สลด พ่อปาดคอฆ่าลูก5ขวบ ทุบขวดเบียร์เชือด แล้วทำร้ายตัวเองหวังตายตาม เครียดอุ้มเดินหาเมียกลางดึก แม่เด็กเผยเลิก2ปี-มึนสาเหตุ

หนุ่มปาดคอฆ่าลูกวัย 5 ขวบ อ้างมาตามหาเมียแต่ไม่เจอ แล้วซื้อเบียร์มาดื่มข้างถนนพัฒนาการ ตอนเช้าอุ้มลูกร่างโชกเลือดพลเมืองดีแจ้ง ตร.ตรวจสอบ พบพูดไม่รู้เรื่อง มีแผลใช้ขวดเบียร์ปาดคอตัวเองเหมือนลูก นำส่งร.พ.อาการยังสาหัส เมียรุดให้การ เผยเลิกกันมา 2 ปี ไม่เคยตามง้อ ยังมึนสาเหตุฆ่าลูก

เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 24 ส.ค. ร.ต.ท.ศิริพงษ์ วรรณสัมผัส รอง สว.(สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุพ่อใช้เศษขวดเบียร์ปาดคอลูกชายเสียชีวิต หน้าปั๊มน้ำมันพีที ถนนพัฒนาการ แขวง-เขตประเวศ จึงรายงาน ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.จตุภูมิ มุสซาเคน รอง ผกก.สส.(สอบสวน) สน.ประเวศ และฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวช และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่บริเวณสวนหย่อมหน้าปั๊มน้ำมันพีที พบนายมนตรี แสงยา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ซอยอ่อนนุช 66 แยก 19-7 แขวง-เขตประเวศ กำลังกอดศพลูก และมีอาการเหม่อลอย พูดจาวกวน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ ด.ช.ต้นกล้า แสงยา อายุ 5 ขวบ ที่ลำคอมีบาดแผลถูกบาดด้วยของมีคม เป็นแผลยาวประมาณ 10 ซ.ม. ลึกจนถึงหลอดลม

พ.ต.อ.อลงกรณ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. นายมนตรีได้เรียกรถ จยย.รับจ้างมาจากซอยอ่อนนุช 64 เพื่อมาตามหาภรรยาในซอยพัฒนาการ 78 โดยให้รถวนอยู่ในซอยประมาณ 1 ช.ม. ก่อนจะให้มาส่งที่ปากซอยพัฒนาการ 78 โดย จยย.รับจ้างเรียกค่าโดยสาร 100 บาท แต่นายมนตรีไม่มีเงินจ่ายจึงให้บัตรประชาชนกับคนขับรถ จยย.รับจ้างไว้ จากนั้นเดินไปซื้อเบียร์ลีโอ 2 ขวด มานั่งดื่มที่หน้าตึกแถวหน้าร้านขายหลังคารถกระบะ ริมถนนพัฒนาการ (ขาเข้า) มุ่งหน้าแยกคลองตัน ซึ่งอยู่เยื้องกับปั๊มน้ำมันพีที ประมาณ 50 เมตร

จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. นายมนตรีได้เดินอุ้มลูกที่ชุ่มไปด้วยเลือด และใช้มือปิดที่ลำคอของเด็ก ข้ามถนนมาที่หน้าปั๊มก่อนวางร่างของลูกลงกับพื้น พูดจาวกไปวนมา ผู้เห็นเหตุการณ์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าที่ตัว แขน และลำคอของนายมนตรีมีร่องรอยถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ จึงรีบนำตัวส่งร.พ.สิรินธร คาดว่าหลังก่อเหตุใช้เศษแก้วขวดเบียร์ปาดคอลูกชายแล้วพยายามฆ่าตัวตายตาม

ที่ สน.ประเวศ น.ส.ราณี แสงยา อายุ 33 ปี พี่สาวของนายมนตรี ได้เข้าให้ปากคำกับร.ต.ท.ศิริพงษ์ เจ้าของคดี โดยมีพ.ต.อ.อลงกรณ์ร่วมสอบปากคำด้วย

น.ส.ราณีกล่าวว่า น้องชายเป็นคนงานก่อสร้าง ก่อนหน้านี้อยู่กินกับนางปรางทอง ศรีกลั่น อายุ 34 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนแรกเป็นชายอายุ 11 ขวบ คนกลางคือน้องต้นกล้าที่เสียชีวิต อายุ 4 ขวบ 11 เดือน และคนเล็กผู้หญิงอายุ 2 ขวบ ทั้งคู่หย่าร้างกันมา 3 ปี เนื่องจากทางแม่ไม่ชอบนางปรางทอง แต่ก็ยังไปมาหาสู่และส่งเสียให้เงินทองกัน โดยนายมนตรีได้เลี้ยงลูกชาย 2 คน ส่วนนางปรางทองเลี้ยงลูกสาวคนเล็ก จนกระทั่งเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นางปรางทองไปอยู่กับสามีใหม่ที่ จ.ชลบุรี ทำให้นายมนตรีเกิดความเครียด ทั้งนี้ ตั้งแต่มีลูก น้องชายก็ตั้งใจทำมาหากิน นานๆ จะกินเหล้าขาวสักครั้ง ครั้งสุดท้ายไปเจอน้องชายและหลานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก กระทั่งมา ทราบข่าว

ด้านนางฉันทนา ศรีกลั่น อายุ 55 ปี มารดาของนางปรางทอง ยายของน้องต้นกล้า กล่าวหลังให้ปากคำว่า เลี้ยงน้องต้นกล้ามาตั้งแต่ยังแบเบาะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพ่อแท้ๆ ถึงทำกับลูกได้ พยายามขอหลานมาเลี้ยงก็ไม่ยอมให้ ลูกสาวตนโดนนายมนตรีทำร้ายตบตีอยู่หลายครั้ง จนทนไม่ได้ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น จึงเลิกรากันไปด้วยดี และตกลงว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตลอดเวลานายมนตรีก็ไม่เคยมาง้อขอคืนดี ส่วนที่บอกว่าเครียดเรื่องไม่มีเงินคิดว่าไม่ใช่ เพราะแม่ของนายมนตรีที่อยู่ต่างประเทศก็ยังส่งเงินให้นายมนตรี ยังพอแบ่งรับแบ่งสู้ได้

นางฉันทนากล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกชายคนโตอายุ 11 ขวบ ยังไม่รู้ว่าน้องเสียชีวิตแล้ว โดยเมื่อคืนนายมนตรีได้เอาลูกชายไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อน ก่อนจะพาน้องต้นกล้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ถ้าเจอหน้านายมนตรีจะถามว่าจิตใจทำด้วยอะไร เมื่อรู้ข่าวตนช็อก ยังคิดว่าตัวเองฝันไป ทำไมไม่ฆ่าตัวเอง ไปฆ่าหลาน เด็กไปทำอะไรให้ ทำไมไปทำน้องต้นกล้าแบบนี้ 3-4 วันที่ผ่านมาตื่นมาก็เห็นแต่หน้าหลาน อยากไปเจอหลาน เงินออกสิ้นเดือนนี้ตั้งใจว่าจะไปนอนกับหลานสัก 2 วัน พาหลานไปเที่ยวห้างซีคอนแต่คงไม่ได้พาหลานไปเที่ยวแล้ว

ขณะที่นางปรางทองได้เดินทางมาพร้อมบุตรสาวคนเล็กเพื่อให้ปากคำ โดยพ.ต.อ. อลงกรณ์สอบปากคำด้วยตัวเอง

นางปรางทองกล่าวว่า ทราบข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเลิกราจากนายมนตรีมา 2 ปีแล้ว ก่อนเลิกรากันได้ตกลงแบ่งลูกกันไปเลี้ยง และตกลงกันว่าสามารถไปหาลูกได้ตามปกติ ที่ผ่านมาติดต่อผ่านลูกชายโดยตลอด ไม่ได้ติดต่อหานายมนตรีโดยตรง ล่าสุดคือเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน

นางปรางทองกล่าวว่า สาเหตุคาดว่าเกิดจากความเครียด แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เนื่องจากนายมนตรีมีกำลังทรัพย์ และหน้าที่การงานที่สามารถเลี้ยงลูกได้ ส่วนเรื่องที่เลิกรากันก็ผ่านมานานแล้ว จึงไม่ใช่สาเหตุ ทั้งนี้ นายมนตรีได้โทรศัพท์มาบ้างแต่ไม่เคยง้อขอคืนดี โดยนายมนตรีรักลูกทั้งสองคนมาก ดูแลตลอด จึงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีการทะเลาะหรือลางบอกเหตุแต่อย่างใด

นางปรางทองกล่าวด้วยว่า อยากบอกนายมนตรีว่าปากบอกว่ารักลูกมาก แต่ทำไมถึงทำเช่นนี้ ตอนนี้ลูกตายแต่ตัวเองไม่ตาย อย่างไรก็ขออโหสิกรรมให้ แต่คงไม่ไปเยี่ยมหรือพูดคุยกับนายมนตรี ทั้งนี้ ในส่วนของลูกชายคนโตคงต้องพูดคุยกันอีกครั้งจึงจะหาข้อสรุปได้ว่าจะสามารถนำไปเลี้ยงได้หรือไม่ ส่วนบุตรชายคนกลางในวันที่ 25 ส.ค.จะเดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตร.ตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนจะบำเพ็ญกุศลศพที่ใดอยู่ระหว่างปรึกษาหารือกัน

พ.ต.อ.อลงกรณ์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านายมนตรีมีอาการน้อยใจบ่อยครั้ง ว่าทำไมต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ภรรยาก็ทิ้งไป ซึ่งก่อนหน้านี้นายมนตรีเคยพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้เชือกผูกคอตัวเองแต่ลูกเห็นเข้าจึงรอดมาได้ นายมนตรีจะรักน้องต้นกล้าที่เสียชีวิตมาก ไปไหนมาไหนจะเอาไปด้วย

พ.ต.อ.อลงกรณ์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเกิดจากความเครียด ไม่มีเงิน และน้อยใจภรรยา เพราะนายมนตรีพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว ส่วนอาการของนายมนตรีแพทย์แจ้งว่าต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด มีโอกาสเป็นตายเท่ากัน เพราะมีบาดแผลรอบลำคอจากขวดเบียร์ จึงยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และให้ เจ้าหน้าที่เฝ้าดูอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าว ในเวลา 01.00 น. ขณะที่พ.ต.ท.กิตติพงษ์ สิมมาลี รอง ผกก.ป.สน.ประเวศ และพ.ต.ต.นิวัฒน์ บรรณสาร สวป.สน.ประเวศ ร.ต.ท.เพชรทอง กันยาประสิทธิ์ ด.ต.สุวิทย์ พาลาด ด.ต.สมเกียร พรหม เจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบออกตรวจมาถึงซอยพัฒนาการ 78 พบนายมนตรีกำลังเดินอุ้มเด็กพาดบ่า ลักษณะต้องสงสัยจึงเข้าตรวจค้น พบกระเป๋าสะพาย ภายในพบไขควงอุปกรณ์ก่อสร้าง และจากการสอบถามเด็กแล้วพบว่าเป็นพ่อลูกกัน จึงได้ถ่ายรูปไว้ขณะพูดคุย ไม่พบว่านายมนตรีมีอาการมึนเมา หรือมีกลิ่นเหล้า แต่อย่างใดกระทั่งมาก่อเหตุขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน