ทั้ง3เหล่าทัพเตรียมจัด เฉลิมพระเกียรติสูงสุด
พสกนิกรชาวกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงล้นหลาม ด้วยความจงรักภักดี ปีติเฝ้ารอรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯเสด็จฯทรงประกอบพระราชกรณียกิจครั้งแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 ทรงเปิดศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่ บางคนมาจับจองที่ตั้งแต่เช้าเพื่อรอชื่นชมพระบารมี ด้านกองทัพเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติยิ่งใหญ่ นายกฯชื่นชมในหลวงพระองค์ใหม่ทรงเจริญรอยตามพระบรมชนกนาถสนับสนุนด้านการศึกษา ศตส.เผยวันที่ 12 ธ.ค.นี้กลุ่มชนเผ่าชาติพันธุ์ที่เคยพึ่งพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 จำนวน 4 พันคนจะเข้าสักการะพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ‘ฮุนมานี’ลูกชายสมเด็จฮุนเซนบินมาไทยลงนามถวายไว้อาลัยและเข้า สักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9
บำเพ็ญกุศลพระบรมศพวันที่ 57
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. พล.ร.อ. ม.ร.ว.พันธุม ทวีวงศ์ เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดำเนินเป็นวันที่ 57 วางพวงมาลา ถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดสุทัศนเทพวราราม ที่สวดพระอภิธรรม มาตั้งแต่ค่ำวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 11.00 น. ม.ร.ว.เทพกมล เทวกุล เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ และถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
สักการะ3.2ล้านคน-บริจาค107ล.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันที่ 40 ที่พระ ราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อคิว เพื่อเข้า สักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ โดยในเวลา 04.50 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชน เข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในเวลา 23.55 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 48,375 คน รวม 39 วัน มี 1,408,753 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นยอดเงิน 3,276,177.25 บาท รวม 39 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 107,595,980 บาท
สมาชิกราชสกุลร่วมเป็นเจ้าภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สมาชิกราชสกุลทุกมหาสาขา และราชนิกุล ในพระบรมราชจักรีวงศ์ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ โดยมีราชสกุลกำภู ราชสกุลจักรพันธุ์ ราชสกุลภาณุพันธุ์ ราชสกุลจิตรพงศ์ ราชสกุลนพวงษ์ ราชสกุลสุประดิษฐ์ ราชสกุลกฤดากร ราชสกุลศุขสวัสดิ์ ราชสกุลทวีวงศ์ ร่วมเป็นเจ้าภาพ
พล.ท.กิตต์พงษกร นพวงศ์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการราชสกุลนพวงศ์ ที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลถวาย เปิดเผยว่า ตนเคยเป็นราชองครักษ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527-2554 ตามเสด็จในถิ่นทุรกันดารในทุกภูมิภาคของประเทศ ได้เห็นในหลวง ร.9 ทรงงานหนัก ซึ่งตนก็ได้ถวายงานด้วยการรับผิดชอบโครงการพระราชดำริใน 25 จังหวัดของภาคอีสานด้วย
“ผมเป็นทหารพัฒนาพื้นที่ที่ในหลวง ร.9 ทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้ดูแลด้านเศรษฐกิจพอเพียงที่ภาคอีสาน ในหลวงทรงรับสั่งในการทำงานด้วยว่า ต้องทำให้ราษฎรได้พออยู่พอกิน มีเหลือก็จำหน่ายหรือแลกเปลี่ยน และเลี้ยงชีวิตตนเองได้ ที่สำคัญก็คือ ต้องทำบัญชีฟาร์ม บัญชีครัวเรือน ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเน้นย้ำอยู่เสมอจนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อให้ราษฎรได้รู้ฐานะทางการเงินของตนเอง” พล.ท.กิตต์พงษกรกล่าว
ธิดาอดีตเลขาฯพระราชวังเปิดใจ
ม.ล.ถวัลย์วดี ทวีวงศ์ อายุ 82 ปี ธิดาของ ม.ร.ว.เฉลิมลาภ ทวีวงศ์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพระราชวัง ผู้อำนวยการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นคนแรกในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 และดำรงตำแหน่งองคมนตรี ในยุคนั้น เปิดเผยว่า คุณพ่อได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทตนรู้สึกซาบซึ้งและเป็นบุญแก่ราชสกุลอย่างยิ่ง อีกทั้งด้วยตัวเองเคยได้เป็นผู้ถวายเครื่องเสวยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้ได้เห็นพระราชจริยวัตรของพระองค์ว่าทรงเป็นผู้ที่คิดเร็ว ทำเร็ว และทรงมีกฎระเบียบ
ขณะที่บุตรสาว นางนันทนี ทวีวงศ์ฯ อายุ 56 ปี เผยเพิ่มเติมว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในหลายๆ ด้าน นอกจากโครงการในพระราชดำริต่างๆ กว่า 4 พันโครงการแล้ว ยังทรงเป็นศิลปินนักวาดภาพ ฉายพระรูป และทรงดนตรี ซึ่งตัวเองในฐานะที่ทำงานด้านศิลปะ ก็รับรู้ได้ว่าพระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพมากๆ เพราะพระองค์จะทำสิ่งใดจะทรงศึกษาอย่างจริงจัง และรู้ลึกทุกอย่าง ทั้งนี้ เพราะพระองค์จะทรงมีสมาธิในการทรงงานทุกอย่าง รวมถึงทรงมีธรรมะ มีบารมีสูง และนำหลักธรรมนั้นมาสอนประชาชนด้วยการปกครองประเทศ
ราชสกุลจักรพันธุ์สำนึกพระคุณ
นางนันทมาลี ภิรมย์ภักดี และนางอรพิมพ์ ปลื้มอารมณ์ สมาชิกราชสกุลจักรพันธุ์ ที่มาร่วมบำเพ็ญกุศลถวาย กล่าวว่า ราชสกุลจักรพันธุ์มีทั้งหมด 7 สาย พวกเราเป็นสายของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ผู้ประพันธ์เนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 28 เพลง จากทั้งหมด 48 เพลง อาทิ เพลงแสงเทียน เพลงพระราชนิพนธ์อันดับแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงเพลงยามเย็น เพลงพรปีใหม่ อีกทั้งยังทรงงานเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นองคมนตรีรับใช้เบื้องพระยุคลบาทจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ ท่านตาจึงได้รับใช้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมาก
นางนันทมาลีกล่าวด้วยว่า พวกเราในราชสกุลจักรพันธุ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง ร.9 โดยหลายคน ซึ่งลูกหลานทุกคนจะได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากพระองค์ท่าน และได้พระราชทานพรหลักการใช้ชีวิตคู่ที่เราได้นำมาปฏิบัติใช้ว่า “หากคนหนึ่งร้อน ให้อีกคนหนึ่งเย็น ในวันข้างหน้าหากมีปัญหาให้นึกถึงวันนี้ วันที่มีความสุขที่สุด” ทำให้ชีวิตคู่เราประสบความสำเร็จและมีความสุข นอกจากนี้ยังนำหลักคำสอนของพระองค์เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ความเพียร และการไม่เกี่ยงงานมาใช้ในชีวิตการทำงานด้วย
กองทัพจัดเฉลิมพระเกียรติ
ต่อมาเวลา 10.30 น. ม.ร.ว.เทพกมล เทวกุล เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งสมาชิกราชสกุลทองใหญ่ ราชสกุลเกษมสันต์ ราช สกุลกมลาสน์ ราชสกุลเกษมศรี ราชสกุลศรีธวัช ราชสกุลทองแถม ราชสกุลชุมพล และราชสกุลเทวกุล ในสายรัชกาลที่ 4 ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกองทัพจะจัดกิจกรรมเฉลิมพระ เกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ว่า ทางกองทัพกำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ กิจกรรม ดังกล่าวจะต้องหารือกันเพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพราะประเทศไทยอยู่ในช่วงการ ไว้ทุกข์
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทหารทุกคนต่างปีติยินดีต่อพระองค์ท่าน และอยากให้ประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป จะไม่มีไม่ได้ เพราะจะต้องมีไว้เพื่อเป็นหลักของประเทศ ขณะเดียวกันสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ดูแลประเทศไทยมาโดยตลอด ดังนั้นอยากให้ทุกคนต้องเข้าใจตามนี้
‘วิษณุ’ปีติคุณธรรมรัชกาลที่ 9
ที่หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล จ.นครปฐม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ในหัวข้อ “เรื่องเล่าของพ่อ ขอทำดีเพื่อแผ่นดิน” ตอนหนึ่งว่า วันนี้คนไทยยังอยู่ในช่วงของความโศกเศร้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นแบบอย่างของความสุจริต โดยในปี 2499 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้รับสั่งว่า การจะทำกิจอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จขอให้ยึดหลัก 4 อย่าง 1.ความอุตสาหะพากเพียร 2.ซื่อสัตย์สุจริต 3.มีใจเมตตากรุณา 4.บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ ถ้าผู้ใดทำแล้วจะทำงานยากงานใหญ่ก็จะประสบความสำเร็จ ทรงมีพระราชดำรัสและทรงปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่างอยู่ตลอด
นายวิษณุกล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงระมัดระวังการใช้คำพูดมาก อย่าทุจริตคอร์รัปชั่นจะไม่ใช้คำนี้ แต่จะใช้ว่าจงประพฤติให้สุจริต เมื่อจะรับสั่งว่าอย่าโลภกอบโกย จะใช้คำว่าจงอยู่อย่างพอเพียง เมื่อจะรับสั่งกับโจรจะไม่ใช้คำว่าอย่าไปปล้น แต่จะเลือกใช้คำที่มีนัยยะเดียวกัน ถือเป็นคุณธรรมที่ชนะเลิศทุกอย่าง เพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญ โดยการต่อต้านการทุจริตเราจึงเห็นได้ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำไว้นานทุกอย่างหลายปีแล้ว
พระเจ้าแผ่นดินที่ไม่มีวันหยุด
“การที่ภาคประชาชนภาครัฐจับมือกันเดินตามรอยพ่อ เดินตามคำสอนพ่อ ก็เป็นการทำเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตามเจตนารมณ์ของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งแผ่นดินในที่นี้พระองค์ไม่ได้หมายถึงพื้นดิน แต่หมายถึงประชาชน จะเห็นได้จากการทรงงานของพระองค์ทรงทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนมาโดยตลอด การทรงงานของพระองค์จะมีตัวตั้งอย่างเดียวคือมีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาพระองค์มีความซื่อสัตย์สุจริตในพระราชอัธยาศัยในทุกเรื่อง พระองค์ไม่เคยคิดออกนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่เรื่องเดียว” นายวิษณุกล่าว
นายวิษณุกล่าวต่อว่า ขณะที่ตนเป็นเลขาธิการครม.จำเป็นต้องนำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ฯ แต่ติดตรงวันเสาร์-อาทิตย์ เกรงว่าจะรบกวนพระองค์ท่าน แต่เมื่อความรู้ถึงพระองค์ท่านรับสั่งว่าให้รีบเข้าเฝ้าฯ และหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว พระองค์ท่านทรงกระซิบกับนายกรัฐมนตรีว่าประเทศไทยขอให้ทุกคนรู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ ถ้ามีเรื่องที่จำเป็นต้องมาปฏิญาณก็ต้องมา เพราะหากไม่มาปฏิญาณมันทำงานไม่ได้ ประชาชนและปัญหาของประเทศรออยู่ อย่าเอาตัวฉันเป็นอุปสรรค พระองค์ท่านทรงคิดถึงแต่ผู้อื่น
4พันชาติพันธุ์ชนเผ่าเข้าสักการะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงผลประชุมศตส. ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพพบว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางมาจำนวนมากประมาณ 30,000-50,000 คน ส่งผลให้ต้องรอคิวเป็นเวลานาน ศตส.ขอแนะนำว่าประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานให้เดินทางมาในช่วงบ่าย เพราะจะใช้เวลาในการรอคิวไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนเดินทางเข้าไปในพระบรมมหาราชวังได้โดยใช้เวลาไม่นาน ถ้าประชาชนมารอพร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่ช่วงเช้า อาจทำให้ต้องรอเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทั้งนี้วันที่ 12 ธ.ค.นี้ ที่กลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าต่างๆ กว่า 4,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ทรงเคยดูแลความเป็นอยู่ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ ซึ่งต้องการจะเดินทางมาถวายความอาลัย รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทางศตส. จะสนับสนุนให้จัดกิจกรรมดังกล่าวด้วย
ให้รอมติครม.กำหนดวันหยุดปี 60
รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับภาคประชาชนหรือองค์กรที่ต้องการจะจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ท้องสนามหลวงนั้น ต้องเป็นการจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเท่านั้น ห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อขายของที่ระลึกหรือแจกเครื่องรางของขลังใดๆ หากเป็นในส่วนของกระทรวงขอให้กระทรวงนั้นๆ พิจารณากลั่นกรองและให้ความเห็นว่าจะจัดได้หรือไม่ แล้วมาแจ้งยังคณะอนุกรรมการของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พิจารณาว่าจะอนุญาตให้จัดได้หรือไม่ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่มาจากต่างจังหวัดก็ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาให้เห็นชอบก่อนจะส่งมาที่คณะอนุกรรมการของกอร.รส.เช่นกัน สำหรับภาคประชาชนที่ต้องการจะจัดกิจกรรมก็ให้แจ้งมาที่กอร.รส.โดยตรง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกภาค ทั้งทีมแพทย์ กู้ภัย อาสาสมัคร พร้อมช่วยเหลือดูแลประชาชนที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพอย่างเต็มที่อยู่ตลอด
นายสุวพันธุ์กล่าวถึงความคืบหน้าการกำหนดวันสำคัญเพิ่มเติมประจำปี 2560 ว่า ต้องหารือหลายฝ่าย สุดท้ายให้รอฟังจากมติ ครม.ที่จะทยอยออกมา จึงขอให้รอมติครม.ก่อน
ปีติ‘ในหลวงร.9’กับการศึกษา
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคนด้วยการศึกษาเป็นอย่างมาก ทรงพัฒนาด้านการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียนมาตลอด เพื่อให้การศึกษาแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
แม้แต่ผู้ที่ด้อยโอกาส และสถานที่ห่างไกล ทั้งที่เป็นชาวไทยภูเขาหรือประชาชนที่อยู่ ในท้องถิ่นชายแดนห่างไกลการคมนาคม โดยการพระราชทานพระราชทรัพย์ร่วมสร้างโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อสอนหนังสือให้แก่ประชาชนเหล่านั้น โดยพระราช ทานนามว่าโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ ทรงสร้างโรงเรียนร่มเกล้า ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร และในพื้นที่ปฏิบัติการของผู้มีอุดมการณ์ทางการเมือง ทรงตั้งโรงเรียนราชประชาสมาสัย สำหรับบุตรธิดาของผู้ป่วยเป็นโรคเรื้อน ได้มีโอกาสได้เรียนและไม่ถูกรังเกียจ และอีกหลายๆ โรงเรียนนะครับ ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย และยกระดับคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทย
‘ในหลวงร.10’เจริญรอยตาม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ทรงน้อมนำศาสตร์พระราชาแห่งองค์สมเด็จพระบรมชนกนาถ ทรงทราบดีว่าเยาวชนในถิ่นทุรกันดารยังด้อยโอกาสในการศึกษา โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร 6 แห่งซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก่อตั้งขึ้นไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่ โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภาในจ.นครพนม กำแพงเพชร และสุราษฎร์ธานี และโรงเรียนมัธยมสิริวัณณวรี ในจ.อุดรธานี สงขลา และฉะเชิงเทรา และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์ ด้วยพระองค์เอง
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาอันทันสมัยเช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ วีดิทัศน์ พระราชทานคำแนะนำ และทรงส่งเสริมให้โรงเรียน ดังกล่าว ดำเนินโครงการอันเป็นประโยชน์แก่นักเรียน เช่น โครงการอาชีพอิสระ เพื่อให้เยาวชนใช้ความรู้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัวได้เมื่อจบการศึกษา ทั้งนี้ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน และทรงติดตามผลการศึกษา รวมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้พระราชธิดาทั้งสองพระองค์ ได้ทรงร่วมกิจกรรมของโรงเรียนต่างๆ อยู่เสมอ
ทอ.แสดงความอาลัยบนดอย
ที่พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ บนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. เป็นประธานพิธีแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ลูกจ้าง พนักงานราชการ ทหารกองประจำการ ในสังกัดกองทัพอากาศ สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ นักเรียนและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ทั้งนี้ พล.อ.อ.จอม ยังมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในพื้นที่ดอยอินทนนท์ และจัดกิจกรรมบรรเทาภัยหนาว โดยมอบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและเครื่องกันหนาวให้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วย
พล.อ.อ.จอม กล่าวว่า กองทัพอากาศ จัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำทุกปี พระมหาธาตุ 2 องค์นี้เป็นพระมหาธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของประเทศ ถือเป็นมงคลของชาติอีกทั้งกองทัพอากาศได้จัดสร้าง 2 พระมหาธาตุนี้ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยกองทัพอากาศจะดูแลพระมหาธาตุ 2 องค์ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้อยู่คู่กับประเทศต่อไป เพราะถือเป็นสัญลักษณ์และอนุสรณ์ที่แสดงถึงความผูกพันระหว่างกองทัพอากาศและพระองค์ รวมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ลูกชายฮุนเซนลงนามถวายอาลัย
เมื่อเวลา 10.00 น. นายฮุน มานี สมาชิกสภาแห่งชาติ จังหวัดกัมปงสปือ ราชอาณาจักรกัมพูชา และบุตรชายนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในสมุดหลวง ณ ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง
เวลา 16.30 น. ม.จ.เวียงวัฒนา ชยางกูร ทรงเป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
ในการนี้มีสมาชิกราชสกุลสวัสดิกุล ราชสกุลจันทรทัต ราชสกุลชยางกูร ราชสกุลวรวรรณ ราชสกุลดิศกุล ราชสกุลโสณกุล ราชสกุลไชยันต์ ในสายรัชกาลที่ 4 สมาชิกราชสกุลภาณุมาศ ในสายพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุมาศ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมาชิกราชสกุลสายสนั่น ในสายพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสนั่น พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมาชิกราชสกุลหัสดินทร ในสายพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบริรักษ์นรินทรฤทธิ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมด้วย
พสกนิกรเฝ้าฯรอรับเสด็จร.10
เมื่อเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศประชาชนชาวจังหวัดกระบี่และใกล้เคียง เฝ้ารอรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่เสด็จฯมาทรงเปิดศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ปรากฏว่าประชาชนทยอยเดินทางมาเฝ้ารอที่ริมทางเท้า ตั้งแต่บริเวณแยกหน้าลานประติมากรรมปูดำ ไปจนถึงบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามศาลากลางจังหวัด ถนน อุตรกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ อย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างปลื้มปีติยินดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสมารอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่เสด็จฯมาประกอบพระราชกรณียกิจเป็นจังหวัดแรก บางคนมารอรับเสด็จตั้งแต่เวลาตี 3
ขณะที่ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงได้เดินทางมาล่วงหน้าหนึ่งวัน โดยมานอนพักที่บริเวณหน้าศาลากลาง พร้อมเตรียมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และธงชาติไทยไว้รับเสด็จ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดระเบียบและดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมน้ำดื่มไว้คอยบริการประชาชนที่มารรอรับเสด็จด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหลายกองร้อย คอยดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณประตูรั้วทางเข้าบริเวณโดยรอบศาลากลางอย่างเข้มงวด
จงรักภักดีเทิดทูนทุกพระองค์
นางบรรจบ คงสุข อายุ 57 ปี ชาวต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ กล่าวว่าเดินทางมารอรับเสด็จตั้งแต่เวลาตี 3 เพื่อมารอรับเสด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ด้วยความจงรักภักดี และรักเทิดทูนพระองค์ท่านเช่นเดียวกันกับพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์
นางมาลี สุขเจริญ อายุ 67 ปี ชาวอ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานีกล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นที่สุดที่ได้มีโอกาสรับเสด็จ โดยเดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เมื่อคืนมานอนรอ อยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลาง มีเจ้าหน้าที่ทหารคอยอำนวยความสะดวกเรื่องที่นอน ซึ่งวันนี้ได้เตรียมพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 พร้อมธงชาติไทยมารอรับเสด็จด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จฯยังจังหวัดกระบี่ในครั้งนี้ จังหวัดกระบี่ได้เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายเรือหัวโทงจำลอง ชื่อ“ปกาสัย”ทำจากฝีมือของกลุ่มผลิตเรือหัวโทงจำลอง ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อเทิดพระเกียรติยศด้วย
เสียง‘ทรงพระเจริญ’กึกก้อง
เมื่อเวลา 19.20 น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จโดยเครื่องบินพระที่นั่งถึงที่สนามบินนานา ชาติจังหวัดกระบี่ ทรงตรวจแถวทหารเกียรติยศ จากนั้น เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากสนามบินนานาชาติกระบี่ ผ่านเส้นทางถนนเพชรเกษม ซึ่งมีพสกนิกรชาวกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงรอรับเสด็จตลอดทั้งสองฝั่ง และผ่านถนนศรีตรัง-ถนนอุตรกิจ สามแยกตลาดเก่า-ลานประติมากรรมปูดำ และ เข้าสู่พลับพลาที่ประทับหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่หลังใหม่ ระหว่างนั้นพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียงต่างพร้อมใจเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” อย่างกึกก้อง
ลำดับต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินเข้าไปสักการะศาลหลักเมือง และทรงวางพวงมาลาพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่า เสร็จแล้ว นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กราบบังคมทูลรายงาน ทรงประกอบพิธีเปิดศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
