ปีใหม่เปิดวิ่งฟรี ทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่ 29 ธ.ค.59 ถึง 4 ม.ค.60 หวังลดจราจรติดขัด-อำนวยความสะดวกคนกลับบ้าน เตรียมยกเว้นทางพิเศษบูรพาวิถีด้วย ส่วนขาช็อปเฮ! รัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติ 14-31 ธ.ค. รวม 18 วัน ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-ไม่เกินคนละ 15,000 บาท หวังเงินสะพัด 2 หมื่นล้านบาท แต่ยกเว้นสินค้าจำพวกเหล้า บุหรี่ ไวน์ รถยนต์-จยย. ค่าน้ำมัน-ก๊าซ คสช.ขอความร่วมมือรถบรรทุกอ้อยหยุดวิ่งช่วงปีใหม่ หวังแก้รถติด-ลดอุบัติเหตุ
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงมาตรการช็อปช่วยชาติว่า ครม.เห็นชอบมาตรการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมาตรการนี้ส่งเสริมให้บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ มากขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการซื้อของขวัญ ที่พบว่านักท่องเที่ยวมีสัดส่วนการซื้อของขวัญมากถึงร้อยละ 25-30 ถือเป็นการกระตุ้นการซื้อมากขึ้น ส่วนการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสและ ปีใหม่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพบการ ท่องเที่ยวโครงการตามรอยพระบาท เช่น ดอยอ่างขาง ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยหลังประชุมครม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ผู้มีเงินได้ที่ซื้อสินค้าและบริการช่วงปลายปีในระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.2559 รวมเวลา 18 วัน ตามที่ได้ใช้จ่ายจริงและตามฐานภาษีของแต่ละบุคคล โดยไม่เกินคนละ 15,000 บาท ซึ่งผู้ใช้สิทธิต้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ขอจากผู้ค้าที่จดทะเบียนการค้าและเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีการค้าอย่างถูกต้อง โดยสินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษี ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ค่าเชื้อเพลิงที่รวมทั้งก๊าซ และน้ำมัน รวมทั้งค่าบริการที่จ่ายเป็นค่าสำหรับค่าไกด์นำเที่ยว ค่าที่พักที่จ่ายให้ผู้ประกอบการโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
นายกอบศักดิ์กล่าวอีกว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559 ทันที เนื่องจากประชาชนมีแรงจูงใจที่จะใช้จ่ายมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าจะสูญเสียรายได้จากภาษีประมาณ 3,200 ล้านบาท แต่จะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และยังส่งผลต่อการผลิตและการจ้างงานต่อเนื่องไปถึงต้นปี 2560 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าในปี 2560 จะออกมาตรการในลักษณะนี้อีกหรือไม่ เนื่องจากต้องประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปีหน้าก่อน
“กระทรวงการคลังรายงานว่าการใช้มาตรการนี้ในช่วงปลายปีก่อน มีผู้เข้าใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ประมาณ 1 ล้านคน ก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาตรการในปีนี้มีช่วงเวลาที่ยาวขึ้น จะทำให้ประชาชนมีเวลาตัดสินใจซื้อสินค้าได้ยาวนานขึ้นและส่งผลให้ใช้จ่ายมากขึ้น ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีและชดเชยการบริโภคที่ชะลอตัวก่อนหน้านี้” นายกอบศักดิ์กล่าว
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี และหมายเลข 9 วงแหวนรอบนอก กาญจนาภิเษก บางปะอิน-บางพลี ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 29 ธ.ค.59 ถึงเวลา 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค.60 รวม 7 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ และลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่าน ซึ่งดำเนินการเป็นประจำทุกปีในการยกเว้นค่าผ่านทางให้ประชาชน สำหรับทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะพิจารณาเรื่องยกเว้นเก็บค่าผ่านทางเช่นกัน
ที่กองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการคสช.มอบให้กกล.รส.ตั้งจุดอำนวยความสะดวก จุดบริการประชาชน ป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย ลดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ช่วงเดือนธ.ค.59-เม.ย.60 เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวอ้อยและมีการขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานน้ำตาล คสช.จึงเข้าไปจัดระเบียบรถบรรทุกอ้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้เส้นทางและป้องกันอุบัติเหตุ ด้วยการกำกับดูแลการบรรทุก โดยช่วงปีใหม่ผู้ประกอบการและสมาคมชาวไร่อ้อยภาคเหนือมีข้อตกลงร่วมกันงดขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงาน เพื่อลดความคับคั่งการจราจร
