จับธัมมชโยไม่คืบ “บิ๊กตู่” สั่งดีเอสไอ-ตำรวจห้ามให้ข่าวกรณีบุกจับพระธัมมชโยในวัดพระธรรมกายทำตามกฎหมาย “ไก่อู” เผยสาเหตุเกรงเป็นแรงกดดันรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไร้น้ำยา ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจค้นจับกุมได้ ‘ศรีวราห์’ ไม่ยืนยันเป็นเจ้าของเสียงคลิปหลุด แต่ชี้ศาลไม่รับเป็นหลักฐาน สั่งรองผบช.ภาค 1 สอบหาที่มาโดยด่วน ดีเอสไอแจ้งความโฆษกวัดพระธรรมกาย แถลงยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตร.ตั้งด่าน 7 จุดรอบวัดพระธรรมกาย สั่งดำเนินคดีผู้ต้องหาใช้เครื่องกีดขวางถนนสาธารณะ ตัวแทนวัดยื่นศาลขอถอนหมายค้น แต่ศาลยกคำร้อง

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการดำเนินการกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า จากนี้ไปกรุณาพูดหรือให้ข่าวเรื่องนี้ให้น้อยที่สุด ต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องของการดำเนินคดีตามขั้นตอนปกติทั่วไป เมื่อมีหมายศาล หมายเรียก หมายค้น หมายจับ ก็ต้องดำเนินการไปตามกติกา ตนไม่จำเป็นต้องย้ำหรือสั่งการอะไรเพิ่มเติม เป็นมาตรการต่างๆ ที่ทางฝ่ายกฎหมายและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาลต่างๆ เป็นผู้ดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรม ยืนยันว่าการตัดสินอะไรผิดหรือถูกเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะใช้ความรู้สึกในการตัดสินอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งใดก็ตามที่ละเมิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.ว่า หากมีการร้องขอให้กระทรวงมหาดไทยเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็พร้อมสนับสนุน แต่ขณะนี้ยังไม่มี

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า นายกฯแจ้งให้ที่ประชุมครม. ถึงการดำเนินคดีความกับพระธัมมชโย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลดการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อสังคมให้น้อยลงหรือหยุดพูด เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดเหมือนกับกรณีอื่นทั่วๆ ไป หากให้ข่าวอธิบายรายละเอียดจะเป็นแรงกดดันมาที่รัฐบาล และดูเหมือนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไร้น้ำยา ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายในการเข้าตรวจค้นและจับกุม จึงให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายเหมือนคดีอื่น และขอให้สื่อนำเสนอเรื่องนี้ให้น้อยลง หากไปกระพือข่าวมากจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้น

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีของพระธัมมชโยว่า จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของสำนวนการสอบสวน ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่รายละเอียดต่างๆ คงไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวน ขอให้ไปสอบถามจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เท่านั้น

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่าอยู่ในการประชุม เพื่อออกหมายค้นและจับกุมพระธัมมชโยว่า ไม่ขอยืนยันว่าคลิปดังกล่าวเป็นเสียงตนหรือไม่ แต่ตามหลักกฎหมายนั้น คลิปเสียงเป็นหลักฐานที่ศาลไม่รับฟัง อย่างไรก็ตาม ตนสั่งการให้พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.รองผบช.ภ.1 ตรวจสอบที่มาของคลิปดังกล่าวแล้ว เเต่ยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเข้าข่ายความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากทุกอย่างตน ทำไปตามหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการดิสเครดิตพล.ต.อ.ศรีวราห์หรือไม่ รองผบ.ตร.กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าไม่ทราบว่าคำว่า “ดิสเครดิต” แปลว่าอะไร

ที่กองปราบปราม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พร้อมด้วยทีมกฎหมายเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศรสุพรรณ อดทนศรีอนันต์ รองสว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายกับพวก ในข้อหาผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต โดยยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง พร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายองอาจแถลงจุดยืนของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั้งหมด 9 ข้อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) จึงมากล่าวโทษนายองอาจและผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำเอกสารต่างๆ ที่เป็นหลักฐานมามอบให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณาด้วยว่า นอกจากข้อกล่าวหาที่แจ้งดำเนินคดีไว้แล้ว ยังมีคดีเข้าข่าย ความผิดอื่นใดอีกหรือไม่

พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทนายความของวัดพระธรรมกายเข้ายื่นเรื่องต่อศาลอาญา เพื่อขอเพิกถอนหมายค้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ ซึ่งถือเป็นดุลพินิจของศาล ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ ขณะนี้ทางการข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยังเชื่อว่าพระธัมมชโยยังคงอยู่ภายในวัด ส่วนเรื่องที่ว่าขณะนี้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารอยู่รายล้อมรอบวัด ตนคงไม่ขอออกความเห็น เพราะการดำเนินการต่างๆ เจ้าหน้าที่นั้นปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ และทั้งหมดก็เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายธัชนนท์ พรใบหยก ทนายผู้รับมอบอำนาจจากวัดพระธรรมกาย พร้อมด้วยทีมทนายความอีก 2 คน เดินทางมายื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายค้นวัดพระธรรมกาย โดยนายธัชนนท์กล่าวว่า ใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อขอให้ศาลเพิกถอนหมายค้นวัดพระธรรมกายหลังทราบข่าวว่ามีการออกหมายค้น ซึ่งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับหมายค้นนั้นก็ทราบจากข่าวที่ปรากฏ โดยขณะนี้ก็มีกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากปรากฏตัวอยู่บริเวณรอบๆ วัด ตามปกติแล้วการขอหมายค้นจะต้องระบุว่า เจ้าหน้าที่คนใดเป็นผู้นำหมายค้น พร้อมกำลังเข้าตรวจค้น และต้องระบุว่าจะตรวจค้นจุดใดบ้างของวัด แต่จนขณะนี้ยังไม่มีใครออกมาแสดงตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่ากรณีไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนหมายค้นตามคำร้องให้ยกคำร้อง

สำหรับบรรยากาศที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวมาเฝ้าติดตามทำข่าวหลังมีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอจะบุกเข้าจับกุมพระธัมมชโยในช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค. แต่ก็ไม่มีการบุกเข้าค้น มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรปทุมธานี นำกำลังชุดควบคุมฝูงชนและตำรวจทางหลวงตั้งด่านตรวจ 7 จุด รอบๆ บริเวณวัดพระธรรมกาย ประกอบไปด้วย 1.หน้าร้านโจ๊กบางกอกถนนบางขันธ์-หนองเสือ 2.ทางเข้าประตู 8 วัดพระธรรมกาย ถนนสีขาว 3.หน้าปั๊มก๊าซเอ็นจีวี ถนนบางขันธ์-หนองเสือ ก่อนเข้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย

4.หน้าร้านแม่ศรีเรือน 5.ซอยเอราวัณ 1 ถนนเลียบคลองสอง 6.ลานจอดรถเชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ 7.ปากซอยคลองสาม เพื่อตรวจสอบปริมาณรถที่เข้าออกวัดพระธรรมกายนำไปวิเคราะห์สถานการณ์เข้าค้นและเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้าย รวมทั้งกวดขันจับรถตู้และรถโดยสารที่รับส่งประชาชนและพระภิกษุเข้ามาในวัด เนื่องจากวิ่งผิดเส้นทาง

ขณะที่ศิษยานุศิษย์ยังคงเดินทางเข้ามาที่วัดอย่างต่อเนื่อง และนั่งสมาธิสวดมนต์ที่ประตู 5 ที่ใกล้กับกุฏิดาวดึงส์ที่คาดว่าพระธัมมชโยรักษาตัวอยู่ ส่วนที่ประตู 6 พระสงฆ์นำเก้าอี้พลาสติกมาวางเรียงไว้ คาดไว้ให้ลูกศิษย์นั่งสวดมนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มกำลังทั้ง 7 ด่านเข้มงวดขึ้น โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ประจำทุกจุด

พระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกายกล่าวว่า ขอขอบคุณตำรวจสภ.คลองหลวง ที่มาช่วยดูแลความปลอดภัยป้องกันมือที่สามที่อาจจะก่อเหตุความรุนแรงให้กับคณะศิษย์ขณะที่กำลังเดินทางมาที่วัดพระธรรมกาย เนื่องจากมีจำนวนคนที่มามากและเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทางวัดเองก็มีมาตรการในการ คัดกรองบุคคลที่คาดว่าจะเป็นบุคคลที่สามในระดับหนึ่ง ซึ่งในส่วนที่เหลือก็ต้องพึ่งภาครัฐ

เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์เดินทางมาที่สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมี พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการจับกุมพระธัมมชโย โดยมีผู้สื่อข่าวมาทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก

โดยนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูร อดีตผอ.โครงการชลประทานปทุมธานี และกรมธนารักษ์ เน้นในเรื่องดำเนินคดีจับผู้ต้องหาที่นำเสาเข็มมาวางกีดขวางการจราจร 3 จุด บริเวณถนนเลียบคลองแอน 1-2 และดำเนินคดีกับผู้ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาขวางทางประตูเข้าออกที่ประตู 4 ถนนเลียบคลองสาม

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 14 ธ.ค. เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจ.ปทุมธานี จะขอเข้าตรวจสอบโรงงานต่างๆ ในพื้นที่วัดพระธรรมกาย อาทิ โรงงานน้ำดื่ม และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่าเข้าตามมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือไม่ หากไม่เข้าข่ายก็จะสั่งปิดและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดจะเข้าตรวจสอบหลังพบเรื่องร้องเรียนว่ามีการถมและรุกล้ำลำรางสาธารณะ โดยคาดว่าวัด พระธรรมกายจะถูกดำเนินคดีในความผิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 30 คดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน