โปรดเกล้าฯ “ศานิตย์” นั่ง ผบช.น. ขณะที่ ตร.สั่งเบรก พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ นั่ง ผบช.นรต.คนใหม่ หลังสภาการ นรต.เสนอแต่งตั้งไปเรียบร้อยแล้ว คาดเรื่องโยกย้ายประจำปี และเตรียมพิจารณาแต่งตั้งรวดเดียวหมด หลังเลื่อนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ขณะที่ ก.ตร.จะนำเข้าที่ประชุม 30 ก.ย.นี้ ทางด้าน ผบช.นรต.บุกยื่นหนังสือถึงน.ส.พ.ไทยรัฐ ฮึ่มจี้แสดงความรับผิดชอบ คอลัมนิสต์เขียนดูหมิ่นโรงเรียนนายร้อยสอนหลักสูตรโจร

วันที่ 16 ก.ย. สำนักนายกรัฐมนตรีออกประกาศเรื่องแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ดังนี้ 1.พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.สง.ผบ.ตร. ดำรงตำแหน่ง ผบช.น., 2.พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ดำรงตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร., 3.พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ 4.พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.59 เป็นต้นไป ยกเว้น พล.ต.ท. ศานิตย์ ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2558

มีรายงานว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือราชการไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ร.ร.นรต.) สภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทบทวนมติการสรรหาบุคคลเป็น ผบช.นรต. คนต่อไป หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา มีประกาศ ร.ร.นรต. เรื่องรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่ง ผบช.นรต. ในวาระการแต่งตั้งประจำปี พ.ศ.2559 ลงวันที่ 7 ก.ค. ความว่าตามที่ประกาศสรรหา ผบช.นรต. กระทั่งมีการประกาศรายชื่อผู้แสดงวิสัยทัศน์เข้ารับการพิจารณาตำแหน่งผบช.นรต.จำนวน 3 ราย ต่อสภาร.ร.นรต. เมื่อวันที่ 7 ก.ค.แล้วนั้น ที่ประชุมมีมติให้ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง ผบช.นรต.ในวาระแต่งตั้งประจำปี 2559 โดยหนังสือของตร. ให้พิจารณาบุคคลอื่นที่เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์แทน

สำหรับผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนั้นมี 3 ราย คือพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.ก.ตร., พล.ต.ต.มโนช ตันตระเธียร รองผบช.นรต., และพล.ต.ต.อดุลย์ อย่างไรก็ตาม คำสั่งให้ทบทวนผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่ง ผบช.นรต. คนต่อไป มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 54/2559 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสภาการศึกษา โรงเรียนนายร้อยตํารวจและการบริหารงานบุคคลของ ข้าราชการตํารวจ เปลี่ยนแปลงกรรมการสภาการศึกษาทั้งคณะ โดยให้นายศุภชัย ยาวะประภาษ เป็นนายกสภาการศึกษา แทนพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี

ด้านพล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ทราบเรื่องที่ ตร. ส่งไปที่สภาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ส่วนตนเห็นว่าเป็นการทำไม่ถูกต้องเพราะว่าตอนมีพ.ร.บ. ทางชุดเก่ามีความเห็นเสนอแต่งตั้งให้ตนเป็น ผบช.นรต. เรียบร้อยแล้ว แต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะให้สภาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้ถอดถอนชื่อตนออก แต่ทางสภาการไม่ยินยอมโดยหากจะถอดถอนชื่อตนก็ต้องมีหนังสือจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เสนอมา ตนทราบว่าทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ มีหนังสือส่งไปยังสภาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.แล้ว ซึ่งทางสภาการจะมีการนัดหมายประชุมเรื่องของตนในวันอังคารที่ 20 ก.ย. ซึ่งต้องดูทิศทางว่าสภาการจะเอาอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผลจากที่มีการโปรดเกล้าฯนายตำรวจ 4 ตำแหน่ง และพิจารณา ผู้ดำรงตำแหน่ง ผบช.นรต. ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทำให้มีผลถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจประจำปี 2559 ตั้งแต่รองผบ.ตร. ถึง ผบก. หลังได้มีการเลื่อนพิจารณามาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าหลังจากนี้น่าจะมีการพิจารณาแต่งตั้งรวดเดียวหมด โดยในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ทางก.ตร.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมพิจารณา

เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่รัฐสภา พล.ต.ท. ศักดา เตชะเกรียงไกร ผบช.นรต. เข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ขอให้พิจารณาแสดงความรับผิดชอบต่อบทความเรื่อง “ปฏิรูปตำรวจสร้างค่านิยมใหม่” ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่ดูหมิ่นว่าโรงเรียนสอนสิ่งชั่วมากกว่าสิ่งดี

จากนั้นพล.ต.ท.ศักดา พร้อมผู้บริหารหลักสูตรคณะกรรมการสภาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และนักเรียนนายร้อยตำรวจปี 3 จำนวน 20 นาย ปี 1 จำนวน 10 นาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกที่สำนักพิมพ์ไทยรัฐ เพื่อขอให้พิจารณาแสดงความรับผิดชอบต่อบทความเรื่อง “การปฏิรูปตำรวจสร้างค่านิยมใหม่” กับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

พล.ต.ท.ศักดากล่าวว่าตามที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 14 กันยายน 2559 หน้าที่ 6 คอลัมน์กล้าได้กล้าเสีย ลงบทความเรื่อง “ปฏิรูปตำรวจค่านิยมใหม่” โดยสายล่อฟ้า มีบทความปรากฏตอนหนึ่งว่า “ว่ากันว่าโรงเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจนั้นสั่งสอนตำรวจให้ออกมาแบบไม่รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบ แต่กลับไปสร้างค่านิยมที่ไม่ถูกทิศทาง กลายเป็นว่าตำรวจไทยนั้นรอบรู้ทุกอย่างแต่ไม่รู้จักหน้าที่และภารกิจ จึงไม่แปลกที่มีการผลิดตำรวจที่ทำให้ตำรวจไทยกลายเป็นตำรวจโจรเข้าไปทุกที เพราะเรียนรู้เรื่องชั่วๆ มากกว่าเรื่องดีๆ” นั้น

พล.ต.ท.ศักดากล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงว่าทางโรงเรียนมุ่งสร้างตำรวจมืออาชีพ ทั้งมีความรู้และประพฤติปฏิบัติให้เป็นตำรวจที่ดี ไม่มีวิชาใดหรือการฝึกใดที่สร้างให้เป็นตำรวจโจรหรือมีลักษณะดังใจความที่ปรากฏในบทความดังกล่าว และวันนี้ได้นำหลักสูตรของโรงเรียนนายร้อยตำรวจมามอบให้และช่วยตรวจสอบว่าหลักสูตรใดที่เป็นหลักสูตรชั่ว หลักสูตรใดที่สอนให้เป็นโจร ตนอยากให้ทางคอลัมนิสต์ดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบการกระทำดังกล่าว

ด้านตัวแทนผู้บริหารและทีมกฎหมายได้ออกมารับหนังสือปิดผนึกดังกล่าว พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า “ยินดีและไม่รู้สึกโกรธ หรือแค้นในสิ่งที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ คนเราสามารถเห็นต่างได้และพวกเรารับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำ” รายงานข่าวแจ้งว่าฝ่ายกฎหมายและคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้างกับคอลัมนิสต์นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน