ฆ่าเผาพยาบาล คดีบาน หลังผู้ต้องหาซัดทอดผัวด้านสามีพยาบาล ยังให้การปฏิเสธ ขณะตร.ขอหมายศาล แต่หลักฐานไม่พอ ต้องปล่อยตัวก่อน ผู้การเชียงใหม่สั่งเร่งหาหลักฐาน ขณะญาติคนตาย ส่งจดหมายพยาบาล ระบุถ้าเสียชีวิต มีคู่กรณีอยู่รายเดียว

จากกรณีคนร้ายฆ่าเผาน.ส.จรรจิรา เกิดแล้ว พยาบาลวัย 50 ปี ในสวนลำไย หมู่ที่ 18 บ้านโทกเสือ ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โดยตำรวจสามารถจับกุมนายนิรันดร แก้วเต๋จ๊ะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 15 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ได้ในเวลาต่อมาและให้การรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุตามข่าว

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.ท.ภคพล ธงเชื้อ รองผกก.สอบสวน สภ.ดอยหล่อ ได้นำตัวนายนิรันดรมาสอบปากคำเพิ่มเติมหลังให้การซัดทอดนายธรพล ปารีแสน อาชีพขับรถแบ๊กโฮรับจ้าง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 18 ต.ดอยหล่อ สามีผู้ตายเป็นผู้ว่าจ้าง ขณะที่ภรรยาน้อยของนายธนพล ก็มีส่วนรู้เห็นด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขออนุมัติหมายจับนายธนพล จากศาลจังหวัดเชียงใหม่ และขอหมายค้นบ้านนายธนพลเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจสอบให้ชัดเจนว่า ภรรยาน้อยของนายธนพล นั้นมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่

นายนิรันดรอ้างว่า ร่วมกับนายธนพลวางแผนฆ่ามาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว โดยวันก่อเหตุนายธนพลได้วางแผนนัดผู้ตายมา โดยบอกว่าจะนัดมาหย่าและชดใช้หนี้สินที่นายธนพลยืมผู้ตายไปหลายแสนบาท โดยยืมมาซื้อรถแบ๊กโฮ 5 แสนบาท และหยิบยืมอีกหลายครั้ง ครั้งละหลายหมื่นบาท แต่ไม่ยอมให้คืน โดยผู้ตายก็คอยตามทวงมาตลอด

นายนิรันดรอ้างอีกว่า หลังนัดน.ส.จรรจิราผู้ตายมาแล้ว นายธนพลก็ได้เรียกตนมาด้วย เมื่อผู้ตายมาถึง นายธนพลกับภรรยาก็พูดกันไม่รู้เรื่องและทะเลาะกันอีก ขณะที่ตนกำลังยืนคุยกับน.ส.จรรจิราที่กระท่อมจุดนัดพบใกล้กับบ้าน นายธนพลซึ่งยืนอยู่ด้านหลังได้ล็อกคอภรรยาและกระชากผมจนแน่นิ่ง จากนั้นก็บอกกับตนว่า ช่วยจัดการกับศพ จะให้ค่าจ้าง 1 แสนบาท จึงได้ช่วยหาม ร่างน.ส.จรรจิราเดินลัดสวนลำไย และมา ก่อไฟที่นายธนพลได้เตรียมไว้แล้ว

นายนิรันดรยังให้การอ้างอีกว่า จากนั้นนายธนพลได้โยนร่างภรรยาเข้ากองไฟ โดยน.ส.จรรจิรานั้นกลับฟื้นขึ้นมาและถูกไฟลวกดิ้นทุรนทุราย ขณะที่นายธนพลและตนยืน ดูเฉยๆ ปล่อยให้สิ้นใจในกองไฟ โดยนาย ธนพลเป็นผู้ลงมือทุกขั้นตอน ส่วนตัวเองมีหน้าที่ช่วยลากไปเผาและใช้ไม้เขี่ยร่างให้ไหม้ไฟจนหมดเท่านั้น โดยนายธนพลยังได้ใช้ปืนจี้บังคับให้ร่วมก่อเหตุ หลังจากเสร็จจากการเผาผู้ตายแล้ว ตนได้ทวงค่าจ้าง 1 แสนบาท นายธนพลได้บอกว่าให้เอารถยนต์ของผู้ตายไปเป็นค่าจ้าง จึงได้เอารถยนต์ของผู้ตายไปพ่นสีดำทั้งคันรวมทั้งป้ายทะเบียนด้วย และหนีไปกบดาน แต่ก็มาถูกจับดังกล่าว

นายนิรันดรกล่าวด้วยว่า นายธนพลมักจะหลอกยืมเงินผู้ตายเรื่อยๆ และเคยเลิกรากันไป 2 ครั้ง แต่กลับมาจดทะเบียนใหม่ และยืมเงินผู้ตายอีก ผู้ตายก็ทวงถามตลอด โดยนายธนพลนั้นมีภรรยาน้อยชื่อ นางนุชรี หรือเอ้ อายุประมาณ 20 กว่าปี ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ โดยภรรยาน้อยของนายธนพลนั้นไม่ทำงานอะไร

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายนิรันดรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีกครั้ง ที่จุดก่อเหตุและจุดที่นายธนพลนัดผู้ตายมาพูดคุย รวม 4 จุด เริ่มจากบ้านพักของนายธนพล จุดที่ 2 กระท่อมภายในสวนลำไยของนายธนพล จุดที่ 3 จุดเผาเหยื่อ และจุดสุดท้ายจุดที่นำรถยนต์ของเหยื่อไปฝากไว้

รายงานข่าวจากชุดสืบสวน สภ.ดอยหล่อ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ทำจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งก่อนมาเสียชีวิต โดยจดหมายดังกล่าว ได้เขียนไว้ ระบุหากเป็นอะไรไปก็ให้ญาตินำจดหมายที่เขียนขึ้นมานี้มาให้ตำรวจแล้วจะรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายเธอ โดยทางญาติได้นำจดหมายดังกล่าวมาให้ตำรวจเรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนติดตามคนร้าย

สำหรับน.ส.จรรจิรากับนายธนพล ได้แยกทางกันและกลับมาคืนดีกันหลายครั้ง กระทั่งผู้ตายได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านหนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ขณะที่นายธนพลยังอยู่ที่ อ.ดอยหล่อ โดยผู้ตายจะมาหานายธนพลเพื่อมา ทวงเงินบ่อยครั้ง และมาต่อว่าเรื่องมีภรรยาน้อย กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว จากนั้นนายธนพลได้มาแจ้งความที่สภ.ดอยหล่อ อ้างว่า ภรรยาของตัวเองได้หายตัวไปแบบปริศนา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่มาพบรอยเผาในสวนลำไย และเป็นที่มาของการจับกุมตัวนายนิรันดร และให้การซัดทอดนายธนพลและภรรยาน้อยมีส่วนรู้เห็นด้วย ขณะที่นายธนพลยังให้การปฏิเสธ

พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนยื่นขอหมายจับ ทางศาลได้ตีกลับเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ทำให้ต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อน พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งหาอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้บังคับให้ก่อเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน