ายเอาไว้ ตนเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรจะไปโต้เถียงด้วย จึงเดินเลี่ยงออกไปพร้อมกับโทร.บอกคนขายที่จะมาส่งของ ว่าขอเปลี่ยนที่รับของเป็นที่อื่น ซึ่งห่างจากปั๊มประมาณ 1 ก.ม. จึงขี่จยย.ไปรับของแล้วกลับบ้านทันที

นายติมาพรณ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาประมาณ 3 ทุ่ม มีเพื่อนของตน ทักมาในเฟซบุ๊ก และแชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งถามว่าคนในคลิปใช่สามีหรือเปล่า ภรรยาจึงเปิดคลิปดังกล่าวที่มีการโพสต์ไว้จำนวน 3 คลิป คลิปแรกจะเห็นหน้าตนอย่างชัดเจน

ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ภรรยาฟัง ตอนแรกก็รู้สึกตกใจที่โดนถ่ายคลิปเอาไปประจานแบบนั้น แต่ไม่อยากเอาเรื่องจึงไม่แจ้งความทันที ส่วนภรรยาได้อินบล็อกไปสอบถามยังเฟซบุ๊กดังกล่าว ว่ามีพยานหลักฐานอะไรถึงเอาคลิปมาลงประจานแบบนั้น ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ไม่ว่างจะถ่ายรูปประจำวันที่ไปแจ้งความให้ดู เมื่อถามต่อก็บล๊อกแชทไม่คุยอีกเลย

นายติมาพรณ์ เล่าต่อ ตนไม่อยากเอาความอะไร ปกติไม่ชอบเล่นเฟซบุ๊กมีแต่แฟนเล่น จึงบอกแฟนว่าอยู่เฉยๆ เดี๋ยวก็เงียบไปเอง แต่พอมา วันที่ 17 ก.ค. เวลา 05.30 น. ปรากฎว่ามีรายการทีวี เอาคลิปดังกล่าวมาออกรายการ โดยไม่มีการบังหน้าตน คราวนี้เวลาตนไปไหน ไม่ว่าจะขายคอหมู่ย่าน ไปตลาด เจอคนรู้จักก็จะมองหน้าตนแปลกๆไป

ตนโทรไปที่ทีวีช่องดังกล่าว ต่อว่าว่าทำไมไม่สอบถามคนที่ถูกกล่าวหาเสียก่อน นำไปออกอากาศแบบนี้โดนไม่ตรวจสอบอะไรสร้างความเสียหายให้ตนมาก ก็แค่บอกว่ายินดีให้ตนไปออกอากาศชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด

ตนเห็นว่าที่คนเข้าใจผิด เพราะเฟซบุ๊ก ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของลูกชายหญิงดังกล่าว และมีสื่อมวลชนเอาไปแชร์กระจายไปนับพันๆแชร์ สร้างความเสียหายให้ตนมาก จึงปรึกษาภรรยาว่าอยู่เฉยต่อไปไม่ได้แล้ว เลยพากันไปแจ้งความที่ สภ.ลำลูกกา

ซึ่งพนักงานสอบสวนรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับบอกว่าไม่มีคู่กรณีมาแจ้งความ ว่าถูกแอบดูในห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ปตท.คลอง 8 ที่เกิดเหตุแต่อย่างใด วันนี้จึงมาร้องต่อที่ปอท. และขอชี้แจงกับสื่อมวลชนด้วย

“ผมอยากจะให้เรื่องมันจบๆไป และต้องการให้คู่กรณีขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าเขายินยอมลบคลิปดังกล่าวออกไป ผมไม่ต้องการไปขึ้นศาล ไม่อยากให้เขาเสียหาย ถ้าเขาจบ ผมก็จบ แต่ขอให้ขอโทษต่อหน้าสื่อฯก่อน ส่วนสื่อฯ ที่เอาคลิปนี้ไปออกข่าว ก็ขอให้แก้ไขออกข่าวจากที่ผิดๆให้ถูกต้อง นำเสนอข้อเท็จจริงด้วย ผมก็ยินดีไม่เอาความเช่นกัน” นายติมาพรณ์กล่าว

ด้าน ร.ต.ท.เปตอง กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาหมิ่นประมาท ทางปอท.ได้ลงประจำวันแล้ว จะช่วยตรวจสอบในเรื่องการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ให้ จากนั้นจะประสาน สภ.ลำลูกกา เรียกคู่กรณีมาสอบสวนดำเนินคดี ตามประสงค์ของผู้เสียหายต่อไป