นศ.สาวเปิดใจ นาทีซ้อนแผนจับอาจารย์หื่น นัดอึ๊บแลกเกรด

โหนกระแสวันนี้เป็นเรื่องราวของนักศึกษาสาวซ้อนแผนจับอาจารย์ชายหื่นกามพาเข้าห้องพักรายวัน หวังขอ อึ๊บแลกเกรด โดยให้อาจารย์หญิงกับเพื่อนขับรถตามมาและโทรศัพท์แจ้งตำรวจบุกเข้าช่วยเหลือไว้ได้

รายการโหนกระแสวันที่ 4 ก.ย. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “น้องกิ๊ฟ” นามสมมติ (ผู้เสียหาย) เหยื่อโดนลวง อึ๊บแลกเกรด ที่มาพร้อม “ผศ.ดร.อาทิมา แป้นธัญญานนท์” ประธานสาขาวิชา และ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ทนายคลายทุกข์

น้องกิ๊ฟเป็นนักศึกษาปีไหน?
กิ๊ฟ : “ปีสอง ภาคพิเศษ เรียนเสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาไม่ได้เรียนค่ะ กิ๊ฟเรียนประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเจออาจารย์ท่านนี้ค่ะ เจอตอนเรียนกับเขาเทอมที่แล้ว ในมหาลัยก็ปกติ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”

เขาเคยมาก้อร้อก้อติกแสดงว่าชอบมั้ย?
กิ๊ฟ : “เขาไม่เคยแสดงอาการแบบนี้ในมหาวิทยาลัย เคยมีครั้งนึงเขานัดไปสอบวันหยุด หลังจากนั้นเหมือนทักมาว่ากลับบ้านหรือยังเดี๋ยวอาจารย์ไปส่ง ทักในแมสเซนเจอร์ วันนั้นเราบอกว่าเราไม่ได้เอารถมา เราสอบเสร็จเรากลับเอง เขาทักเพราะรู้วาเราไม่ได้เอารถมาเขาบอกว่าเดี๋ยวจะไปส่งนะ”

ที่มาที่ไป ซ้อนแผนจับ เกิดอะไรขึ้น?
กิ๊ฟ : “คือเราติดไอ รอแก้ รอส่งงาน ไอจะมีระยะเวลาในการแก้ ซึ่งเขาก็ไม่ให้เราแก้ ในวิชาระบบฐานข้อมูล”

อาจารย์ : “ธรรมดาไอจะแก้ได้ค่ะในระยะเวลาหนึ่งเทอมหลังจากที่ได้เกรดมาแล้ว ลักษณะการให้เกรดไอ เด็กอาจจะยังส่งงานอาจารย์ไม่ครบ การประเมินผลนั้นยังไม่สมบูรณ์ ก็อาจมีการให้เกรดไอนักศึกษา แล้วเรียกนักศึกษามาทำงาน พอทำงานเสร็จก็จะส่งคะแนนให้”

นศ.สาวย้อนนาทีอาจารย์หื่นลวงขออึ๊บแลกเกรด

ในมุมนี้บอกมั้ยขอสอบต่อจะส่งงานให้?
กิ๊ฟ : “พอเรารู้ว่าติดไอ ก็ทักไปว่าจะขอแก้ไอ เขาบอกว่าไม่ให้แก้ สอบไปแล้วก็ตามนั้น ตามกติกา รออาจารย์ส่งเกรดเปลี่ยนเป็นเอฟ เราไม่ได้พูดอะไร แต่เหมือนในใจรู้ว่าไอแก้ได้ ทีนี้เราก็ขอเขาแก้ เขาก็ไม่ให้แก้ก็ตามนั้น หลังจากนั้นเราก็ไม่รู้จะทำยังไง เรายังไม่ได้ปรึกษาใครว่าติดไอ แต่พอดีเจอเพื่อนที่เขาติดไอเหมือนกัน แต่ตัวเขาปรึกษาอาจารย์มาบ้างแล้ว เขาก็ให้แก้ ให้สอบซ่อม แต่ทางหนูไม่ได้ปรึกษาใครตอนนั้น หลังจากนั้นไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา ทีนี้อาจารย์พอทราบพฤติกรรมเขามาบ้าง ก็บอกว่าโดยส่วนมากที่เขาให้ติดไอ สาเหตุจากเรื่องประมาณนี้”

ให้นักศึกษาไปมีอะไรด้วยแล้วจะแก้ให้?
กิ๊ฟ : “ตอนแรกอาจารย์พูดว่าถ้าคนไหนเข้าตาเขาจะให้ไอไว้ก่อน”

ประเด็นเริ่มมารู้แกว เขาเสนออะไรหรือเปล่า?
กิ๊ฟ : “หลังจากนั้นพอเริ่มรู้เรื่องก็เริ่มปรึกษากันและนัดประชุมกับอาจารย์และที่ปรึกษา มีเพื่อนอีกคนนึงที่ตามไปด้วย ก็คุยกันว่าถ้าบอกให้เขาแก้ไอเฉยๆแน่นอนเขาต้องเกรงใจอาจารย์เขาอาจจะเปลี่ยนให้ หนูเลยบอกว่าถ้าแค่นั้นปัญหาก็จบแค่ตรงนี้ เขาก็ไปทำกับคนอื่นได้ ซึ่งเขาทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว หนูเลยรู้สึกว่ามันไม่โอเค ถ้าการที่คนอื่นมาเรียนแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้ คนที่โดนก็ไม่กล้าพูด แต่มาเล่าให้อาจารย์ฟังว่าโดนกระทำไปแล้วก็ไม่โอเค”

เราตกลงกันยังไง?
กิ๊ฟ : “วันนั้นเริ่มคิดว่าจะทำยังไง ก็เริ่มทักเขาไปว่าอาจารย์ว่างวันไหน เขาก็ถามกลับมาว่ามีอะไร เขาส่งสติ๊กเกอร์คำถามเร่งให้เราตอบ เที่ยงคืนกว่าๆ ก็ส่งมาว่าพรุ่งนี้ไปเจอห้องพักอาจารย์เก้าโมงเช้า”

ไปมั้ย?
กิ๊ฟ : “หนูตื่นมาเห็นข้อความ ก็เลยโทรหาอาจารย์ว่าเขานัดหนู 9 โมงเช้า อาจารย์มามหาลัยมั้ย อาจารย์บอกว่ายังไม่ถึง ขอเลทเขาไว้ก่อน เขาก็บอกว่าให้ไปรอที่หน้าห้องพักอาจารย์ พอซักพักเขาออกจากห้องที่สอนไปรอที่ห้องพักอาจารย์ ทักมาว่าสอนเสร็จแล้ว เขาพาหนูลงมาร้านกาแฟในมหาลัย หนูก็บอกว่าให้หนูแก้ไอเถอะ ไม่อยากติดไอไว้ เขาก็พูดว่าเรามีสาเหตุอะไร ทำไมอยากแก้ไอ หนูบอกว่าเสียดายค่าเทอม เงินสำหรับหนูไม่น้อย เพราะหามาก็ถามว่าจะให้หนูแก้ยังไง เขาถามว่าจะแก้ล่างหรือแก้บน เขาถามตรงซอกตึก หนูก็เลยถามกลับไปว่าแล้วจะให้หนูแก้อะไร เขาบอกแก้ให้หมดเลย”

ออกไปกับเขาตอนไหน?
กิ๊ฟ : “พอกลับขึ้นห้องปุ๊บ เขาส่งมาว่าอีก 5 นาทีเจอกัน หนูก็ถามว่าให้เจอตรงไหน เขาบอกว่าหน้าห้องคหกรรม พอเขามาก็ขึ้นรถเขาเลย เราก็ไม่รู้ว่ายังไงต่อ แต่เรานัดกับน้องไว้แล้ว”

อาจารย์ : “พอตอนเขาโทรมาตอนเช้าไม่ตกใจมากนัก เพื่อนเขาบอกมาว่ากิ๊ฟนัดอาจารย์ท่านนั้นแล้ว เราก็โอเค ตามไป”

กิ๊ฟ : “จุดแรกไปหน้าเซเว่น ไม่ไกลจากมหาลัยมาก จุดนั้นเขาจอดรถให้เราปิดมือถือ ขอดูในกระเป๋า ขอดูโทรศัพท์เรา คิดว่าเขาน่าจะระวังตัวพอสมควร เพราะเขาจอดและลงไปดูรอบๆ ไม่ได้เข้าเซเว่น”

อาจารย์ : “ตอนนั้นครูขับตามไป แต่ขับเลยไป เพราะถ้าจอดเขาจะรู้ เขาจำรถเราได้ พอเขาปิดโทรศัพท์ก็ตกใจแล้ว เพราะตั้งจีพีเอสไว้กลัวสัญญาณจะหาย ก็วนรถกลับไปที่จุดเดิม แต่ปรากฏว่าไม่อยู่แล้ว”

กิ๊ฟ : “เขาขับพาไปแฟมิลี่ โทรศัพท์อยู่ในมือหนู หนูก็แอบเปิดไว้ เขาลงจากรถและไปซื้อขอในแฟมิลี่ เราอยู่บนรถ ก็ถามว่าซื้ออะไร เขาบอกว่าเขาซื้อเป๊ปซี่ เราก็โอเคตามนั้น ได้จังหวะก็รีบทักหาน้อง หาอาจารย์”

ก่อนไปถึงจุดหมาย ระหว่างนั่งรถเขาพูดคุยอะไรกับเรามั้ย?
กิ๊ฟ : “ไม่ค่ะ เหมือนพูดคุยตั้งแต่ที่เซเว่นแล้วว่าถ้าเขาพาเราไป จะกล้าทำจริงๆเหรอ ทำไมไม่กลัวเหรอ เราก็บอกว่าเรากลัว แต่เราไม่รู้ทำยังไง เราไม่อยากติดไอ เขาบอกให้เราถอดเสื้อ ถอดอะไรหน้าเซเว่น หนูก็บอกว่าไม่ใช่จุดที่จะถอด มันโล่งเกินไป เขาบอกแค่นี้ยังไม่กล้าถอดเลย ไปอยู่ในนั้นจริงจะกล้าถอดเหรอ”

ไปถึงอพาร์ทเมนต์แล้วยังไงต่อ?
กิ๊ฟ : “เขาก็จอดรถและลงไป เขาบอกว่าไปดูห้องก่อนว่าห้องว่างมั้ย พอเขาลงไปปุ๊บเราก็ทักหาอาจารย์ทันที ว่าเราอยู่ตรงนี้แต่ไม่รู้ที่ไหน ทางน้องบอกว่าอยู่ข้างๆ อพาร์ทเมนต์แล้ว”

อาจารย์ : “ตามไปห่างๆ ค่ะ พอจะรู้ว่าตรงนั้นคือจุดไหน ขับผ่านไปแล้วจีพีเอสมันบอกอยู่แล้ว รถอาจารย์ท่านนั้นจอดอยู่ ก็เลยเข้าไปข้างหลังเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต แล้วไปจอดแอบอยู่ข้างหลัง”

เขาเดินกลับมารับ?
กิ๊ฟ : “ใช่ค่ะ เขาพาเข้าไปในห้อง เราก็ไม่รู้ว่าห้องไหน พอรู้เลขห้องปุ๊บ 019 พอเข้าไปปุ๊บเราก็ขอเข้าห้องน้ำก่อน เขาก็บอกให้เราวางโทรศัพท์ เราเหมือนบอกว่ารีบเข้าห้องน้ำก่อน เข้าไปปุ๊บก็ส่งเลขห้องทันทีว่าอยู่ห้องนี้ ข้างนอกบอกว่าแจ้งตำรวจแล้ว พอออกมาจากห้องน้ำเขาก็ให้เราถอดออก เหมือนถอดเสื้อผ้าออก เราก็ถ้าอาจารย์อยากให้ถอด อาจารย์ก็ถอดให้หนูสิ เราไม่รู้จุดนั้นข้างนอกจะเข้ามาช่วยเราตอนไหน เราพยายามทำให้ตัวเราเซฟที่สุด ก็ต้องมีบ้างที่ทำให้เขาตายใจ เขาก็ปลดกระดุม 1 เม็ด หนูก็ถอยออกมา ไม่ให้มากกว่านั้นเอาผ้าขนหนูมาห่มข้างใน โดยที่หนูถอดอันอื่นออกเอง เขาก็เลยลุกไปเข้าห้องน้ำ”

เราอายุเท่าไหร่?
กิ๊ฟ : “26 ค่ะ”

หลังจากนั้น เราใส่กระโจมอกอยู่ข้างนอก ทำไงต่อ?
กิ๊ฟ : “ก็ไปเปิดล็อกประตู ให้ข้างนอกเข้ามาเร็วที่สุด เขาออกจากห้องน้ำมาเห็นเราถอดไม่หมด ก็จะให้เราถอดออกให้หมด หนูเลยบอกว่าถ้าจะให้หนูถอด อาจารย์ก็ถอดบ้างสิ เราก็บ่ายเบี่ยงว่าอาจารย์มีถุงยางหรือเปล่า เขาบอกว่ามี ซื้อมาแล้ว หนูบอกว่างั้นขอดูหน่อย เขาถามว่าจะดูทำไม เขาก็ควักออกมาเป็นถุงยางกล่องใหม่ น่าจะซื้อที่แฟมิลี่”

ฝั่งเขากล่าวหาว่าน้องขึ้นคร่อมด้วย?
กิ๊ฟ : “ยอมรับค่ะ แต่เราไม่ได้ขึ้นคร่อมจุดเขาตรงนั้น เรานั่งประมาณต้นขา อยากให้เขาตายใจและช่วยประวิงเวลาด้วย ถามว่าเรากลัวมั้ย เรากลัว ไม่อยากให้เยอะไปกว่านั้น เราขึ้นแล้วเราก็ลง ก็เหมือนจะทำยังไงให้ข้างนอกเข้ามาช่วยเราเร็วที่สุด เขาก็นอนอยู่ไม่ยอมถอดจนกว่าเราจะถอดให้หมด เขาพูดเองว่าให้หนูถอดออกให้หมดเขาถึงจะถอด หนูคงทำไม่ได้ขนาดนั้น เขาก็นอน บอกให้เรานอน จะรีบไปไหน หนูบอกหนูมีเรียนตอนบ่าย เขาบอกว่าเขาซื้อถุงยางมาขนาดนี้ยังจะรีบอีกเหรอ เราไม่รู้ทำยังไง ก็เอนตัวนอนข้างๆ เขา เขาก็พยายามเอามือมาล้วงหน้าอก เราก็ตกใจ ก็เด้งตัวออก ผลักมือเขาออก ซักพักทางตร.ก็มาเคาะประตู”

ตอนเปิดประตูเข้าไป อาจารย์เห็นน้องสภาพไหน?
อาจารย์ : “นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ แล้วตอนเปิดประตูไป ตำรวจก็พุ่งเข้าไปก่อน เขามีกล้องมีอะไร อาจารย์ก็เดินออกมาจากห้อง ก็เชิญตัวออกมาจากห้องมาเห็นพี่ว่าอยู่หน้าห้องเขาก็ตกใจ บอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไร เราก็บอกว่าคุณไม่ควรออกมาตั้งแต่แรกแล้ว คุณควรอยู่แค่ที่มหาวิทยาลัย ตร.ก็เลยพาตัวขึ้นรถไป”

เขาบอกว่าเขาต้องการรู้ว่าเด็กคนนี้ ทำอย่างนี้ได้ยังไง เด็กคนนี้อาจทำแบบนี้กับอาจารย์คนอื่นก็ได้ เขาอยากจะพิสูจน์?
อาจารย์ : “ถ้าเขาต้องการพิสูจน์จริง คิดว่าเขาน่าจะให้เพื่อนเขาตามมา แต่ทีนี้ไม่เกิดเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น”

ทนายเดชา เมื่อวานดูเพจของพี่ เดือดมากเรื่องนี้ สรุปยังไง?
ทนาย : “คดีนี้ผิดชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างนี้ไม่ใช่แก้เกรด แต่ให้แก้ผ้า นี่ก็อนาจารแล้ว ไปอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อให้เปิดดูหน่อย ดูหน้าอก อันนี้เป็นการกระทำที่ไม่สมควร แค่นี้ก็จบแล้ว ยังไม่รวมถึงอะไรอื่นๆ
ที่ไม่เหมาะสม”

เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำต้องการมีเพศสัมพันธ์ แค่ต้องการจับผิดน้องคนนี้ว่ามาทำแบบนี้ได้ยังไง?
ทนาย : “เขามีอำนาจอะไรไปทำแบบนี้ เขาเป็นฝ่ายปกครองหรือเปล่า วิธีการจับผิดลูกศิษย์ ต้องพาเข้าโรงแรมม่านรูด เข้าโรงแรมเหรอ ผมว่าไม่น่ามีหรอก พฤติกรรมมันชัด ฟังไม่ขึ้น แถข้างๆ คูๆ ถลอกหมดแล้ว
ดูแล้วไปไม่รอดหรอกครับ”

ในมุมอาจารย์เอง เท่าที่เคยสอนอยู่ที่นั่นเคยเห็นพฤติกรรมครูคนนี้มั้ย?
อาจารย์ : “มีเด็กร้องเรียนหลายราย แต่ทีนี้เด็กเขากลัวส่งผลถึงเกรดเขา เขาเป็นอาจารย์ประจำวิชา สอนหลายวิชา เด็กก็จะกลัวก็ไม่มีใครกล้าร้องเรียนเป็นเรื่องราว ได้ยินแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้างขึ้นมา”

ในมุมสำเร็จเคยมีมั้ย?
อาจารย์ : “เขาคงไม่มาบอกหรอกค่ะ”

อย่างนี้ถือว่าสำเร็จหรือยัง?
ทนาย : “สำเร็จแล้ว ถือว่าอนาจาร ให้เขาถอดเสื้อผ้า ไม่ต้องมีการล่วงละเมิดหรอก แค่ให้เขาแก้ผ้าแก้ผ่อนก็ผิดแล้ว คุกร้อยเปอร์เซ็นต์ 10 ปีเลย ระวังเข้าไปเรือนจำจะเจอประตูหลัง”

ฝั่งอาจารย์ท่านนั้นถูกพักงานหรือยัง?
อาจารย์ : “ให้ออกจากราชการชั่วคราว โทษทางวินัยโดนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะการที่ไปกับนักศึกษาแบบนี้ไม่ว่าจะด้วยกรณีไหนไม่เหมาะสม ไม่สามารถทำได้ เป็นความผิดร้ายแรง โทษทางอาญาต้องไปตามกระบวนการว่าจะเกิดอะไรขึ้น ท่านอธิการบดีก็กำลังจะออกมาตรการดูแลนักศึกษาที่ติดไอ ตอนนี้กำลังไปย้อนเกรดอาจารย์ท่านนั้น 5 ปีย้อนหลังว่ามีกรณีไหนที่ส่อเค้าหรือเปล่า”

น้องเอาเรื่องถึงที่สุดมั้ย?
กิ๊ฟ : “ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย เราคิดว่าเขาทำมามากเกินพอแล้ว เราไม่อยากให้เขาไปทำกับใครอีกที่เราออกมาทำเพราะคนส่วนมากที่โดนกระทำไม่กล้า แต่เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเด็กมาเรียนแต่โดนแบบนี้”

กลัวมั้ยว่าจะไม่เป็นไปตามแผนที่เราวาง ถ้าวันนั้นเขายึดโทรศัพท์เราไปจะทำยังไง?
กิ๊ฟ : “กลัวค่ะ กลัวมาก อาจารย์จะรู้เลยว่าหลังตร.ไปช่วยหนูออกมาจากห้องหนูเป็นยังไง กลัวแต่ตอนนั้นเราถอยไม่ได้ เราอยากให้ทุกอย่างสำเร็จไปด้วยดี อยากช่วยคนอื่นด้วยถอยไม่ได้ก็เต็มที่ แต่คิดว่าทางอาจารย์ตามเราอยู่ ถ้าฉุกเฉินหรือเราเงียบหายไป เขาก็ต้องช่วยเราทันที”

กรณีนี้ทางโรงเรียนดูแลยังไง ถ้าฝั่งโน้นจะมาตอแย?
อาจารย์ : “ตอนนี้ถูกพักราชการก็ห้ามเข้ามหาวิทยาลัย”

ห้ามเหยียบเข้าไปเลย?
ทนาย : “ถ้าเข้าไปก็ผิด บุกรุกสถานที่ราชการ”
อาจารย์ : “ในรายวิชาที่อาจารย์ท่านนั้นสอน ก็กำลังดูแลจัดผู้สอนแทน”
ทนาย : “ทางมหาลัยต้องเข้มงวดมากขึ้น อย่างที่อาจารย์พูดต้องวางแนวปฏิบัติ ลูกศิษย์ที่มีปัญหาการเรียน ถ้าติดไอต้องทำอะไรบ้าง เด็กสมัยนี้บางครั้งอาจยอมก็ได้ คนรุ่นใหม่ใจถึงอยู่”

มีเด็กบางคนที่กลัวและยอม มีมั้ย?
อาจารย์ : “คาดว่านะคะ”
ทนาย : “ไม่ได้ที่เดียวหรอก มีหลายที่ เด็กๆ ติดไอก็มีเรื่องแบบนี้”

น้องอยากฝากอะไร?
กิ๊ฟ : “ถ้าใครเจออะไรแบบนี้อย่าไปยอมเขาถ้ายิ่งยอมเขายิ่งได้ใจ การที่เราลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างเป็นการช่วยเหลือคนอื่นไปในตัว เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีความจำเป็นจะต้องอาย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน