ศิษย์ ครูวิภา ติดต่อกลับแค่ 3 คน เปิดปาก ไม่คิดจะร้ายแรง งง ทำไมครูกล้าค้ำ 60 คน

จาก กรณี น.ส.วิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร ถูกยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด ซึ่งเป็นผลจากการค้ำประกันหนี้ กยศ. ให้กับนักเรียน ซึ่ง ครูวิภา ได้เซ็นค้ำประกันหนี้ กยศ. ให้กับนักเรียนมากถึง 60 ราย ปรากฎว่า ลูกศิษย์จำนวน 23 ราย ไม่ชำระหนี้เงินกู้ให้กับกยศ. จนทำให้ศาลฟ้องยึดทรัพย์ครูดังกล่าวนั้น

อ่าน โซเชี่ยลประกาศล่าลูกศิษย์ เบี้ยวหนี้ กยศ. กินหรูอยู่สบาย ทำครูวิภา โดนยึดทรัพย์!

ล่าสุดพบว่า หลังจากมีข่าวออกไป ปัจจุบันมีลูกศิษย์ติดต่อมาหาตนเพียง 3 คน จากทั้งหมด 17 คน โดยอีก 14 คน ยังไม่สามารถติดต่อได้ สำหรับ 3 คน

โดยมีหนึ่งในลูกศิษย์ ของครูวิภา น.ส.วาสนา ได้เปิดเผย ความรู้สึกหลังจากทราบข่าว ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวครูวิภาแล้ว ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (19 ก.ค.) ครูได้ติดต่อมาให้ตนเข้าไปเช็กยอดชำระหนี้ ซึ่งทราบว่าทาง กยศ. ไม่ให้ทยอยจ่ายแล้ว แต่ให้ปิดบัญชีโดยจ่ายคืนทั้งหมด ซึ่งตนติดหนี้ กยศ. รวมดอกเบี้ย จำนวน 15,000 บาท โดยกู้ตั้งแต่เรียนชั้น ม.4 ที่ จ.กำแพงเพชร จากการเช็กยอดเงินต้นที่กู้จำนวน 11,000 บาท และตนกู้เพียงเทอมเดียวเท่านั้น

โดยครูวิภา บอกตนว่าโดนบังคับยึดทรัพย์ ต่อมาวันรุ่งขึ้นครูไปออกทีวี ตนก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ ซึ่งทราบว่าครูเซ็นค้ำประกันให้ศิษย์กู้ กยศ. ถึง 60 คน ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็ก ตนก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ตนก็คิดว่าเหตุใด ทำไมครูถึงกล้าค้ำให้เด็กถึง 60 คน

น.ส.วาสนา ยืนยันว่า ตนไม่คิดจะเบี้ยวจ่าย กยศ. ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างหาเงินมาปิดเต็มจำนวน ขณะที่ผ่านมา ตนไม่เคยรู้เรื่องนี้จากครู และไม่ได้ติดต่อครู ตนทราบว่าครูโดนฟ้องตั้งแต่ปี 2550

น.ส.วาสนา กล่าวว่า เมื่อเช้าตนได้โทรศัพท์ไปหาครูแล้ว แต่ครูไม่ได้รับสาย ตนคิดว่าคงยุ่งอยู่ ทั้งนี้ คุณวาสนากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “หนูเสียใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้” อีกทั้งตนก็เห็นข่าวที่ครูวิภาก็ปกป้องลูกศิษย์เหมือนกัน ซึ่งตอนนี้ตนก็จะต้องหาเงินมาปิดยอดเงินกู้ 15,000 บาทให้ได้ ซึ่งตอนนี้ตนทำงานอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร

น.ส.วาสนา กล่าวต่อว่า ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนที่กู้ กยศ. ผ่านทางไลน์ และวันนี้เพิ่งคุยกันหลายคน ซึ่งก็บอกว่าจะหาเงินไปปิดยอดเหมือนกัน ซึ่งตนก็ติดต่อเพื่อนได้เพียง 2-3 คนเท่านั้น

ด้าน น.ส.เกษศินี ลูกหนี้ กยศ. และครูวิภาค้ำประกันให้ โดยเปิดเผยว่า ตัวเองรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าวได้มีการติกต่อครูวิภาเพื่อจะโอนเงินคืนแล้ว โดยยอดหนี้ประมาณ 18,000 บาท เป็นการกู้ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปี 2541 ทั้งนี้ ไม่คิดว่าเรื่องจะรุนแรงขนาดนี้ ตนไม่ได้คิดจะหนีหนี้ แต่ช่วงที่เปลี่ยนงาน จึงยังไม่ได้ชำระ อย่างไรก็ตาม การทวงหนี้นั้น ตนคิดว่าควรจะมาทวงที่คนกู้ ไม่ใช่ไปยึดทรัพย์คนที่ค้ำประกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน