ตร.ออกหมายจับหนุ่มวินจยย. ต้องสงสัยลวงขืนใจแหม่มสาวชาวออสซี่ โดยอาศัยภาพจากกล้องวงจรปิดรองโฆษกตร.เผย เคยต้องโทษคดีขืนใจ เพิ่งออกจากคุกได้ 2 เดือน หลังเกิดเหตุหายหน้าไป 3 วันแล้ว “ศานิตย์” เผยผลตรวจพบคราบอสุจิในตัวเหยื่อ แต่ยังบอกไม่ได้เป็นของชาติใด ส่งพฐ.พิสูจน์ต่อ แนะ ผู้ต้องสงสัยรีบเข้ามอบตัว เพื่อคลี่คลายข้อสงสัย พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย แจ้งความว่าถูก 2 คนร้ายล่อลวงไปข่มขืน เหตุเกิดบริเวณพงหญ้า ข้างอาคารวัฏจักร หน้าปากซอยบรมราชชนนี 43 ถนนบรมราชชนนี แขวง-เขตตลิ่งชั่น กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่เช็กวงจรปิดพบ 2 หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมาพบเหยื่อหมดสติริมถนน ก่อนพาขึ้นรถแล้วไปก่อเหตุขืนใจว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ศาลแขวงตลิ่งชันได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น มีอัตราโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 4,000-40,000 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวมีประวัติคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 2 เดือน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป คดีนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ความสนใจเพราะเป็นคดีที่สร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ของประเทศ

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ศาลอนุมัติหมายจับคนร้าย ทราบชื่อนามสกุลแล้ว 1 ราย ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว อย่างไรก็ตาม หากทราบแล้วขอให้เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ช่วยกันไขปริศนาข้อเท็จจริงที่อาจจะมีข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไม่เกิดแง่ลบ ส่วนผลการตรวจสอบจากทางโรงพยาบาล เบื้องต้นยืนยันว่าพบคราบอสุจิ แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นของชาติพันธุ์ใดหรือกลุ่มใด จึงได้ส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมต่อไป

“ประเด็นก็คือความผิดเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา ถ้าเป็นการสมยอมอายุเกินกว่า 15 ปี ไม่มีความผิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเชื่อไว้ก่อนว่ามีการข่มขืน เนื่องจากพบคราบอสุจิ แต่ในส่วนที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น เราต้องให้เกียรติสุภาพสตรีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยจะเร่งรัดผลการตรวจสอบทางนิติวิทยา ศาสตร์ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากพบการตรวจสอบพบว่าคราบอสุจิดังกล่าวเป็นฝรั่งไม่ใช่คนเอเชีย ซึ่งอาจจะเป็นความผิดอื่นๆ ก็เป็นได้ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พยายามเร่งรัดคลี่คลายให้แล้วเสร็จโดยตรง ทั้งนี้ผู้ต้องสงสัยที่ถูกออกหมายจับ เคยมีประวัติเคยถูกจับติดคุกคดีข่มขืนมาก่อน” ผบช.น. กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนสน.ตลิ่งชัน ได้ขออนุมัติหมายจับกุมนายเอกบุรุษ ฤทธิ์รักขพันธุ์ อายุ 32 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณวินรถจักรยานยนต์ริมทางรถไฟธนบุรี ภายหลังจากเกิดเหตุมีข่าวออกมาได้หายไป 3 วัน จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุข่มขืนในพื้นที่สน.บางยี่ขัน อย่างไรก็ตาม ทางชุดสืบ สวนกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยประเด็นที่เกี่ยวข้องว่า เหตุใดหญิงสาวชาวออสเตรเลียถึงได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายเอกบุรุษไปยังที่เกิดเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน