บิ๊กแป๊ะ-บิ๊กอวบ เค้นสอบ เสี่ยอ้วน หลังคุมตัวบินด่วนจากสระแก้วเข้ากรุงมากลางดึก เจ้าตัวรับสารภาพลงมือยิง สปาย-ฟอส จริง แต่ไม่รู้ว่าลงมือหน้าพระเขาชีจรรย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวชลบุรีเคารพ ตร.คุมตัวทำแผนฯ บอกเสียใจที่ทำลงไป ขณะที่พ่อแม่น้องสปาย-ฟอสเดินทางมาดูทำแผน ลั่นไม่อโหสิกรรม ขอให้ได้รับโทษประหาร

จากกรณีที่นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาฆ่านายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี และน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่หน้าเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีไปยังกัมพูชา จากนั้นจึงประสานงานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนทางอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งยังกองบินตำรวจ และคุมตัวที่คุมขังสันติบาล สโมสรตำรวจ เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา

สปาย-ฟอส / ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ส.ค. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เดินทางมาที่คุมขังสันติบาล สโมสรตำรวจ เพื่อคุมตัวนายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาฆ่าน้องสปาย และน้องฟอส ที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ไปแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยมีรายงานว่าในเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะมาสอบปากคำด้วยตนเอง ก่อนจะแถลงข่าว

ต่อมาเวลา 10.45 น. ที่สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จตช. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทชาติ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน เข้าสอบสวนนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ทั้งนี้เสี่ยอ้วนมีสีหน้าเรียบเฉย อยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีกากีอ่อน สวมหมวกผ้าสีดำโพกปิดศีรษะ ทั้งนี้ผบ.ตร.และคณะใช้เวลาสอบปากคำเสี่ยอ้วน ประมาณ 30 นาที

โดยนายปัญญากล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า เห็นที่ ผบ.ตร.พูดว่ามีทางเลือก 2 ทาง คือทางตันกับทางตาย ตอนนั้นตนเลือกตัน คือหนีไปให้ถึงที่สุด

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า นายปัญญา สารภาพว่าก่อเหตุจริง และดูข่าวในโซเชี่ยลที่ตนพูดว่า มี 2 ทางเลือก คือทางตันและทางตาย เขายอมรับว่ากลัว โดยอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา ไม่ได้สะดวกสบาย ใช้ชีวิตปกติได้บ้าง พอจะดูข่าว ดูโซเชี่ยลได้บ้าง ทั้งนี้นายปัญญาเพิ่งรู้ว่าตัวเองก่อเหตุหน้าองค์พระแกะสลักที่เขา ชีจรรย์ ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปแกะสลักธรรมดา “พอรู้ว่าเป็นพระ เขาก็กลัว เขากลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน ปืนไม่ลั่นตั้ง 2-3 นัด”

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า เสี่ยอ้วนรับว่าการลงมือครั้งนี้ ทำเป็นขบวนการ มีคน ชี้เป้า แต่ตนขอไม่เปิดเผยว่ามีการตระเตรียมอย่างไร เป็นเรื่องในสำนวน เอาเป็นว่านายปัญญารับสารภาพ บอกได้แค่นั้น สำหรับประเด็นที่นายปัญญายังให้การขัดแย้งกับ ผู้ต้องหารายอื่น ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำคดี เพราะทุกอย่างว่ากันตามพยานหลักฐาน จากนี้จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เป็น ผู้กำกับดูแล โดยตนสั่งให้วางมาตรการดูแลความปลอดภัย ดูแลความสงบในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า เชื่อว่านายปัญญาคงไม่ทำร้ายตัวเอง เพราะพูดคุยรู้เรื่อง

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ นายปัญญา มีคดีฆ่าคนตาย ที่จ.ภูเก็ต แต่หลุดคดีออกมา พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวว่า เป็นเรื่องของโซเชี่ยลที่วิจารณ์ว่ามีการวิ่งเต้นล้มคดี คดีที่ภูเก็ตยัง ไม่ดู เอาเรื่องนี้ที่ชลบุรีก่อน ส่วนจะรื้อคดีหรือไม่เอาไว้ก่อน

คดีดังกล่าว ศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายปัญญา ยิ่งดัง หรืออ้วน เจ้าของสถานบันเทิงในพื้นที่หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้บงการวางแผน และใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 2.นายสายันต์ ศรีสุข หรือยัน ทำหน้าที่แฝงเป็นแฟนของเพื่อนผู้เสียชีวิต เพื่อสืบข่าวและชี้เป้าหมายตลอดเส้นทาง 3.นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล ทำหน้าที่ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์-วี สีขาว เพื่อพานายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว มือปืน พร้อมนำพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน มาจากจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งถอดเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อตบตา และขับรถจอดปิดท้าย เพื่อให้นายปัญญา และนายรณรงค์ ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต

4.นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ ป๊อบ เดินทางมาพร้อมนายปัญญา เพื่อทำหน้าที่ ในการขับรถเช่า ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว เพื่อสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต 5.นายกฤษณะ สีสุข หรือมด ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายเกียรติศักดิ์ ในการสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต และ 6.นายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว ทำหน้าที่มือปืนผู้ลั่นไกสังหารผู้เสียชีวิต

โดยทั้งหมดมีความผิด “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สภ.นาจอมเทียน จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายปัญญา มาไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงบ่าย โดยมีนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ มารดาของ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย เฝ้ารอเพื่อที่จะเจอหน้านายปัญญา ครั้งแรก โดยทางครอบครัวของนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส จะเดินทางมาอยู่รอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย

นางวันเพ็ญกล่าวว่า ตนติดต่อกับทางครอบครัวของนายอนันตชัย แล้ว ซึ่งตกลงกันว่าจะมีรอดูหน้าของนายปัญญา และจะรอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย หากมีโอกาสพูดคุยกับนายปัญญา จะถามว่าตั้งใจฆ่าน้องใช่ไหม ฆ่าน้องทำไม น้องทำอะไรผิด สิ่งที่เขาทำมันผิดร้ายแรง ที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่มีทางสู้ เมื่อก่อเหตุเสร็จก็ได้หลบหนี ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ทุกวันนี้ตนยังไม่สามารถทำใจได้ หากจะมาขอขมาตน ตนขอไม่รับ

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่เขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ นำตัวนายปัญญา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้แก่ จุดเกิดเหตุ จุดทิ้งปืนที่ใกล้สภ.พลูตาหลวง จุดเช่ารถ ย่านพัทยาใต้ ปั๊มปตท. บางเสร่ และจุดสุดท้ายบ้านเช่า ย่านนาเกลือ ซึ่งเป็นจุดวางเเผน ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาเฝ้าดูรวมไปถึงครอบครัวของ น.ส.ปวีณา และนายอนันตชัย ด้วย

โดยวันเกิดเหตุ นายปัญญานั่งอยู่ภายในรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี สีขาว ป้ายแดง โดยมี นายเกียรติศักดิ์ เป็นคนขับรถ ส่วนนายณรงค์ หรือ บ่าว นั่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งขับรถมาจอด หันหน้าออกถนน ส่วนรถของผู้ตายทั้ง 2 คน จอดรถอยู่ทางด้านหน้าซ้ายมือ และมีรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส จอดขวาง ซึ่งเป็นรถที่นาย กฤษณะ หรือมด และนายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ อยู่ด้านในรถ

เมื่อนายปัญญาเห็นน.ส.ปวีณา และนายอนันตชัย กำลังจะเดินมาขึ้นรถ นายปัญญา ก็ลงจากรถ เอาอาวุธปืน 2 กระบอกที่เตรียมมาจ่อยิงที่ศีรษะ น.ส.ปวีณา ก่อนที่จะล้มลงนอน นายอนันตชัยเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งหนีเข้ารถ แต่นายปัญญาเห็นก็หันกระบอกปืนมายิงนายอนันตชัยคารถยนต์ จากนั้นนายณรงค์ ก็ยิงซ้ำ ก่อนจะพากันวิ่งขึ้นรถและขับหนีออกไปทันที

หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ นายปัญญาหันหน้าไปทางพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ก่อนจะก้มลงกราบ เป็นการกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายปัญญาอ้างว่าไม่ทราบว่าจุด ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเคารพของชาวชลบุรี ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวขึ้นรถไปทำแผนในจุดอื่นๆ

ด้านนางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 43 ปี แม่น้องฟอส กล่าวทั้งน้ำตา ว่า เมื่อมาเห็นเหตุการณ์ที่นายปัญญาลงมือสังหารลูกชายตนเองแล้ว ยิ่งทำใจไม่ได้ เสียใจและรับไม่ได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ดีใจ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้ครบทุกคนแล้ว ซึ่งตนรู้ข่าว ในวันที่ 15 ส.ค. คิดว่าเป็นข่าวดี เนื่องจาก วันที่ 16 ส.ค. เป็นวันเกิดของน้องฟอส ตนจึงอยากให้วิญญาณลูกชายไปสู่สุคติ ไม่จองเวร และตอนนี้ตนได้ให้อภัยแก่นายปัญญา และอยากให้นายปัญญารับโทษแบบเดียวกับที่ลูกชายและน้องสปายโดน คือประหารชีวิต

ทั้งนี้ในวันที่ 23 ส.ค.เจ้าจะนำตัวนายปัญญาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สภ.นาจอมเทียน เจ้าหน้าที่คุมตัวนายปัญญามาควบคุมไว้หลังทำแผนเสร็จ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกอะไรกับน.ส.ปวีณา หรือไม่ นายปัญญากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เสียใจ เสียใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน