ตร.ไกล่เกลี่ย 2ฝ่าย วิวาห์ล่ม “คิน” โอด 6แสน ไม่ไหว-มี 6หมื่น อาเจ้าบ่าวยันแพงไป “พ่อมะนาว”ตั้งทนาย ฟ้องเรียกค่าเสียหาย บิ๊กอวบสั่งเจ้าหน้าที่ สอบอย่างเป็นธรรม

ตร.จับ 2 ฝ่ายคุยไกล่เกลี่ยวิวาห์ล่ม ยันให้ความเป็นธรรมทั้งคู่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ รองผบ.ตร. ชี้หาก “สาวมะนาว”คิดว่าเสียหาย มีสิทธิฟ้องร้องทางแพ่งได้ ส่วนกรณีพิสูจน์ลูกในท้อง ต้องให้ผู้หญิงยินยอมด้วย ขณะที่อา “หนุ่มคิน” ยอมรับหลานทำผิด พร้อมจ่ายค่าสินสอด 6 หมื่น แต่ค่าเสียหายจากงานแต่งล่ม 6 แสน ต้องเจรจากัน เพราะครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ด้านพ่อมะนาวลั่นไม่เอาเงินสินสอด ตั้งทนายจัดการเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว

จากเหตุการณ์ วิวาห์ล่ม น.ส.มะนาว อายุ 26 ปี พนักงานสาวโชว์รูมรถยนต์ เตรียมเข้าพิธีแต่งงานกับนายคิน หนุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ปี แต่ปรากฏว่าฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอมมาเข้าพิธี สร้างความอับอายเสียชื่อแก่เจ้าสาวและญาติพี่น้อง ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายไปเผชิญหน้าในรายการทีวี ตอบโต้เถียงกันดุเดือดและแฉกันไปมา โดยฝ่ายหญิงยืนยันว่าท้อง 2 เดือน ส่วนฝ่ายชายไม่มั่นใจว่าใช่ลูกของตนเอง และยืนยันว่าหมดกันไปแล้ว อีกทั้งฝ่ายชายยอมรับทำผิดพลาด และมีแฟนสาวอีกคน ขณะที่ น.ส.มะนาว และญาติแจ้งความตำรวจ เรียกร้องค่าเสียหาย 600,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่ากำชับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ราชบุรี ให้ทำหน้าที่เป็นคนกลางเจรจาให้จบด้วยดี ให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายนายคิน และน.ส. มะนาว หากพบมีความผิดคดีอาญาต้องดำเนินคดีไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า โดยพนักงาน สอบสวนจะต้องพิจารณาด้วยว่า มีการทำสัญญา แต่งงานเป็นลายลักษณ์อักษร หรือ แค่สัญญาใจ ส่วนฝ่ายเจ้าสาวหากคิดว่า เสียหาย มีสิทธิฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่า เสียหายกับฝ่ายเจ้าบ่าวได้ เช่น ค่าจัดงานแต่ง ขณะที่ฝ่ายเจ้าบ่าวหากยืนยันว่าได้ป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนมีสัมพันธ์กัน ก็ต้องนำ หลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนการพิสูจน์ลูกในครรภ์นั้นต้องให้ฝ่ายเจ้าสาวยินยอมด้วย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายคิน และอาของนายคินที่บ้านพัก โดยภายในบ้านพบรถเก๋งของ น.ส.แอมมี่ แฟนสาว นายคินด้วย จากการสอบถามอานายคินระบุว่า ยอมรับว่านายคินทำผิด จะนัดไกล่เกลี่ยกับครอบครัว น.ส.มะนาว ขอเจรจาเรื่องค่าสินสอดและค่าเสียหายจากงานแต่ง โดยในส่วนเงินค่าสินสอด 60,000 บาท ที่ตกลงกับครอบครัวฝ่ายหญิงนั้น ยินดีจ่ายให้ทั้งหมด

อานายคินกล่าวต่อว่า ส่วนค่าเสียหายจากการจัดงานแต่งงานแล้วล่ม จำนวน 600,000 บาทนั้น คงต้องเจรจากันอีกครั้ง เนื่องจากครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยมีเงินทองมากมาย ยังต้องใช้เงินสำหรับต่อเติมบ้าน โดยก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกับ น.ส.มะนาว แล้วว่า หากจะจัดงานแต่ง ให้จัดงานเล็กๆ ไม่ต้องใหญ่โตมาก จะได้ไม่ฟุ่มเฟือย เพราะครอบครัวไม่มีเงินทองมาก โดยย้ำเตือนเรื่องนี้ตลอด อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่าจะ ไกล่เกลี่ยและชดใช้ค่าเสียหาย เพื่อให้เรื่องจบโดยเร็วอย่างแน่นอน

ด้านพ่อน.ส.มะนาวกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะในวันที่ครอบครัวฝ่ายชายมาสู่ขอนั้น ผู้ใหญ่ก็มาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ตกลงค่าสินสอด ไม่มีท่าทีขัดขืน นายคินมีสีหน้านิ่งเฉย เข้าใจว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ไม่นึกว่าจะทำแบบนี้ ไม่รักษาคำพูด เงินที่นำมาจัดงานแต่งงาน ก็ไปกู้คนที่รู้จักมาจำนวนหนึ่ง ตอนนั้นคิดว่าหากจบงานแล้วจะนำมาคืน แต่งานดันมาล่มเสียก่อน สาเหตุที่ต้องยืม เพราะครอบครัวไม่ได้มีเงินมากมาย ทำงานรับจ้างทั่วไป

พ่อน.ส.มะนาวกล่าวต่อว่า ส่วนค่าเสียหาย นั้น ครอบครัวมีทนายเข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ให้ ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายจัดการ และ ที่ครอบครัวฝ่ายชายบอกว่าจะให้ค่าสินสอดที่เตรียมไว้ทั้งหมด 60,000 บาทนั้น ขอไม่เอา เพราะหากอยากจะให้ คงจะให้นานแล้ว ขอให้ไปชดใช้ในเรื่องค่าเสียหายงานแต่งล่ม จะดีกว่า และที่บอกว่าไม่มั่นใจว่าลูกของมะนาวไม่ใช่ลูกตนเองนั้น อยากบอกว่าเวรกรรมมีจริง คิดดีก็ได้ดี คิดชั่วก็ได้ชั่ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน