ญาตินร.คาใจ-ผลสอบ ครูปาแก้วโดนโทษเบา

ญาติโวยผลสอบครูปาแก้ว แค่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง รู้สึกผิดหวัง-เสียใจมาก ชี้หากจะมีความ ผิดขั้นร้ายแรง ต้องถึงขั้นให้นักเรียนเสียชีวิตเลยมั้ย เผยแม่น.ร.สาวเครียดจัด-ป่วยความดัน ส่วนคกก.ระบุครู เขวี้ยงแก้วใส่น.ร.จริง แต่ไม่มีเจตนาโยนให้ถูก โดยมีพยานเป็นน.ร.หลายคนในห้องยืนยัน ครูโยนแก้วโดนขอบผนังหน้าต่าง ก่อนกระเด็นไปโดนหัวน.ร.สาว ระบุโทษความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ไปจนถึงลดขั้นเงินเดือน เตรียมส่งผลให้โรงเรียนต้นสังกัดทราบ เพื่อตั้งคกก.พิจารณาโทษทางวินัยใน 15 วัน แต่ยังให้ครูไปช่วยราชการตามเดิม

จากกรณีน.ส.นฤดี จอดสันเทียะ หรือน้องทราย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโชคชัยสามัคคี อ.โชคชัย จ.นครราช สีมา ถูกนายไพฑูรย์ แกลงกระโทก อายุ 58 ปี ครูวิชาพลศึกษา ปาแก้วถูกกกหู กระทบเส้นประสาทคู่ที่ 7 ส่งผลให้ใบหน้าเสียโฉม ปากเบี้ยว ตาซ้ายปิดไม่สนิท

ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 มีคำสั่งย้ายนายไพฑูรย์ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมืองนครราชสีมา โดยประธานสอบแย้มผลส่อผิดไม่ร้ายแรง เหตุไม่ได้ตั้งใจและไม่ลุแก่อำนาจ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 นครราช สีมา เปิดเผยว่า สำหรับผลการสอบสวนเชื่อว่านายไพฑูรย์ได้โยนแก้วน้ำใส่กลุ่มนักเรียนจริง แต่ไม่มีเจตนาโยนไปถูกตัวน.ส.นฤดี ซึ่งพยานที่เป็นเพื่อนนักเรียนในห้องหลายคนยืนยันว่านายไพฑูรย์โยนแก้วน้ำไปถูกขอบผนังหน้าต่าง ก่อนจะกระเด็นไปถูกศีรษะของน.ส.นฤดี เบื้องต้นคณะกรรมการสอบสวนวินัยสรุปว่า นายไพฑูรย์มีความผิดตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553 มาตรา 94 ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน มิให้เสื่อมเสีย โดยไม่กระทำการใดๆ อันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว แต่เป็นความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง

นายชูเกียรติกล่าวอีกว่า หลังจากนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัยจะนำผลสรุปเบื้องต้นส่งไปให้ว่าที่ร.ต.นิพนธ์ ภักดีแก้ว ผอ.โรงเรียนโชคชัยสามัคคี เพื่อดำเนินการตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษความผิดทางวินัย ซึ่งบทลงโทษความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีโทษตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ไปจนถึงลดขั้นเงินเดือน โดยให้สรุปผลการพิจารณาโทษให้ต้นสังกัดรับทราบภายใน 15 วัน

แต่ขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 31 ยังคงมีคำสั่งย้ายนายไพฑูรย์ไปช่วยราชการที่โรงเรียนบุญวัฒนาอย่างไม่มีกำหนด เพราะต้นสังกัดต้องพิจารณาเรื่องผลกระทบจากเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกครั้ง ถึงจะมีคำสั่งแน่ชัดว่าจะสั่งย้ายขาดนายไพฑูรย์ไปอยู่ที่โรงเรียนอื่น หรือจะให้ย้ายกลับไปทำงานตามเดิม ส่วนนายไพฑูรย์ยังคงเครียดจัดและขออนุญาตลาพัก จึงสั่งให้เพื่อนครูที่คุ้นเคยคอยให้คำปรึกษา เพื่อลดแรงกดดันทางสังคม

วันเดียววัน ที่ร.พ.ยันฮี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาน.ส.นฤดี เข้าพบนพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร ร.พ.ยันฮี อีกครั้งหนึ่ง ก่อนนพ.ศุภวัฒน์ วราพรมงคลกุล ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมจะรักษาอาการหน้าเบี้ยว

นพ.สุพจน์เปิดเผยว่า สำหรับอาการของน้องทรายได้รับผลกระทบถึงเส้นประสาท จนใบหน้าเบี้ยวไม่สามารถหลับตาได้สนิท โรงพยาบาลเตรียมส่งน้องทรายไปสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง เพื่อตรวจดูว่าเส้นสมองและเส้นประสาทได้รับความกระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาประเมินการรักษา เบื้องต้นจากการส่องตรวจพบว่าสภาพตาและหูปกติ คาดได้รับผลกระทบกล้ามเนื้อเส้นประสาทเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้านนางมัชฌิมา สุแพง อาของน้องทรายกล่าวว่า สำหรับผลสอบนายไพฑูรย์ ครูพละที่ปาแก้วใส่ ที่ออกมาว่าผิดวินัยไม่ร้ายแรง โดยเชื่อครูเขวี้ยงแก้วใส่นักเรียนจริง แต่ไม่มีเจตนาโยนให้โดนนั้น ผลสอบที่ออกมาทำให้ครอบครัวรู้สึกแย่และเสียใจมาก หากจะมีความผิดขั้นร้ายแรง ต้องถึงขั้นให้นักเรียนเสียชีวิตเลยหรือไม่ โดยตอนนี้แม่ของน้องทรายก็เครียดกับเหตุการณ์ทั้งหมด จนป่วยเป็นโรคความดัน