“บิ๊กแป๊ะ” ฮึ่ม “เสี่ยอ้วน” หนีหมายจับมี 2 ตัวเลือก “ทางตัน” หรือ “ทางตาย” ยิ่งมีปืนด้วย มอบตัวดีที่สุด คดียิง2ศพ เผยรู้ตั้งแต่แรกแล้วหนีไปไหน ขณะที่ “ไอ้บ่าว” มือปืนทำแผนฯ นาทียิง “น้องสปาย” กับ “หนุ่มฟอส” สารภาพเสี่ยอ้วนจ้าง 5 หมื่นให้ลั่นไก แต่วันลงมือ ลูกพี่กลับยิงเองทั้ง 2 ศพ

คดียิง2ศพ / เมื่อวันที่ 8 ส.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท. จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ชลบุรี นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายณรงค์ หรือบ่าว วรินทรเวช อายุ 22 ปี มือปืนที่ร่วมกันยิงสังหาร น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ อายุ 21 ปี ทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุลานจอดรถเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า จากการสอบปากคำนายณรงค์ให้การว่า ในวันเกิดเหตุนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี เจ้าของบาร์ใน จ.ภูเก็ต ผู้จ้างวาน นั่งอยู่ในรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี สีขาว ป้ายแดง โดยมีนายเกียรติศักดิ์ หรือบอนด์ สุรางค์แสงมีบุญ อายุ 35 ปี เป็นคนขับรถ ส่วนนายณรงค์นั่งอยู่ด้านหลัง โดยขับรถมาจอดหันหน้าออกถนน ส่วนรถของผู้ตายจอดรถอยู่ด้านหน้าซ้ายมือ และมีรถเก๋งโตโยต้า ยาริส จอดขวาง โดยมีนายกฤษณะ หรือมด ศรีสุข อายุ 22 ปี และนายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ อุนัยบัน อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาร่วมทีมอยู่ในรถ

รองผบ.ตร.กล่าวว่า จากนั้นเมื่อนาย ปัญญา หรือเสี่ยอ้วน เห็นน.ส.ปวีณา กับนาย อนันตชัย เดินมาขึ้นรถ นายปัญญาโกรธแค้น จึงลงจากรถพร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก จ่อยิงศีรษะ น.ส.ปวีณา 2-3 นัด เสียชีวิตคาที่ นายอนันตชัยวิ่งหนี นายปัญญาหันกระบอกปืนยิงใส่นายอนันตชัย ก่อนที่นายณรงค์จะยิงซ้ำเสียชีวิต และพากันขับรถหลบหนีไปทันที

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวต่อว่า จากคำให้การของนายณรงค์ ให้การไปในทิศทางใกล้เคียงกับผู้ต้องหาที่จับกุมและมอบตัวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว นายปัญญาจ้างนายณรงค์เป็นเงิน 50,000 บาท ให้ก่อเหตุ และนายณรงค์ยอมรับว่ารู้ข้อมูลก่อนการลงมือยิงทั้งหมด ก่อนก่อเหตุนายปัญญาและนายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ คนคุ้มกัน นั่งเครื่องบินมาจาก จ.ภูเก็ต ลงที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นขับรถมาสมทบ

ส่วน พล.ต.ท.จิตติ ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดตามจับกุมตัวนายปัญญาไม่ได้ แต่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวพบข้อมูลเบาะแสการหลบหนีแล้ว ว่าอยู่บริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ได้ควบคุมตัว คาดว่าอีกไม่นานจะควบคุมตัวได้ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงการติดตามตัวนายปัญญาว่ายังติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้ต้องหาที่หนีหมายจับมีทางเลือกเพียง 2 ทาง คือทางตัน ทางตาย แค่นั้นเอง ยิ่งมีปืนด้วย มอบตัวดีที่สุด นี่ไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไร แต่เป็นคนปากกับใจตรงกันอยู่แล้ว เขามีปืน ทำขนาดนี้ ฆ่าได้แม้กระทั่ง ผู้หญิง จะให้ทำยังไง ต้องบอกลูกน้องหากเจอให้ป้องกันตัวไว้ก่อน โดยส่งทีมงานสืบสวนชุดดรีมทีมลงไปทำแล้ว ไม่ต้องห่วง และรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะหนีไปทางไหน

ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ติดตามทุกคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทั้งนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน และนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา ผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี นักธุรกิจสาวไฮโซ ที่มีข่าวว่าหลบหนีไปประเทศกัมพูชา อยู่ระหว่างประสานงาน ส่วนจะจับเป็นหรือไม่ หากมอบตัวก็รับมอบตัวอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน