คุมตัวหนุ่มมือฆ่าบัสโฮสเตสทำแผนฯ หลังโดนจับได้ที่วัดในสุโขทัย ชาวบ้านฮือตะโกนสาปแช่ง รับสารภาพเช่าห้องพักรายวันอยู่อาคารใกล้ที่เกิดเหตุ วันเกิดเหตุออกจากห้องพักเห็นผู้ตายนุ่งกระโจมอกนั่งรีดผ้าอยู่ในห้อง เลยเข้าไปกระชากสร้อยคอ แต่เหยื่อขัดขืนจึงแทงจนตายก่อนหลบหนี
เมื่อ วันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.สมใจ เมฆหมอก สว.สส.สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ควบคุมตัวนายอภิรักษ์ กระจายสี อายุ 26 ปี ชาว อ.สวรรค โลก จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1797/2559 ลงวันที่ 16 ก.ย.2559 ในข้อหาฆ่าผู้อื่น มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในห้องพัก ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงน.ส.วรรณทนี อธิจร อายุ 29 ปี ชาวจ.กาฬสินธุ์ พนักงานต้อนรับบนรถทัวร์ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถทัวร์ 99) หรือบัสโฮสเตส วิ่งเส้นทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือ จนเสียชีวิตแล้วชิงของมีค่าหลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนโดนตามจับกุมได้ที่ศาลาภายในวัดป่าทอง ม.1 ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย. โดยระหว่างการทำแผนฯ มีกลุ่มชาวบ้านที่มาสังเกตการณ์ต่างพากันด่าทอและสาปแช่งเป็นจำนวนมาก
นาย อภิรักษ์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 11 ก.ย. ตนเข้ามาเปิดห้องเช่าแบบรายวันภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ห่างจากหอพักจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร จากนั้นช่วงเช้าวันเกิดเหตุได้เดินมาหยุดอยู่ตรงตอม่อซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า หอพัก ขณะนั้นพบ น.ส.วรรณทนีนุ่งผ้าขนหนูยืนรีดผ้าอยู่ภายในห้อง โดยประตูเปิดแง้มออก จึงแอบขึ้นไปยืนอยู่หน้าห้อง ทำทีออกอุบายสอบถามหาเพื่อนชื่อแจ๊ส พร้อมขอแลกเศษเหรียญ 20 บาท เพื่อจะนำไปหยอดตู้โทรศัพท์ แต่น.ส.วรรณทนีตอบกลับมาว่าไม่รู้จักและไม่มี จากนั้นได้ผลักไล่ให้ออกไปพร้อมตบหน้า 1 ครั้ง ก่อนจะปิดประตูห้อง แต่ตนได้ใช้มือดันประตูเอาไว้ ซึ่งขณะนั้นน.ส.วรรณทนี ได้เข้าไปหยิบมีดจากด้านในเพื่อหวังจะข่มขู่ แต่ก็ถูกตนปัดจนตกหล่นอยู่ด้านหน้าห้องพัก
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น น.ส. วรรณทนีได้วิ่งกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพื่อหยิบมีดอีกเล่ม ตนจึงตัดสินใจเข้าไปประชิดตัวก่อนใช้เท้าถีบเข้าอย่างจังจนผ้าขนหนูหลุด โดยร่างกระเด็นเข้าไปยังระเบียงห้องด้านหลัง ระหว่างนั้นจึงขึ้นคร่อมและต่อยท้องน้อยเข้าไปอีก 3 ครั้ง จนน.ส.วรรณทนีร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด พร้อมขอความช่วยเหลือ ก่อนด่าบุพการีจนเกิดบันดาลโทสะ หยิบมีดที่ตกอยู่ใกล้กันกระหน่ำแทงเข้าตามตัวจนนอนแน่นิ่งเสียชีวิต จากนั้นตนจึงถอดเสื้อและกางเกงขาสั้นซึ่งอยู่ในสภาพเปื้อนเลือดออก ก่อนเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ เมื่อล้างคราบเลือดจนหมดจึงหยิบเสื้อบขส.และกางเกงของผู้เสียชีวิตที่แขวน อยู่นำมา สวมแทน
นายอภิรักษ์กล่าวอีกว่า จากนั้นหยิบมีดที่ตกอยู่หน้าห้องและมีดที่ใช้ก่อเหตุไปล้าง ก่อนนำไปซุกซ่อนไว้บริเวณเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง โดยใช้เสื้อผ้าคลุมปิดทับอีกชั้น ก่อนนำทรัพย์สินที่วางอยู่บนโต๊ะไป ประกอบด้วย แบตเตอรี่โทรศัพท์สำรอง ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ และเงินสด 1,500 บาท ซึ่งขณะจะเดินออกจากห้องพักพบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท สภาพขาด ซึ่งเป็นของผู้เสียชีวิตตกอยู่กับพื้น จึงฉวยโอกาสนำติดตัวมาด้วย ก่อนเดินหลบหนีโดยใช้ถนนเลียบทางรถไฟไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่ฝากไว้ที่สถานี ขนส่งกรุงเทพ (หมอชิต) ก่อนนั่งรถจักรยาน ยนต์รับจ้างไปตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี เพื่อนำสร้อยคอทองคำไปจำนำได้เงิน 17,800 บาท หลังจากนั้นไปที่สถานีขนส่งรังสิตเพื่อซื้อตั๋วรถทัวร์กลับภูมิลำเนา ซึ่งตั๋วมีแต่รอบช่วงหัวค่ำ เลยตัดสินใจเหมารถแท็กซี่กลับแทน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้
“ส่วนปมสังหารใน ครั้งนี้ผมไม่ได้ต้องการฆ่าผู้เสียชีวิต เพียงแค่ประสงค์ต่อทรัพย์สินเท่านั้น เนื่องจากจะหาเงินกลับภูมิลำเนา แต่ผู้ตายเกิดขัดขืนและส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แถมด่าทอบุพการีจนบันดาลโทสะ กระทั่ง พลั้งมือก่อเหตุดังกล่าว” นายอภิรักษ์กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อม ทั้งฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
