ตร.ปิดหมายจับ ธัมมชโยและ โฆษกวัด หน้าวัดธรรมกาย จี้ผู้เกี่ยวข้องส่งตัวให้ใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นฯ ด้านดีเอสไอรวบรวมหลักฐาน รวมทั้งภาพถ่ายจากโดรน เตรียมขอหมายค้นวัดธรรมกายอีกรอบ หลังหมายค้นเก่าหมดอายุเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ครั้งนี้จะขอค้นได้ตลอด 24 ช.ม. ขณะที่ธรรมกายระดมศิษย์หลังมีข่าว ตร.จะบุกยึดกำแพงวัด โต้ข้อหาก่อสร้างอาคาร ชี้ไม่ต้องขออนุญาต เพราะเป็นอาคารที่เกี่ยวกับเพื่อการศาสนา พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร ยันไม่มีแผนจีวรเปื้อนเลือด ส่วนที่ดีเอสไอ ถ่ายภาพธัมมชโยได้ ไม่แน่ใจเป็นรูปจริงหรือเปล่า เพราะไม่เห็นหลวงพ่อมาตั้งแต่เดือน พ.ค.แล้ว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบวัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะที่ประตู 7 ฝั่งถนนบางขันธ์-หนองเสือ บรรดาศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายยังคงเดินทางเข้าออกตามปกติ บรรยากาศทั่วไปเงียบสงบ ทั้งนี้ หลังจากผ่านเส้นตายที่ศาลอนุญาตให้ตรวจค้นภายในวัดมาแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าค้นรอบใหม่แต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตั้งด่านรอบๆ วัดยังตรวจรถต้องสงสัย รถตู้ประจำทางและไม่ประจำทางที่เข้าออกภายในวัดทุกคัน เพื่อป้องกันมือที่สามจะเข้ามาก่อเหตุในช่วงเวลานี้ และการขนประชาชนและพระสงฆ์เข้ามาในวัดเพิ่มเติมหลังมีกระแสข่าวว่าเวลา 10.00 น.วันนี้ คณะทำงาน 10 ฝ่าย คดีพระธัมมชโย จะเข้าปฏิบัติการยึดกำแพงวัดพระธรรมกายทั้งหมด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายอายัดของกลางคดีอาญา ที่ 2284/2559 ไปติดที่ตามประตูและกำแพงด้านต่างๆของวัดธรรมกาย เพื่ออายัดไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายหรือกระทำการให้สูญหาย เสียหาย หลังมีการดำเนินคดีฐานก่อสร้างรุกล้ำที่สาธารณะ โดยมีเจ้าหน้าที่วัดออกมาดูแต่ไม่มีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใน

แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า กรณีศาลอนุมัติหมายค้นวัดพระธรรมกายตั้งแต่วันที่ 13-16 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัดนั้น ขณะนี้หมายค้นดังกล่าวได้หมดอายุแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาดีเอสไอประเมินสถานการณ์อยู่ตลอด พบว่ามีประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้าไปยังวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ประเมินว่าหากตรวจค้นและจับกุมพระธัมมชโย อาจทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนจนอาจนำไปสู่การสูญเสียได้ จึงยังไม่ใช้กำลังเข้าไปตรวจค้น

จากนี้ดีเอสไอจะขอหมายค้นวัดพระธรรม กายอีกครั้ง และบอกเหตุผลว่าทำไมจึงไม่สามารถดำเนินการตามหมายค้นในครั้งที่แล้วได้ พร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานซึ่งเตรียมไว้แล้ว เป็นภาพถ่ายจากเครื่องอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โดยครั้งนี้จะขอให้ศาลอนุญาตให้เข้าค้นได้ตลอด 24 ช.ม. คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะดำเนินการได้ ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขึ้นอยู่ กับความพร้อมและสถานการณ์ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และดีเอสไอ มีการประสานงานกันอยู่ตลอด โดยสํานักปฏิบัติการพิเศษ (ปพ.) คอยประเมินสถาน การณ์และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ อยู่ตลอด อีกทั้งในส่วนของ ตร.ก็ได้มีการดำเนินคดีกับแกนนำที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้างแล้ว

ต่อมาเวลา 15.00 น. พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย พร้อมนายธัชนนท์ พรใบหยก ทนายความของวัดพระธรรมกาย ออกมาแถลงข่าวเรื่องการก่อสร้างอาคารภายในวัด ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนหลายคดี ที่หน้าประตู 7

นายธัชนนท์กล่าวว่า จากพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2550 อาคารที่เกี่ยวกับเพื่อการศาสนา วัดวาอาราม โบสถ์ การก่อสร้างไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่ต้องมีการยื่นแบบก่อสร้างไปที่พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อทราบ แล้วทางวัดก็ดำเนินการก่อสร้าง โดยพ.ร.บ.ควบคุมอาคารก็เกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัย อย่างเช่นอาคารจอดรถก็เพื่อศิษยานุ ศิษย์เข้ามาจอดรถเพื่อที่จะปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สร้างขึ้นเพื่อการปฏิบัติทางศาสนาทั้งสิ้น ในส่วนที่มีแผงเหล็กกีดกั้น ทางสาธารณะหากสอบแล้วเป็นความจริงทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีคำสั่งมารื้อถอน

ส่วนพระสนิทวงศ์กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารภายในวัดพระธรรมกายกับวัดทุกวัด ก็ใช้เกณฑ์เดียวกัน ซึ่งโดยหลักการแล้ววัดสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่ส่งเสริมศีลธรรม และสอนธรรมะให้กับศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ซึ่งขณะนี้ภายในวัดก็ยังมีกิจกรรมสวดธรรม จักรเช่นเดิม ในส่วนของคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในวัดพระธรรมกายก็ให้เป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พร้อมกับคุยรายละเอียดกับฝ่ายกฎหมาย ของวัด

“มีสื่อได้นำเสนอว่าวัดมีแผนจีวรเปื้อนเลือด นั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง รวมถึงที่นำเสนอว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอถ่ายภาพหลวงพ่อพระธัมมชโยได้ อาตมาก็ไม่แน่ใจว่าเป็นภาพ จริงหรือเปล่า ตัวอาตมาเองก็ไม่เห็นหลวงพ่อตั้งแต่ที่พาคุณหมอจากประเทศเยอรมนี มาตรวจท่านประมาณเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว” พระสนิทวงศ์กล่าว

ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.จิรโชติ ศรีภัทรภา สวป.สภ.คลองหลวง นำหนังสือขอความอนุเคราะห์ส่งตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ซึ่งกระทำความผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ และนายองอาจ ธรรมนิทา ซึ่งกระทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ มาติดที่บริเวณหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย

ใจความว่า เนื่องด้วยศาลจังหวัดสีคิ้วอนุมัติออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี ซึ่งกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ประมวลกฎหมายที่ดิน พุทธศักราช 2497 ตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 121/2559 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 และเนื่องด้วยศาลจังหวัดธัญบุรีอนุมัติออกหมายจับนายองอาจ ธรรม นิทา ซึ่งกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิว เตอร์ พุทธศักราช 2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 8 55/2559 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2559

โดยให้ผู้มีตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์และฆราวาสภายในวัด ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช 2505 มาตรา 38 และมาตรา 45 ขอให้นำตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระไชยบูลย์ ธัมมชโย และนายองอาจ ธรรมนิทา มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีภูธรคลองหลวง เพื่อจะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนภายใน 7 วัน หากไม่นำตัวมาพบพนักงานสอบสวน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 189 ฐานผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่าด้วยกระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจำคุก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน